ฤดูร้อนอุณหภูมิในอากาศตอนกลางวันสูงมากทำให้เกิดความแห้งแล้งต้นไม้จึงต้องการน้ำมากเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปคนปลูกต้นไม้ จึงจำเป็นต้องรอบรู้เรื่องเวลาที่เหมาะสมในการรดน้ำต้นไม้เพราะการรดน้ำจะทำให้อุณหภูมิในดินลดลงอย่างกะทันหันแต่อุณหภูมิรอบตัวยังคง เท่าเดิม ต้นไม้ที่อ่อนแอไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทันท่วงทีจึงตายไป ดังนั้นเวลารดน้ำต้นไม้ที่เหมาะสมที่สุด คือตอนเช้าตรู่หรือตอนเย็นหลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินแล้ว
ช่อดอกไม้สดเมื่อนำมาปักไว้ในแจกันได้ไม่กี่วันก็จะเหี่ยวเพราะปลายก้านที่จุ่มอยู่ในน้ำเกิดเน่าเปื่อยหรืออาจเป็นเพราะตรงรอยตัดที่ก้านถูก อุดตัน ด้วยน้ำยางที่ไหลออกมาปิดทางไม่ให้น้ำซึมเข้าไปหล่อเลี้ยงก้านได้ ดังนั้นก่อนที่จะเอาช่อดอกไม้ไปปักให้เผาไฟตรงรอยตัดที่ก้าน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและยังช่วยทำให้น้ำยางไม่ไหลออกมาปิดทางน้ำซึมเข้าไปหล่อเลี้ยงก้านได้อีกด้วยแต่วิธีนี้ใช้ได้กับดอกไม้บางชนิดเท่านั้น จึงควรศึกษาให้ดีเสียก่อนที่จะใช้วิธีนี้
ใบไม้ใบหนึ่งมีสารสีเขียว สีแดงและสีเหลืองรวมอยู่ด้วยกัน ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนใบไม้จะผลิตสารสีเขียวจำนวนมากออกมาเพื่อสร้าง อาหารทำให้ปริมาณของสีเขียวมีมากกว่าสีอื่นจึงสะท้อนสีเขียวออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดใบไม้ที่เราเห็นในสองฤดูส่วนมากจึงเป็นสีเขียว แต่ใน ฤดูใบไม้ร่วงอุณหภูมิลดลง สารสีเขียวในใบไม้ค่อยๆ ถูกทำลายไป ทำให้ปริมาณของสารสีเหลืองมีมากกว่าสีอื่นจึงสะท้อนสีเหลือง ออกมา ให้เห็น
ต้นไมยราบมีกลีบเลี้ยงที่ค่อนข้างใหญ่ที่ก้านใบและที่กิ่ง ข้างในกลีบเลี้ยงมีแผ่นเยื่อบางๆ และก้านใบยืดตัวและตั้งตรงได้ ต้นไมยราบเป็นต้นไม้ ที่มีความรู้สึกไวมาก ถ้าถูกรบกวนหรือกระทบเพียงเล็กน้อยน้ำในเยื่อบางๆ นี้ก็จะถูกระบายออกไป ทำให้ใบเล็กๆ และก้านใบอ่อนตัวและงอลง มองดูแล้วเหมือนกับว่ามันกำลังโค้งตัวลงทำความเคารพต่อแขกผู้มาเยือน
ในตัวผึ้งจะมีเหล็กแหลมแท่งเล็กๆ คล้ายเข็มฝังอยู่ต่อกับท่อปล่อยพิษกับอวัยวะภายในของมันไว้สำหรับป้องกันตัวโดยมีปลายข้างหนึ่งคล้าย ตะขอโผล่ออกมาใช้เกี่ยวติดผิวกายของศัตรูที่มาทำร้ายมันแล้วปล่อยพิษออกจากท่อปล่อยพิษเข้าใส่ศัตรู เหล็กในก็จะฝังติดไปกับศัตรู ทำให้ อวัยวะภายในของผึ้งเสื่อมลงเวลาที่มันบินหนีตัวก็จะห้อยตกลงมา ผึ้งจึงต้องตายหลังจากที่ได้ต่อยศัตรูแล้ว
จั๊กจั่นตัวผู้มีกล่องเสียงอยู่ข้างในท้องสองข้างๆ ละคู่มันจึงส่งเสียงร้องจี๊ดๆ ได้ ชั้นนอกกล่องเสียงเป็นฝารูปครึ่งวงกลมคู่หนึ่งข้างในมีเยื่อบางๆ ยืดหยุ่นได้เรียกว่า "หนังหน้ากลอง" เยื่อนี้เชื่อมติดกับกล้ามเนื้อภายในตัวจั๊กจั่น เมื่อกล้ามเนื้อเกิดการยืดหดตัวจะทำให้เยื่อนี้สั่นจึงเกิดเสียงดัง ขึ้นมาได้ ส่วนจั๊กจั่นตัวเมียไม่มีกล่องเสียงจึงไม่สามารถส่งเสียงเหมือนจั๊กจั่นตัวผู้ได้
