ประวัติกีฬาวูซู
กีฬาวูซูมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน
โดยพัฒนาควบคู่ไปกับประวัติศาสตร์ของจีน ซึ่งวิชาวูซู ได้เริ่มมีขึ้นในยุค"ซางโจว" ด้วยการนำเอาวิชวูซูไปใช้ในการฝึกกำลังทหาร พร้อมให้ความสำคัญ ในด้านเทคนิคการต่อสู้ที่ใช้ใน สนามรบ ในยุคนี้มีการแสดงวิชาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ทั้งการร่ายรำยัง
มุ่งเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ พลานามัย และต่อต้านโรคภัย
ต่อมาในยุค "จิ้น - ฮั่น" วูซู ได้ถูกนำไปใช้กับการร่ายรำดาบ ร่ายรำกระบี่ และการร่ายรำดาบ
วงเดือนคู่ และการร่ายรำอาวุธยาว เช่น ง้าว คล้ายคลึงกับการฝึกกระบวนเพลงยุทธ
ยุค "ถัง
- ซ้อง" มีการฝึกยุทธรวมกันเป็นค่าย เป็นคณะการต่อสู้บนเวที
มีกรรมการและมีกติกา การแข่งขัน
ยุค "หมิง - ชิง" เป็นยุคที่วิทยายุทธหรือการฝึกวูซูเฟื่องฟูและเจริญรุ่งเรืองที่สุด
สำนักวิทยายุทธ ต่างๆ ที่ถ่ายทอดวูซู ได้ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ วิทยายุทธในยุคนี้ที่ปรากฎ ได้แก่ 32
แบบต่อสู้(ซาน เสือเอ้อซื่อ) เพลงหมัดหกท่า เพลงหมัดวานร หมัดปาจือฉวน หมัดเนอฉวน
หมัดเส้าหลินฉวน และ เพลงหมัดพลังภายใน เป็นต้น
ยุค "หมิง - กว๋อ" มีการจัดตั้งสมาพันธ์เยี่ยมยุทธ
(จิงอู่ถี่อี้อุย) และตามมาด้วยการจัดตั้งสมาพันธ์ "จงหวาอู่สือฮุ่ย" และ "จื้อโหยวฉุยเสีย"
ซึ่งสมาพันธ์ต่างๆ เหล่านี้ ก็ได้ให้การเผยแพร่และนำมาซึ่ง
การพัฒนาวูซูในยุคนี้
ในปี ค.ศ. 1928 รัฐบาลก๊กมินตั๋ง ได้สถาปนาองค์กร "จงหยาง กว๋อซูกว่าน" (The
central of chiness kkoshu insitiute) ขึ้นเป็นสถาบันที่เกี่ยวกับวิทยายุทธส่วนกลางของประเทศไทย
ได้ จัดให้มีการแข่งขันและประลองยุทธระดับชาติขึ้น คือ วิชามวยประเภทต่างๆ
อาวุธยาว และอาวุธสั้น ประเภทต่างๆ รวมทั้งการประลองยุทธ(แข่งขันต่อสู้)
และมวยปล้ำ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1936 ได้จัดตั้ง คณะทัวร์วูซู ลงมาเยือนประเทศทางภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเช้าร่วมแสดงในมหกรรม กีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 11 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี ซึ่งต่อมาวิชาวูซูก็ได้รับการบรรจุไว้เป็น
บทเรียนอย่างเป็นทางการตามวิทยาลัยพลศึกษา และคณะวิชาการต่างๆ ของประเทศจีน
ปี ค.ศ. 1956 สถาปนาสมาคมวูซูแห่งปักกิ่งขึ้น วูซูจึงกลายเป็นกีฬาประเภทหนึ่งอย่างเป็นทางการ
คณะกรรมการบริหารกีฬาของจีนก็ได้ร่วมกันบัญญัติกติกากีฬาวูซูขึ้น พร้อมนำมาเรียบเรียงตีพิมพ์
ประเภทของวูซู ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายออกมาหลายประเภท
อาทิ ตำราฝึกไท่จี๋ฉวน ระดับเริ่มต้น
ระดับพัฒนา และระดับสูง รวมทั้งรูปแบบกระบวนเพลงยุทธต่างๆ
อาทิ หมัดมวย ดาบ กระบี่ ทวน และพลอง เป็นต้น ส่งผลให้วูซูกลายเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนทางพลศึกษาในระดับโรงเรียนต่างๆ
ตามมหาวิทยาลัย และกำหนดเป็นวิชาชีพวูซูอีกด้วย ต่อมารัฐบาลจีนได้สถาปนาสถาบันค้นคว้า
วิชา วูซูขึ้น เพื่อศึกษาค้นคว้าวิชาวูซู
สร้างความกระจ่างชัดขั้นพื้นฐานของวิชาวูซูให้ปรากฏ และผลักดัน กีฬาวูซูสู่โลกกว้าง
ปี ค.ศ. 1987 มีการจัดมหกรรมกีฬาวูซูระดับเอเชียขึ้นเป็นครั้งแรก
ณ เมืองโยโกยากาม่า ประเทศ ญี่ปุ่น พร้อมกับมีการจัดตั้งสหพันธ์วูซูแห่งเอเชียขึ้นมา
ต่อมา ในปี ค.ศ. 1988 ได้จัดการแข่งขันวูซู โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 2 ส่วน คือ วูซูประเภทยุทธลีลา
และประเภทประลองยุทธ ในการดำเนินการ
ครั้งนี้ กีฬาวูซูประเภทประลองยุทธ
ก็ได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาวูซู ใน
ระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการในครั้งนี้เอง
ปี ค.ศ. 1990 กีฬาวูซูได้ถูกบรรจุเข้าเป็นชนิดกีฬาของการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์
ครั้งที่ 11 ณ กรุงปักกิ่ง
ประเทศจีน และในปีนี้เองได้มีการสถาปนาสหพันธ์วูซูนานาชาติขึ้นมาอย่างเป็นทางการ
กีฬาวูซูมิเพียงได้รับการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าเฉพาะอยู่ภายในประเทศจีนเท่านั้น
แต่ยังประสบ ความสำเร็จในการผลักดันเข้าสู่ระดับนานาชาติอีกด้วย นับว่าเป็นการบรรลุเป้าหมายในอุดมการณ์ เผยแพร่กีฬาวูซูสู่มวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
้์