EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 19xx

ปมเค้าแห่งความยุ่งยาก


"ตึ้ก ๆ ๆ"
"หืมห์?" ผมพลิกตัว ตื่นจากภวังค์ แต่ตายังปิดอยู่
เอ รู้สึกคุ้น ๆ แฮะ ว่าเมื่อวานนี้ก็โดนปลุกด้วยเสียง
แบบนี้เหมือนกัน วันนี้ก็เอาอีกแล้วหรือนี่ คนจะ
นอนให้สบาย ๆ สักหน่อย มาปลุกอยู่ได้
"ช่า ๆ ๆ"
เอาอีกแล้ว เจ้าเสียงนี่ มารบกวนเวลานิทราอันรื่น
รมย์ของผมได้ยังไงกันนะ แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน เมื่อ
วานนี้พอมีเสียงนี่ แล้วมันก็จะตามด้วย...
"เช้ง ๆ ๆ"
ใช่แล้ว เสียงนี้เอง แล้วจากนั้นก็...
"เหวอ" ผมร้องอุทานขึ้นมา พร้อมกับที่ลืมตาขึ้น
สปริงตัวขึ้นนั่งบนโซฟา ซึ่งผมใช้นอนเมื่อคืนนี้ เหตุ
การณ์เหมือนจะเป็นการฉายเทปซ้ำเมื่อวานนี้เดี๊ยะ
เลยครับ นี่ผมก็นอนห่มผ้าห่มอยู่ โดยที่เมื่อคืนผม
ไม่ได้ห่มด้วยคงเป็นฝีมือของเธอคนนั้นนั่นแหละ
"ตื่นแล้วเหรอคะ? คุณโคะจิโร่" พรินเสนอหน้าเข้า
มาให้ผมเห็น ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม "รีบแปรงฟัน
เลยสิเจ้าคะ หนูเตรียมอาหารเช้าให้แล้วค่ะ ฮิฮิ"
ผมทำตามหล่อนเหมือนถูกมนต์สะกด...
งั่ม ๆ ๆ
"อร่อยดีนี่" ผมชม อาหารเช้าตรงหน้าพร่องไปกว่า
ครึ่ง
"ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณโคะจิโร่เจริญอาหารจังเลยนะ
คะ" พรินเอามือทั้งสองประสานกันแล้วเท้าคางไว้
มองผมทานอาหารอยู่ด้วยท่าทางที่เหมือนจะมี
ความสุข เจ้าตัวไม่ได้ลงมือทานพร้อมผมหรอกครับ
บอกว่าให้ผมทานก่อน ส่วนเธอเองนั้นตักแบ่งเอาไว้
แล้ว และจะทานทีหลังในครัว
"อ๊ะ!" ผมนึกขึ้นได้ "นี่พริน หวังว่าคงไม่เป็นแบบเมื่อ
วานนะ"
ผมนึกถึงเมื่อวานแล้วก็ชักจะแหยง ๆ ไม่ได้
พรินยิ้มแฉ่ง ส่ายหน้าอย่างน่ารัก "ไม่ค่ะ อาหารนี่
พรินซื้อมาเอง ไว้ใจได้เจ้าค่ะ"
หยุดไปนิดนึง มองดูจานไข่ดาวที่ผมเหลือไว้กะจะ
ทานทีหลังสุด แล้วเจ้าหล่อนก็ยื่นขวดซอสมะเขือ
เทศมาตรงหน้าผม
"ราดซอสมะเขือเทศซิเจ้าคะ"
"อือ.." ผมทำท่าจะรับมาแต่แล้วก็ชะงัก "อ๊ะ ไม่ล่ะ
จ๊ะ วันนี้ยังไม่อยากกินซอสมะเขือเทศ"
"???" พรินทำหน้าฉงน แต่ก็หยิบขวดซอสกลับไป
โดยดี พลางเอามือเท้าคาง มองผมทานอาหารต่อ
เฮ้อ เพราะเจ้าซอสมะเขือเทศ เลยนึกถึงคดี
ฆาตกรรมสยองขวัญที่ผมเป็นผู้พบเห็นเมื่อคืนนี้ที่
บ้านคุณโคขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าเมื่อคืน ใน
ห้องรับแขกนั้นจะมืดสลัวก็ตาม แต่ผมก็ยังจำได้ถึง
