ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๑๓๓. ครูบาอาจารย์ของหลวงปู่

นอกจากบิดามารดา ญาติสนิท ท่านเจ้าเมืองสุรินทร์ที่ให้ความอุปการะ และเพื่อนร่วมคณะละครที่หลวงปู่สังกัดอยู่ ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือหลวงปู่ตลอด ๒๒ ปีในการใช้ชีวิตฆราวาสแล้ว ก็มีครูบาอาจารย์ในทางธรรมที่เป็นผู้มีพระคุณแก่หลวงปู่ ในฐานะผู้ร่วมสร้างสมให้หลวงปู่ได้พบความสำเร็จในทางธรรม มีดังนี้

๑. พระครูวิมลศีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ให้การบรรพชาแก่หลวงปู่ ณ พัทธสีมา วัดจุมพลสุทธาวาส ในเมืองสุรินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยมี พระครูบึก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูฤทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

๒. หลวงพ่อแอก เจ้าอาวาสวัดคอโค ตำบลคอโค อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ นับเป็นพระอาจารย์สอนกัมมัฎฐานองค์แรกแก่หลวงปู่ ซึ่งได้เพียงสอนให้ฝึกหัดท่อง สวด และฝึกวัตรปฏิบัติที่นิยมในสมัยนั้น รวมทั้งฝึกบริกรรมภาวนาโดยวิธี "อัญเชิญปีติทั้ง ๕" หลวงปู่ได้เฝ้าเพียรรับการอบรมกับ หลวงพ่อแอก เป็นเวลา ๖ ปี ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๓ - ๒๔๕๙ ก่อนเดินทางไปศึกษาด้านปริยัติธรรมที่จังหวัดอุบลราชธานี

๓. พระมหารัฐ พระอุปัชฌาย์ เมื่อหลวงปู่ได้ญัตติสิกขาบทจากมหานิกายมาอุปสมบทในธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๔๖๑ ณ พัทธสีมาวัดสุทัศนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระศาสนดิลก เจ้าคณะมณฑลอุดรในสมัยนั้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์

๔. หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายอรัญวาสี หรือฝ่ายธุดงค์กัมมัฎฐานเป็นครูบาอาจารย์ที่หลวงปู่ให้ความเคารพศรัทธามากที่สุด ในฐานะที่เป็นผู้ให้แนวทางการภาวนา และวางแบบอย่างในการถือธุดงควัตร หลวงปู่ได้เป็นกำลังสำคัญของ พระอาจารย์ใหญ่ ในการเผยแผ่แนวคำสอน ในฐานะแม่ทัพธรรมที่มีความรับผิดชอบในพื้นที่ภาคอิสานตอนใต้ บริเวณจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จึงเป็นผู้ให้ความงอกงาม ในทางธรรมแก่หลวงปู่อย่างแท้จริง ในช่วงท้ายสุด หลวงปู่มั่น มาพำนักอยู่ประจำที่ ที่วัดป่าบ้านหนองผือ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร และมรณภาพที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมืองสกลนคร เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒

๕. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) ในสมัยที่ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์ เจ้าคณะมณฑลนครราชสีมา เป็นผู้ให้ความอุปการะและสนับสนุนการศึกษาด้านปริยัติแก่หลวงปู่ ในสมัยที่ศึกษาอยู่ที่วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี พระองค์ท่านเป็นผู้วางแผน และสั่งการให้หลวงปู่มาพัฒนาวัดบูรพาราม ให้เป็นวัดธรรมยุติกนิกาย เป็นแห่งแรกในภาคอิสานตอนใต้เป็นเหตุให้หลวงปู่ต้องพำนักประจำที่ ที่วัดแห่งนี้ติดต่อกันเป็นเวลา ๕๐ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๗๗ จนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๖

๖. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด้จพระสังฆราช พระองค์มีความสนิทสนมคุ้นเคยและติดต่อกันกับหลวงปู่เสมอมา ตั้งแต่สมัยดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฒฺโน) เจ้าอาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เคยไปร่วมงานฉลองอายุของหลวงปู่เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ครั้นเมื่อหลวงปู่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พระองค์ท่านได้ให้ความอนุเคราะห์ และช่วยประสานงานให้ทุกอย่าง นอกจากนี้ยังได้เสด็จไปเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๒๘ และเป็นประธานบรรจุอัฐิธาตุ และเปิดพิพิธภัณฑ์กัมมัฎฐานของหลวงปู่ เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๘

หน้าต่อไป