ใบหม่อนมีสารหลายชนิดที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตเส้นไหม เมื่อตัวไหมกินใบหม่อนเข้าไปแล้วจะทำการย่อยและแยกสารต่างๆ ออกจากกาก ใบหม่อน มันจะดูดเฉพาะโปรตีนไขมันกลูโคสและเกลือแร่ต่างๆ แปรสภาพให้เป็นของเหลวแล้วพ่นออกมาทางปากเล็กๆ ของมันของเหลวนี้ เมื่อ ได้กระทบกับอากาศจะแข็งตัวกลายเป็นเส้นไหม
ความจริงขณะที่เราเพิ่งหลับหรือกำลังจะตื่นเซลล์ประสาทของร่างกายได้พักผ่อนแล้วแต่ประสาทรับรู้ของอวัยวะบางส่วนของร่างกายกลับรู้สึก มีของบางอย่างมากระทบหรือสัมผัส เช่น ถูกผ้าห่มปิดที่จมูกที่ปากหรือที่หน้าอกถูกมือวางทับทำให้หัวใจและปอดถูกกดทับเลือดหมุนเวียน ไม่สะดวกเกิดความรู้สึกไม่สบาย ในเวลานี้เองคนที่กำลังหลับอย่างสะลืมสะลือไม่รู้ว่ามีของวางทับที่บริเวณหน้าอก ขณะเดียวกันเซลล์ ประสาทกำลังพักผ่อนจึงไม่มีพลกำลังเพียงพอที่จะเคลื่อนไหวตัว ทำให้เปล่งเสียงงัวเงียออกมา เราจึงเข้าใจผิดคิดว่า "ถูกผีอำ"
เวลานอนหลับและฝันไปบ้างครั้งจะพูดหรือร้องเพลงออกมาตามที่กำลังฝันอยู่แต่พอตื่นขึ้นมามีคนถามว่าเมื่อคืนพูดอะไร เรารู้สึกงงเพราะไม่รู้ เรื่องอะไรเลย เวลาเรานอนหลับประสาทของร่างกายไม่ได้หยุดทำงานไปหมดทุกส่วน เซลล์ประสาทควบคุมการพูดไม่ได้หยุดทำงานทั้งหมด เวลาเราฝันจึงทำให้ละเมอพูดออกมาตามที่ฝันอยู่
เป็นเพราะระบบทางเดินหายใจไม่สะดวกบางคนเวลาหลับร่างกายอยู่ในท่านอนที่ไม่สบาย ศีรษะวางไม่ตรงทำให้หายใจไม่สะดวกต้องหายใจ ทางปากแทน เมื่ออากาศเข้าออกทางปากไปกระทบลิ้นไก่ที่เพดานปากทำให้ลิ้นไก่สั่นสะเทือน จึงเกิดเสียงกรน นอกจากนี้เวลาที่เราเป็นหวัด คัดจมูกก็ทำให้เรานอนกรนได้เหมือนกันเพราะจมูกสูดลมหายใจไม่สะดวก
การหาวนอนทำให้เราได้สูดลมหายใจเข้าไปในปอดได้ลึกๆ เพราะเมื่อร่างกายเราขาดก๊าชออกซิเจนจะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ในช่วงเวลานี้เอง สมองจะสั่งการให้เราหายใจลึกๆ เพื่อสูดก๊าชออกซิเจนเข้าไปในปอดมากๆ และถ่ายก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
ในเลือดมีก๊าชออกซิเจนกับวิตามินหลายชนิดรวมอยู่ด้วยกันมีหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย อวัยวะส่วนไหน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็มีความต้องการใช้เลือดปริมาณมากกว่า เมื่อรับประทานอาหารเข้าไปแล้วกระเพาะอาหารก็เริ่มทำงานหนักจึงต้องการ เลือดจำนวนมาก ทำให้จำนวนเลือดในสมองลดน้อยลง เราจึงรู้สึกอ่อนเพลียต้องการนอนหลับพักผ่อน
ในฤดูร้อนอากาศร้อนอบอ้าวทำให้รู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอดเวลาแต่ถ้าได้ดื่มน้ำชาร้อนกลับช่วยแก้อาการกระหายน้ำได้เพราะในใบชามีสาร และวิตามินหลายชนิดสะสมอยู่ เมื่อดื่มเข้าไปวิตามินเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับน้ำลายในปากทำให้ปากเกิดความชุ่มชื้น นอกจากนี้ในใบชา ยังมีสารคาเฟอีนที่เป็นด่างจะทำปฏิกิริยาช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายโดยระบายความร้อนและของเสียออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึก เย็นสบายและกระปรี้กระเปร่า |