เลือดจำนวนมากที่ชโลมอยู่ในห้องนั้นได้เป็นอย่างดี
'ชายคนนั้นเป็นใครกันนะ' ผมอดคิดไม่ได้ เห็นท่า
ต้องออกไปหาหนังสือพิมพ์มาอ่านดูสักหน่อย
'แล้วยัยฮิมุโระนั่น ไว้ใจได้แค่ไหนนะ' ผมคิดอีก แต่
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ฮิมุโระเธอจะเชื่อใจผมขนาด
ไหนต่างหากเล่า ที่เป็นปัญหา
"ปิ๊งป่อง" เสียงกริ่งหน้าสำนักงานดังขึ้น พร้อมกับมี
เสียงเปิดประตู แล้วก็มีเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมา
ไม่ใช่ใครหรอกครับ ลงถ้าถือวิสาสะเข้ามาเองแบบ
นี้ละก็
"โคะจิโร่ ๆ" ยัยอะคะเนะนั่นเอง มาหาผมทำไมแต่
เช้านะ แวบหนึ่งที่ผมคิดไปถึงค่านายหน้าที่ยังไม่ได้
จ่ายหล่อนไป แล้วก็นึกเสียวสันหลังวาบอยู่ในใจ ก็
ตอนนี้ผมมีจ่ายที่ไหนล่ะครับ เสร็จยัยพรินไปหมด
แล้ว
"มาทำไม" ผมทักขึ้นเสียงเนือย ๆ สังเกตเห็นว่าใบ
หน้าของอะคะเนะไม่สู้ดีนัก พลางรวบตะเกียบและ
ผลักจานข้าวออกไป "พริน ฉันอิ่มแล้วขอบใจมาก"
"เจ้าค่ะ งั้นหนูเก็บเลยนะเจ้าคะ" พรินลงมือเก็บจาน
ไปทันที
อะคะเนะมองผมกับพรินด้วยสายตาขุ่น ๆ แต่ก็ไม่
พูดอะไร จนกระทั่งพรินเก็บโต๊ะเสร็จและเดินหาย
เข้าไปด้านในสำนักงานแล้ว จึงพูดขึ้น
"ฮึ มีความสุขจริงนะ นายโคะจิโร่ อย่างกับคู่รักกัน
อย่างนั้นแหละ"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่" ผมแย้งขึ้น
"ฮึ่ม..." ทำท่าฮึดฮัด แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ "ฉันไม่มี
เวลามายุ่งกับนายด้วยเรื่องพรรณนี้ของนายหรอก
(ก็ใครใช้ให้มายุ่งเล่า แล้วก็... เรื่องพรรณนี้มันเรื่อง
พรรณไหนกันล่ะแม่คุณ- ผมนึกเถียงอยู่ในใจ) นี่
โคะจิโร่! รู้เปล่าเมื่อคืนมีคดีคนตายที่บ้านคุณโค"
'ว่าแล้วไง' ผมคิดในใจ ขณะที่ตอบนักข่าวสาวไป
ด้วยสีหน้าเฉยเมย "รู้แล้ว แล้วไงเหรอ?"
"นายรู้ได้ไง อ่านหนังสือพิมพ์กับเขาด้วยเหรอ" อะ
คะเนะทำหน้าสงสัย เจ้าหล่อนมาสุงสิงกับผมจนรู้
ว่าระยะหลังผมไม่มีเงินจะซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่าน
ทุกวัน ถ้าไม่ต้องการตามข่าวอะไรเป็นพิเศษ
"เออ ฉันรู้ของฉันก็แล้วกัน" ผมตอบเลี่ยง ๆ จะให้
บอกเจ้าหล่อนได้ไงล่ะครับ ว่าก็ผมเจอมากับตัวเอง
นี่
"ฉันเพิ่งรู้จากเพื่อนนักข่าวด้วยกัน" อะคะเนะบอก สี
หน้าเครียด "คุณนิไคโดตกเป็นผู้ต้องหาด้วย"
"หา! อะไรนะ เจ้านิไคโด...ลูกน้องยะโยยนะเหรอ"
ผมทวนคำเสียงหลง ที่จริงก็คาดการณ์ได้อยู่แล้ว
แหละครับ ว่าอาจจะมีผลออกมาทำนองนี้ แต่พอ
