ขณะที่หยดน้ำกระทบภาชนะโลหะที่มีความร้อนสูง น้ำที่อยู่ล่างสุดก็จะกลายเป็นไอน้ำและจะเกาะตัวเป็นชั้นไอน้ำยังไม่กระจายสลายตัว ไปไหนจึงช่วยกันอุ้มหยดน้ำอื่นไม่ให้ตกถึงกระทะในทันทีแต่หยดน้ำพาความร้อนถ่ายเทช้าไม่สามารถทำให้หยดน้ำกลายเป็นไอทั้งหมด ในทันที การที่ชั้นไอน้ำอุ้มหยดน้ำไว้เช่นนี้จึงทำให้เกิดการกระเด็นของหยดน้ำบนกระทะ
ปกติอุณหภูมิที่ฝ่ามือของคนเราจะอยู่ระหว่าง 25 ถึง 30 องศาเซลเซียล ส่วนลมที่เป่าออกจากปากในลักษณะอ้าปากจะมีอุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียล ฉะนั้นเมื่ออ้าปากเป่าลมกับมือเบาๆ อากาศจากปอดที่อบอุ่นกว่าฝ่ามือ จึงทำให้มือรู้สึกอบอุ่น
น้ำธรรมดาเมื่ออยู่ในอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียล ก็จะเริ่มแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็งแต่น้ำทะเลจะสามารถกลายเป็นน้ำแข็งได้ต้องมีอุณหภูมิ ต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียล ทั้งนี้เพราะน้ำทะเลมีสารเกลือผสมอยู่มากมาย จึงมีจุดเยือกแข็งต่ำกว่าน้ำธรรมดาสภาพความเค็มของ น้ำทะเลยิ่งสูงจุดเยือกแข็งจะยิ่งต่ำ โอกาสที่จะกลายเป็นน้ำแข็งจึงน้อยมากมีน้ำทะเลบางแห่งถึงแม้อุณหภูมิจะลบกว่า 20 องศาเซลเซียล ก็ยังไม่กลายเป็นน้ำแข็งเลย
ขณะที่รถบรรทุกน้ำมันวิ่งไปน้ำมันในถังใหญ่จะเสียดสีกับขอบถังทำให้เกิดอนุภาคอิเล็กตรอนที่ถังน้ำมันและเนื่องจากล้อรถมียางรถยนต์ ซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้าหุ้มอยู่ อนุภาคอิเล็กตรอนที่เปลี่ยนแปลงจึงไม่สามารถถ่ายเทผ่านยางรถยนต์ลงสู่พื้นดินให้สมดุลได้จึงต้องมีเส้นลวดหรือ โซ่เหล็กผูกติดปล่อยลากกับพื้นเป็นตัวช่วยถ่ายเทเพราะอิเล็กตรอนมีมากเกินไปจะทำให้เกิดประกายไฟขึ้นทำให้ลุกไหม้และระเบิดได้ง่าย
แสงที่ส่องจากดวงดาวจะต้องผ่านชั้นบรรยากาศที่หนามากจึงสามารถส่องมายังโลกได้ บรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกหนาหลายร้อยกิโลเมตร แบ่งเป็นหลายชั้นตามลักษณะความหนาบางและอุณหภูมิของบรรยากาศชั้นต่างๆ ก็ไม่เหมือนกัน เมื่อแสงดาวส่องผ่านชั้นบรรยากาศ จึงทำให้เกิดการหักเหของแสง จึงทำให้มองเห็นคล้ายกับว่าดาวกำลังกะพริบระยิบระยับแพรวพราวเล่นตากับเรา
