เรื่อง ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2546
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2546 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2546 ก่อนและหลังแผนฯ (ประกาศสงครามขั้นแตกหักเพื่อเอาชนะยาเสพติด) โดยสอบถามประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ ครั้งที่ 1 มีประชาชนที่ตกเป็นตัวอย่างจำนวน 10,000 คน เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 4 18 กุมภาพันธ์ 2546 และการสำรวจครั้งที่ 2 จำนวนตัวอย่าง 9,300 คน เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 28 เมษายน 7 พฤษภาคม 2546 และได้จัดทำสรุปผลการสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. สถานการณ์ปัญหายาเสพติดโดยรวม (เช่น จำนวนผู้เสพฯ ผู้ค้า ผู้ผลิต) หลังสิ้นสุดแผนฯ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าสถานการณ์มีความรุนแรงน้อยลง คือก่อนแผนฯ มีประชาชนเห็นว่ารุนแรงปานกลางถึงมาก ร้อยละ 91.6 หลังแผนฯ ร้อยละ 65.5
2. ปัญหายาเสพติดในชุมชน ก่อนแผนฯ ประชาชนร้อยละ 65.8 ระบุว่าในชุมชนมีปัญหายาเสพติด หลังแผนฯ ลดลงเหลือร้อยละ 48.8
3. การมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในชุมชน หลังแผนฯ ประชาชนร้อยละ 22.3 ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และอีกร้อยละ 77.7 ระบุว่าไม่มี
4. ความปลอดภัยในการแจ้งเบาะแส ก่อนและหลังแผนฯ ประชาชนระบุว่ามีความมั่นใจในความปลอดภัยในการแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่แตกต่างกัน คือก่อนแผนฯ ระบุว่ามั่นใจในระดับปานกลางถึงมาก ร้อยละ 54.6 และหลังแผนฯ ร้อยละ 59.4
5. ผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล หลังสิ้นสุดแผนฯ ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ในระดับปานกลางถึงมาก ในสัดส่วนที่สูงขึ้น คือ ก่อนแผนฯ ร้อยละ 79.1 และหลังแผนฯ ร้อยละ 94.7
6. การประสานงานและร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนของหน่วยงานของรัฐ ประชาชนเห็นว่าหลังแผนฯ หน่วยงานของรัฐมีการประสานงานกันมากขึ้น คือก่อนแผนฯ ระบุว่ามีความร่วมมือกันในระดับปานกลางถึงมากร้อยละ 70.3 หลังแผนฯ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 84.4
7. ความมั่นใจของประชาชนต่อแผนปฏิบัติการประกาศสงครามขั้นแตกหักเพื่อเอาชนะยาเสพติดว่าสามารถทำให้ชุมชนปลอดจากยาเสพติด ก่อนแผนฯ มีประชาชนระบุว่ามั่นใจปานกลางถึงมากร้อยละ 82.5 และหลังแผนฯเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 91.4
8. ความพอใจของประชาชนต่อแนวทางต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติพบว่า หลังแผนฯ ประชาชนส่วนใหญ่มีความพอใจต่อการแก้ไขปัญหาฯ ในสัดส่วนที่สูงกว่าก่อนแผนฯ คือ พอใจปานกลาง ถึงมาก เกินกว่าร้อยละ 90.0 ได้แก่ การป้องกันการแพร่ระบาด/ลดความรุนแรงของปัญหาฯ การรณรงค์สร้างจิตสำนึก การปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด การเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายลงโทษ/ริบทรัพย์ การแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา และแนวทางที่พอใจปานกลางถึงมาก ตั้งแต่ร้อยละ 85 90 ได้แก่ การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนและควบคุมการนำเข้าสารเคมี การให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดและไม่ถูกดำเนินคดี การปรับปรุงประสิทธิภาพของหน่วยงาน
9. ความพร้อมของประชาชนในการเข้าร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดของชุมชนพบว่า ทั้งก่อนและหลังแผนฯ ประชาชนมีความพร้อมในการเข้าร่วมฯ ในสัดส่วนไม่แตกต่างกัน คือ มีประมาณร้อยละ 76 นอกจากนั้นหลังแผนฯ ประชาชนร้อยละ 63.0 ระบุว่ามีการรวมกลุ่ม/จัดกิจกรรมเพื่อต่อต้านยาเสพติดของชุมชน อีกร้อยละ 18.7 และ 18.3 ระบุว่าไม่มีและไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ ตามลำดับ
10. ประชาชนได้เสนอแนวทางที่ทำให้ชุมชนปลอดจากปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน คือ ส่งเสริมการเล่นกีฬา อบรมความรู้เรื่องยาเสพติด จัดกิจกรรมต่อต้านยาเสพติด ให้ความคุ้มครอง/รางวัลนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสให้รัฐกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่องและรณรงค์/ประชาสัมพันธ์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นต้น
สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2546 เวลา 08.30 น.
|
|