กามนิต : ภาคบนดินและภาคบนสวรรค์
พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.๒๔๗๓

เสฐียรโกเศศ (๒๔๓๑ - ๒๕๑๒)

นาคะประทีป (๒๔๓๒ - ๒๔๘๘)


		
		แก่นอันเป็น คุณค่าของเรื่องกามนิต คือ ความรัก ความทุกข์จากรัก
	และดับทุกข์ด้วยธรรมะ นวนิยายเรื่องนี้เป็นงานโรแมนติกอันมีความลึกซึ้งรสรักทาง
	วรรณกรรมได้เจือธรรมรสเข้าด้วยกันกลมกลืน ทรงพลัง ประทับใจ มิใช่งานประพันธ์
	ดาดๆ สำหรับชั่วเวลาสักระยะหนึ่ง งานวรรณกรรมเรื่องนี้จึงอยู่ในเกราะกำบังของกาล
	เวลา เนื่องจากความถึงพร้อมของเนื้อหาและรูปแบบศิลปะ

		ฉากแรกของกามนิต ประทับใจคนด้วยพรรณนาโวหารก่อนภาพพจน์แห่ง
	จินตภาพดังนี้
	
		        "ขณะที่พระองค์เสด็จมาใกล้เบญจคีรีนคร คือ ราชคฤห์ เป็นเวลาจวน
		สิ้นทิวาวาร แดดในยามเย็นกำลังอ่อนลงสู่สมัยโกล้วิกาล ทอแสงแผ่ซ่านไป
		ยังสาลีเกษตร แลละลิ่วเห็นเป็นทางสว่างไปทั่วประเทศสุดสายตา ประหนึ่ง
		มีหัตถ์ทิพย์มาปกแผ่อำนวยสวัสดี เบื้องบนมีกลุ่มเมฆเป็นคลื่นซ้อนซับสลับ
		กันเป็นทิวแถว ต้องแสงแดดจับเป็นสีระยับวะวับแวว ประหนึ่งเอาทรายทอง
		ไปโปรยปราย เลื่อนลอยลิ่วๆ เรื่อยๆ รายลงจรดฟ้า ชาวนาและโคก็เมื่อยล้า
		ด้วยตรากตรำทำงาน ต่างพากันเดิมดุ่มๆ เดินกลับเคหสถาน เห็นไรๆ เป็น
		รัศมีแห่งสีรุ้ง  อันกำแพงเชิงเทินป้อมปราการที่ล้อมกรุง  รวมทั้งทวารบถ
		ทางเข้านครเล่า มองดูในขณะนั้นเห็นรูปเค้าได้ชัดถนัดแจ้งดั่งว่านิรมิตไว้ มี
		สุมทุมพุ่มไม้ดอกออกดก โอบอ้อมล้อมแน่นเป็นขนัด ถัดไปเป็นทิวเขาสูง
		ตระหง่าน มีสีในเวลาตะวันยอแสง ปานจะฉายไว้เพื่อแข่งกับแสงมณีวิเศษ มี
		บุษราคบัณฑรวรรณและก่องแก้วโกเมน แม้ร่วมกันให้พ่ายแพ้ฉะนั้น"
	
		ณ จุดเริ่มเรื่องที่พระบรมศาสดาพบกามนิตยังบ้านช่างปั้นหม้อ ด้วยสถานะ
	ผู้แรมทาง เป็นจุดใกล้จบชีวิตของกามนิตภาคบนดิน กามนิตแสวงหาพระศาสดา โดยยึด
	ศรัทธาในพระองค์ ขณะที่ความปลงใจศึกษาธรรมนั้นน้อย ลักษณะดื้อรั้นเชื่อมั่นตน จึงมิ
	ได้รับรสพระธรรมที่ประทานโอวาทและไม่ทราบว่าอาคันตุกะนั้น คือ พระอรหันตสมัมา
	สัมพุทธเจ้าที่ใฝ่หา  เรื่องราวภาคบนดินของกามนิต เริ่มจากการเล่าเรื่องถวายพระผู้มีพระ
	ภาคเจ้า ต่อมาเมื่อกามนิตตายลงและด้วยอำนาจ ตถาคตโพธิศรัทธา จึงไปเกิด ณ สวรรค์
	ชั้นสุขาวดี เป็นกามนิตภาคบนสวรรค์ ปมของเรื่องราวชีวิตหนหลังครั้งภาคพื้นดิน จึงคลี่
	คลายเมื่อพบกับวาสิฏฐีในสรวงสวรรค์  ธรรมะที่วาสิฏฐีสดับจากพุทธโอษฐ์ครั้งเธอยังอยู่
	ในภาคบนดิน ได้ถ่ายทอดสู่กามนิตชายคนรัก  กระทั่งกามนิตสามารถพิจารณาธรรมนั้น 
	หวนระลึกพระโอวาทที่ตนได้รับโดยตรง ณ บ้างช่างปั้นหม้อ และเข้าใจธรรมอย่างรู้แจ้ง
	ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ดับเหตุแห่งทุกข์จนเข้าถึงพระนิพพานในที่สุด

		กลวิธีการประพันธ์มีส่วนเร้าใจคนอ่านอย่างยิ่ง แม้ว่าเริ่มจากวิธีเล่าเรื่อง แต่
	ก็มิได้ใช้การบรรยายโวหารล้วนๆ แต่ละฉากแต่ละตอน มีตัวละครเคลื่อนไหว แสดงลีลา
	บทบาทและมี "ปม" เรื่อง ชวนให้ติดตามด้วยความกระหายใคร่รู้ตลอดเรื่อง กามนิต
	แสวงหาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อเริ่มเรื่อง เขารู้ว่ามีโอกาสสนทนาธรรมกับ
	พระองค์เมื่อถึงตอนจบ  กามนิตชายหนุ่มผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ และ
	แคล่วคล่องว่องไวดังคำกล่าวขานว่า "ปานกามนิตหนุ่ม" แต่ทว่าคุณสมบัติต่างๆ ของ
	เขามิได้ช่วยให้พ้นจากความตรอมตรม เพราะความดื้อรั้น และผ่อนปรนให้แก่ตน วาสิฏฐี
	ผู้หญิงที่เหมาะแก่การเป็นคู่ครองของกามนิตด้วยต่างมีอุดมคติ และดูเหมือนวาสิฏฐีจะ
	มีอุดมคติยิ่งกว่ากามนิต กลับถูกพรากไปแต่งงานกับชายอื่น กามนิตยังแปรปรวนตาม
	สถานการณ์ของการต่อสู้ภายในแห่งความใฝ่ดีกับโลกที่เป็นจริง โลกที่มีมายาการเย้ายวน 
	กระนั้น วาสิฎฐีไม่วายถลำใจคิดปลงชีวิตสามี  สาตาเศียรชายที่มีชื่อว่าเป็นสามีด้วยการ
	แต่งงานวิธีคลุมถุงชน อุดมคติของเธอเข้มแข็งกว่ากามนิต ประกอบกับสถานการณ์เปลี่ยน
	แปรไป เมื่อองคุลีมาลผู้จะร่วมแผนฆาตกรรม ก็เปลี่ยนใจกลับความประพฤติตนภายหลัง
	เมื่อพบพระพุทธองค์


กลับไปหนังสือประเภทนิยาย