ปีแสงคือหน่วยที่นักดาราศาสตร์ใช้คำนวณระยะห่างของดวงดาว หมายถึงระยะทางที่แสงใช้เวลาเดินทางในหนึ่งปี ปีแสงจะเป็นหน่วยวัด ระยะความยาวมิใช่หน่วยบอกระยะเวลา แสงมีความเร็วสูงมากสามารถเดินทางได้ประมาณ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที หนึ่งปีแสง สามารถเดินทางได้ 94,000 ร้อยล้านกิโลเมตร หมายความว่า "หนึ่งปีแสง" มีความยาวเท่ากับ 94,000 ร้อยล้านกิโลเมตร
กำลังของลมจะเพิ่มขึ้นตามความสูงยิ่งอยู่บนอาคารสูงจะยิ่งรู้สึกลมพัดแรงผู้ที่อยู่ใกล้บริเวณเหนือพื้นดินจะมีต้นไม้อาคารบ้านเรือน และ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ อยู่โดยทั่วไป ลมที่พัดมาจึงต้องปะทะสิ่งกีดขวางต่างๆ ทำให้แรงลมลดลง ส่วนบนอาคารสูงวัตถุสิ่งก่อสร้างที่กีดขวาง มีอยู่น้อยมาก ดังนั้นลมที่พัดผ่านจึงรู้สึกแรงกว่ามาก
ส่วนประกอบของเกลือจากน้ำทะเลคือโซเดียมคลอไรด์และแมกนีเซียมคลอไรด์ ซึ่งมีอยู่ตามพื้นดินหินทั่วไปเมื่อฝนตกลงมาซะล้างสาร ดังกล่าว จากพื้นดินและหินไหลลงสู่แม่น้ำจนกระทั่งไหลไปรวมสะสมอยู่ในทะเล โดยไม่สามารถจะไหลถ่ายเทไปที่อื่นได้ ส่วนแสงอาทิตย์ ที่ส่องลงมา ทำให้น้ำทะเลกลายเป็นไอลอยขึ้นไปเป็นน้ำบริสุทธิ์ ทำให้น้ำในทะเลเข้มข้นมีความเค็มเพิ่มขึ้นทุกปี จนกระทั่งสามารถนำ น้ำทะเลให้แห้งกลายเป็นเกลือนำมารับประทานได้
หัวไม้ขีดที่ใช้จุดไฟจะเคลือบด้วยโปแตสเซียมคลอเรต เมื่อขีดกับกลัดด้านที่เคลือบฟอสฟอรัสจะทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ขึ้น เมื่อ โปแตสเซียมคลอเรตได้รับความร้อนก็จะสลายออกซิเจนออกมาช่วยเผาไหม้ซึ่งเป็นคุณสมบัติของออกซิเจนจึงทำให้ไม้ขีดมีเสียงดังฟู่ เนื่องจากมีความร้อนและออกซิเจนพอที่จะจุดไฟติดจึงเกิดไฟลุกติดขึ้นมา ส่วนก้านไม้ขีดที่ทำจากไม้เนื้ออ่อนจะผ่านการแช่น้ำมันสน ผสมพาราฟิน ทำให้หัวไม้ขีดลุกไหม้มาที่ก้านง่ายขึ้นและนานกว่า
น้ำสามารถดับไฟได้เพราะน้ำได้แยกวัตถุออกจากออกซิเจนในอากาศ เมื่อน้ำกระทบเข้ากับวัตถุร้อนก็จะดูดความร้อนออกจากวัตถุและ กลั่นตัวกลายเป็นไอ ไอน้ำนั้นจะลอยอยู่รอบๆ วัตถุทำให้วัตถุถูกแยกออกจากออกซิเจนในอากาศ เมื่อขาดออกซิเจนวัตถุก็ไม่สามารถที่จะ ลุกไหม้ต่อไปได้
ร่างกายของคนหรือสัตว์จะมีฟอสฟอรัสปะปนอยู่ เมื่อสิ้นชีวิตและถูกฝังไว้ใต้ดินก็จะค่อยๆ เน่าเปื่อยผุพังส่วนผสมของฟอสฟอรัสก็จะกลาย เป็นก๊าชไฮโดรเจนฟอสฟอรัส เล็ดลอดขึ้นมาตามโพรงดินเมื่อกระทำปฏิกิริยากับออกซิเจนก็จะเกิดการเผาไหม้ กลายเป็นดวงไฟสีเขียว ประกายไฟที่อ่อนมากมองไม่เห็นในเวลากลางวัน ครั้นถึงเวลากลางคืนมืดสนิท เราจึงสามารถมองเห็นได้และคิดงมงายเชื่อว่าเป็น ไฟผีตาโขมด |