ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๑๓๖. งานของคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ของหลวงปู่

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล มาอยู่ประจำที่วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๗๗ เมื่อท่านอายุ ๔๖ ปี พรรษา ๒๔ หลังจากวัดบูรพารามได้รับการสถาปนาเป็นวัดป่าธรรมยุตในปี พ.ศ. ๒๔๗๖

งานของคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ของหลวงปู่มีตามลำดับดังนี้

ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงรัตนบุรี

๒๔๗๙ เริ่มลงมือก่อสร้างโบสถ์วัดบูรพาราม แล้วเสร็จปี พ.ศ. ๒๔๙๓ รวมเวลาก่อสร้าง ๑๔ ปี

๑ มีนาคม ๒๔๗๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะแขวงรัตนบุรี โดยมีสมณศักดิ์ที่ พระครูรัตนากรวิสุทธิ์

๒๔ พฤษภาคม ๒๔๘๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์สามัญ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย

๒๔ เมษายน ๒๔๙๐ เป็นประธานสงฆ์ในการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง เพื่อเป็นพระประธานประดิษฐานในอุโบสถ

๒๔๙๔ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองสุรินทร์ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย

๑ พฤษภาคม ๒๕๐๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย

๒๕๐๔ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระรัตนากรวิสุทธิ์

๒๕๐๕ ปฏิสังขรณ์มณฑปหลวงพ่อพระชีว์ เปลี่ยนจากอาคารไม้เป็นอาคารจตุรมุข คอนกรีตเสริมเหล็ก

๒๕๑๑ กรมการศาสนาประกาศให้วัดบูรพารามเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง

๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดบูรพารามเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ประเภทสามัญ

๒๕๒๐ ได้สร้างศาลาการเปรียญ "ศาลาอตุโลเถระ" ขนาด ๑๖x๔๖ เมตร มูลค่าประมาณ ๑.๘ ล้านบาทเศษ

๒๕๒๒ สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม "ราชบูรพา" เป็นตึก ๒ ชั้น ๘ ห้องเรียน มูลค่าประมาณ ๑.๒ ล้านบาทเศษ

๒ ธันวาคม ๒๕๒๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชวุฒาจารย์ ศาสนราชธุรกิจ ยติคณิสสรบวรสังฆราช คามวาสี

๑๘ ธันวาคม ๒๕๒๒ ล้นเกล้าทั้ง ๒ พระองค์ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จนมัสการหลวงปู่ ที่วัดบูรพาราม ได้แสดงพระธรรมเทศนาถวายด้วย

๒๙ ตุลาคม ๒๕๒๖ เวลา ๑๖.๐๐ น. ออกรับแขกเพื่อการสั่งลาครั้งสุดท้ายตามธรรมเนียม ทั้งพระสงฆ์และประชาชนเข้ากราบ เวลา ๒๒.๐๐ น. เริ่มแสดงธรรมบทสุดท้าย ออกมาลาสถานที่ด้วยองค์ท่านเอง

๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๖ เวลา ๐๒.๐๐ น. เทศน์บทสุดท้ายเรื่องลักษณาการปรินิพพานของพระพุทธองค์ เวลา ๐๔.๑๓ น. แสดงความเป็น "ตถตา" คือแสดงให้เห็นความเป็นธรรมดาแก่ชาวโลก ด้วยการละสังขารเหลือไว้แต่มรดกธรรมให้ชาวโลกถือเป็นอุทาหรณ์

๘ กรกฎาคม ๒๕๒๘ งานพระราชทานเพลิงศพจัดขึ้นที่เมรุชั่วคราว ณ วนอุทยานแห่งชาติ เขาพนมสวาย ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ และ น.อ. วีระยุทธ ดิษยะศริน เสด็จมาในงาน

หน้าต่อไป