เอาเข้าจริง ก็อดตกใจไม่ได้ ก็เคยบอกแล้วไงครับ
ว่า ผมรู้จักเจ้านิไคโดดีว่าหมอนั่นฆ่าใครไม่ได้หรอก
"เออสิ จะมีนิไคโดไหนอีกล่ะ" อะคะเนะตอบเสียง
เศร้า ๆ "ทำไมตำรวจสงสัยเขานะ นายรู้รึเปล่า"
"ฉันจะไปตรัสรู้ได้ไง" ผมโกหก ในใจได้คำตอบอยู่
แล้วว่า คงเป็นเพราะเจ้าหมอนี่ทะเร่อทะร่าทิ้งร่อง
รอย โดยเฉพาะพวกรอยนิ้วมือไว้นะเอง
"ว่าแต่รู้รายละเอียดมากกว่านี้รึเปล่า" ผมถามขึ้น
อีก
"ฉันก็รู้ไม่มากหรอก" อะคะเนะตอบเสียงอ่อย ๆ "
อ่านข่าวที่คนอื่นเขียนแล้วมันรู้สึกทะแม่ง ๆ น่ะ เลย
ยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลย นี่รู้เรื่องจากเพื่อนนัก
ข่าวเขาเล่าให้ฟัง"
จากน้ำเสียงหล่อน ก็พอเดาออกว่า หล่อนคงจะตก
ข่าวนี้ไป และโดนแย่งข่าวไปเขียนนั่นเอง แต่นี่ก็
หมายความว่า ผมคงหาข้อมูลอะไรจากหล่อนไม่ได้
มากกว่านี้ เฮ้อ ต้องไปหาหนังสือพิมพ์มาอ่านจริง ๆ
เหรอนี่
"เขาจะรอดรึเปล่า โคะจิโร่" จู่ ๆ อะคะเนะก็ถามผม
ขึ้น
"ถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใครเล่า แปลกคนแฮะ
ยัยอะคะเนะ" ผมตอบ ในใจก็ชักจะงง ๆ เหมือนกัน
ว่าทำไมยัยนี่ต้องเป็นห่วงนายนิไคโดนั่นด้วย หรือ
ว่าเป็นแฟนกัน? วูบหนึ่งอดคิดไปถึงข้อมูลใน
คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วของนิไคโดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มี
เฉพาะข้อมูลของยัยนี่คนเดียวนี่ แสดงว่าคงไม่มี
อะไรกันพิเศษมั้ง แค่คนรู้จักกันเฉย ๆ
"ว่าแต่ ตอนนี้เจ้านิไคโดอยู่ไหนล่ะ โดนจับไปแล้วรึ
ยัง" ผมถามขึ้นอีก
"... นะ..นั่นแหละปัญหาแหละ" อะคะเนะอ้ำอึ้งไป
นิดหนึ่งจึงตอบ "ตอนนี้เขาหายตัวไปไหนไม่รู้ ถ้ายัง
ไม่โผล่มาอีก ตำรวจคงจะออกหมายจับภายในเร็ว
ๆ นี้แหละ"
"เหรอ แล้วมันหนีทำไมนะ ยิ่งหนีก็ยิ่งน่าสงสัยน่ะสิ"
ประโยคหลังผมพูดกับตัวเอง
"บ้า! นายก็ไม่เชื่อใจเขารึไง?" จู่ ๆ ก็มาแหวใส่ผม
"ใจเย็น อะคะเนะ" ผมปราม "พวกเราน่ะ เชื่อใจเจ้า
นิไคโดกันทุกคนแหละ ฉันเองก็ไม่เชื่อหรอกว่าเจ้านิ
ไคโดจะฆ่าคนด้วยวิธีเหี้ยมโหดขนาดนั้นได้ แต่ทำ
ไงได้ล่ะ ถ้าเจ้าตัวมัวแต่หนี ไม่ยอมสู้ความอย่างนี้
คนเขาก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดาแหละ"
"..." อะคะเนะฟังแล้วก็อึ้งไป แต่แล้วก็มองผมเขม็ง
อีก "เอ๊ะ... ทำไมนายพูดเหมือนรู้เลยว่าสภาพการ
ตายเป็นยังไง ไหนว่าไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ไง?"
