 |
|
|
|
| Robbie เข้าเป็นสมาชิกคนที่ 5 ของ Take That เมื่ออายุ 16 ปี และออกจากวงเมื่ออายุ 21 ปี ก่อนหน้าที่ Take That จะประกาศเลิกวงในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1996 ซึ่งตรงกับวันเกิดของเขาพอดี | ||
| หลังจากเสร็จสิ้นคดีฟ้องร้องกับบริษัทเดิม Robbie ได้เซ็นสัญญากับ Chrysalis และซิงเกิลแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวของเขาคือ Freedom ซึ่งเป็นเพลงเก่าของ George Michael ก็วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 1996 และติดอันดับที่ 2 ของ UK Charts รองจากเพลง Wannabe ของ Spice Girls | ||
| เดือนมิถุนายน 1997 Robbie เข้าบำบัดอาการติดเหล้าและยาเสพติดที่ Clouds House Drink and Drugs Rehabilitation Clinic ตามคำแนะนำของ Elton John ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวกับที่ Elton John และ George Michael เคยเข้ารับการบำบัดมาก่อน | ||
| ซิงเกิลต่อๆมาจากอัลบั้มแรก Life Thru A Lens ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก จนกระทั่งเพลง Angels ออกวางจำหน่ายเมื่อธันวาคม 1997 ทำให้ยอดขายอัลบั้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ Angels เป็นซิงเกิ้ลที่ขายได้มากที่สุดของเขา | ||
| Robbie Williams
ได้รับรางวัลทางดนตรีจำนวนมาก รางวัลที่สำคัญคือ Brit Awards
ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลนี้มากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ รวม 15
รางวัล โดยได้รับเมื่อครั้งอยู่ Take That 4 รางวัล และในฐานะศิลปินเดี่ยวอีก
11 รางวัล ดังนี้ 1993 - Best Single (Could It Be Magic) 1994 - Best Single (Pray), Best Video (Pray) 1996 - Best Single (Back For Good) 1999 - Best British Male, Best Single (Angels), Best Video (Millennium) 2000 - Best Single (She's The One), Best Video (She's The One) 2001 - Best British Male, Best Single (Rock DJ), Best Video (Rock DJ) 2002 - Best British Male 2003 - Best British Male 2005 - Best 25th Brit Awards Song (Angels) |
||
| ซิงเกิลที่ขึ้นอันดับหนึ่งใน UK Charts ได้แก่ Millennium, She's The One/It's Only Us, Rock DJ, Eternity/The Road To Mandalay, Somethin' Stupid และ Radio | ||
| Robbie ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การ UNICEF ต่อจาก Ian Dury นักร้อง-นักดนตรีผู้ล่วงลับ โดย Robbie นำเงินที่ได้รับจากการเป็น presenter โฆษณา Pepsi มาตั้งเป็นกองทุน Give It Sum เพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสใน Stoke-on-Trent รวมทั้งเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ในทวีปแอฟริกา |