โอ๊ะโอ่ ผมพลาดซะแล้วสิทำไงดีหว่า
"ก็...เอ..." ผมอึกอัก อะคะเนะมองผมเหมือน
ต้องการคาดเค้นเอาความจริงให้ได้ แต่แล้วก็เลิกรา
ไปเอง
"ช่างเถอะ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก"
"???" ผมงงเป็นไก่ตาแตก นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว
ก็ยัยนี่ถ้าสงสัยอะไรล่ะก็ จะต้องพยายามคาดคั้น
บีบเค้นเอาความจริงให้ได้นี่ครับ ผมรู้นิสัยหล่อนดี
แต่ทำไมคราวนี้ยอมเลิกราง่าย ๆ นะ
"ฉันไปล่ะ ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้า" จู่ ๆ ก็โผล่มา
แล้วจู่ ๆ ก็โผล่ไป เออ แปลกดีเหมือนกันแฮะ ยัยคน
นี้ ผมคิดในใจขณะที่บอกลาเจ้าหล่อน อะคะเนะทำ
ท่าจะเดินออกไปแต่แล้วก็หันกลับมาอีก ทำตาโต
อย่างนึกอะไรขึ้นได้
"อ๊ะ ใช่แล้ว นายโคะจิโร่ ทำอุบเงียบเชียวนะ" แบมือ
มาข้างหน้าผม "ส่งมาซะดี ๆ"
ผมแกล้งตีมือเจ้าหล่อน
"ไม่ใช่ จะบ้าเหรอ เงินค่านายหน้างานคุณโคไง ทำ
สำเร็จแล้วใช่ม่า" แบมือมาอีก
ผมหัวเราะแหะ ๆ หยิบห่อของขวัญวันเกิดที่ผม
เตรียมไว้ วางลงบนมือเจ้าหล่อน
"อะไรน่ะ?" อะคะเนะถาม
"เมื่อวานวันเกิดไม่ใช่รึ?" ผมตอบแล้วก็ร้องเพลงต่อ
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู..."
"พอ ๆ ไม่ต้องแหกปากย่ะ ร้องก็ไม่ได้เรื่อง" อะ
คะเนะรับของขวัญไป แล้วแบมือมาอีก "ของขวัญก็
ส่วนของขวัญ เงินก็ส่วนเงิน ส่งมาซะดี ๆ คิดเบี้ยว
เหรอ?"
"ปะ...ไปเอาที่พรินละกัน" ผมตอบส่งเดช "ให้พริน
เขาถือเงิน"
"ฮึ ไว้ใจกันขนาดให้ถือเงินเชียวเหรอ?" อะคะเนะ
มองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอีก แต่แล้วก็ผละไป
เดินเข้าไปด้านในสำนักงานโดยดี
"เฮ้อ" ผมถอนหายใจโล่งอก แต่แล้วก็ได้ยินเสียง
เอะอะโวยวายดังมาจากทางด้านใน
ผมรอจนสียงเอะอะนั้นเงียบลง ปรากฏว่า ยัยอะ
คะเนะเดินออกมาอีกที คราวนี้ เอามือซ้ายกุมมือ
ขวาไว้ พลางสูดปาก บ่นกระปอดกระแปด
"อูย เจ็บ มือหนักจริง เด็กคนนี้"
ผมหัวเราะในใจ ฮิ ฮิ สมน้ำหน้า สอบถามได้ความ
ว่า พรินไม่ยอมให้เงินกับอะคะเนะ และกล่าวหาว่า
อะคะเนะจะมาหลอกเอาเงินที่ 'คุณผู้ชาย' ให้เก็บไว้
ไป
"ฮึ ฉันมีธุระ ต้องรีบไ ปล่ะ แต่จำไว้นะ นายโคะจิโร่
ฉันจะถือว่านายติดเงินฉันอยู่ ไว้นายมีตังค์เมื่อไหร่
ฉันมาทวงแน่" ว่าทิ้งท้ายไว้ก่อนเดินออกไป
'เฮ้อ! ยัยงกเอ๊ย' ผมนึกในใจ
...
"พริน อยู่ไหนเอ่ย" ผมเรียก
"เจ้าคะ" เสียงลากรองเท้าแตะเข้ามาทันที
"ฉันจะออกไปข้างนอก เฝ้าออฟฟิศไว้ดี ๆ ล่ะ"
"เจ้าค่ะ"
"เออ เมื่อกี้ทำได้ดีมาก พริน" ผมชม
"อ๋อ แน่นอนเจ้าค่ะ หนูจะรักษาเงินที่คุณโคะจิโร่
ฝากเอาไว้อย่างสุดชีวิตเลยแหละค่ะ" พูดจบก็เชิด
หน้าขึ้น ยืดอก แล้วเอามือกำหมัดหลวม ๆ ตบลงที่
หน้าอกตัวเอง เป็นทำนองว่า ไว้ใจได้แน่
"ฮะ ฮะ ดี ดี" ผมอดลูบศีรษะเจ้าหล่อนด้วยความ
เอ็นดูไม่ได้ แล้วก็เดินออกไปจากสำนักงาน
...
back index next