EVE Burst Error
ภาค โคะจิโร่
วันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 19xx
เงื่อนงำ
"มาทำไม!?" ยะโยยพูดใส่ผมเสียงกระด้าง ทันทีที่
เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเห็นว่าผู้มาเป็นใคร
"มาไม่ได้เหรอ" ผมแกล้งตีหน้าทะเล้น ทำเสียงออด
อ้อน
"ฉันกำลังยุ่งอยู่ อย่าเพิ่งมากวน จะไปไหนของแกก็
ไปเถอะ ไป๊" ยะโยยบ่นมายาวเป็นกระบุงโกย แต่
แล้วก็หยุดหอบหายใจ อัดบุหรี่เข้าปอดไปเฮือกหนึ่ง
แล้วจ้องมาที่ผม พูดขึ้นมาใหม่ว่า "...ขอโทษที ฉัน
กำลังอารมณ์ไม่ดี"
ผมยิ้มให้อย่างปลอบใจ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนถาม
ขึ้นว่า
"เรื่องนิไคโดรึเปล่า"
"หึ รู้แล้วเหรอ" ยะโยยยิ้มเครียด ๆ "ถ้ารู้แล้วก็อย่า
มาถาม จะมาเยาะเย้ยรึไง"
"เปล่า ฉันเป็นห่วงน่ะ ก็เลยมาดูสถานการณ์หน่อย
เป็นไงบ้างติดต่อเจ้านิไคโดได้รึยัง" ผมถาม
"ยัง" ยะโยยส่ายหน้า "เออ.... ถ้าแกเจอมันก็บอกให้
มันมามอบตัวกับตำรวจซะด้วย หนีไปก็มีแต่เป็นผล
เสียกับตัวเองเปล่า ๆ"
"จ๊ะ" ผมรับคำแล้วถามสิ่งที่อยากรู้ที่สุด "ว่าแต่งานนี้
คุณโคเขาว่ายังไงบ้างล่ะ คนตายในบ้านของเขาน่ะ
พอรู้บ้างรึเปล่า ยะโยย"
"???" ยะโยยมองผมเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง สี
หน้าเครียดขึ้นไปอีกจนน่ากลัว แล้วพูดมาเสียงต่ำ
ๆ "แกหมายความว่ายังไง"
"???" ผมงง ผมว่าผมก็พูดไปชัดเจนนะครับ ทำไม
ยะโยยถามอะไรมาแปลก ๆ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะ
ตอบแต่ประการใด ยะโยยก็คงจะเดาเรื่องได้อย่าง
รวดเร็ว สมกับเป็นลูกสาวของลุงคะทสึระงิ เก็นซะบุ
โร่คนนั้น เธอหรี่ตามองผมแล้วพูดมาว่า
"แกจะรู้เรื่องนี้จากไหนก็ตาม นี่ท่าทางแกยังไม่ได้
อ่านหนังสือพิมพ์ให้ละเอียดสิท่า เอ้า! ลองอ่านดู
เอาเองละกัน"
ว่าแล้วก็โยนหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งให้ผม
"ไหน ๆ จับโจรจิตทราม ขโมยกางเกงในผู้หญิง" ผม
รับมาอ่านหัวข่าว
"บ้า ใครเขาให้แกอ่านข่าวอย่างนั้น" เสียงยะโยย
แหวมา ผมเงยหน้าขึ้นมองเธอ ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม
แต่ไม่ได้ผล ยะโยยไม่ขำด้วยเลย สำทับมาอีกว่า "
โน่น ตรงมุมของหน้ากระดาษโน่น เห็นไหม"
"ไหน ๆ อ้อ ข่าวนี้เหรอ" ผมเลิกเล่น หันมาเอาจริง
เอาจัง "ฆาตกรรมโหด เชือดคอคาบ้าน..."
"นั่นแหละ อ่านต่อไปสิ"
ผมอ่านข่าวในคอลัมน์นั้น โดยอ่านออกเสียงเพื่อให้
ยะโยยได้รู้ด้วยว่าผมอ่านไปถึงไหนแล้ว
"... เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบสถาน
เกิดเหตุ พบว่ามีศพชายเสียชีวิตอยู่ในบ้านหลังดัง
กล่าว..."
"...จากการตรวจสอบหลักฐานณ ที่เกิดเหตุ พบร่อง
รอยของชายที่ชื่อ นิไคโด ซุซุมุ ซึ่งเป็นนักสืบของ
บริษัทนักสืบเอกชนคะทสึระงิ..."
ผมอ่านถึงแถวนี้ก็หยุด เงยหน้าขึ้นสบตากับยะโยย
ซึ่งทำยิ้มเครียด ๆ ตอบกลับมาว่า
"งามหน้าไหมล่ะ แต่ยัง... ยังมีอีก แกลองอ่านให้จบ
สิ"
ผมก้มหน้าลงอ่านต่อ
"...จากการชันสูตรศพ พบว่า ผู้ตายคือ นายสตรอล
แมน โค อายุสี่สิบสองปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน
นักเรียนต่างชาติเอลเดีย...เอ๊ะ"
ผมเงยหน้าขึ้นมองยะโยยทันที
"หึ ดูจากสีหน้าแก ท่าทางจะไม่รู้อะไรเอาเลยจริง ๆ
สินะ" ยะโยยพูดเสียงต่ำเหมือนเดิม "ทั้งแกและฉัน
โดนไอ้หมอนั่นต้มจนเปื่อยเลยล่ะ"
ผมงงเหมือนถูกใครเอาค้อนมาทุบศีรษะ อะไรกัน
คนตายคือ นายสตรอลแมน โค ที่เป็นผอ.โรงเรียน
นักเรียนต่างชาติเอลเดียอย่างนั้นหรือ??? ก็นายโค
นั่นตัวอ้วนอย่างกับอะไรดี แต่ศพนั่นไม่ใช่คนตัว
อ้วนเลยนี่นา เป็นไปได้หรือที่นายโคจะผอมลงกระ
ทันหันแค่เวลาไม่ทันข้ามวันอย่างนั้น อ๊ะ ไอ้บ้าเอ๋ย
เจ้าโคะจิโร่บ้า คิดอะไรไม่เป็นเรื่อง ถ้าประกาศของ
ทางตำรวจยืนยันว่าศพผู้ตายคือ นายโคแล้วละก็ ก็
แสดงว่า...
"ไอ้อ้วนนั่นไม่ใช่นายโค" ผมพึมพำออกมาเสียงแหบ
"ก็ใช่นะสิ งามหน้าดีไหมล่ะ โดนคนเขาหลอกใช้
แล้วแถมคนของฉันยังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย
อีก"
ยะโยยกัดฟัน พูดออกมา
ผมอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ผมและยะโยยโดนนายอ้วน
นั่นหลอกเอาเสียสนิท โดยอ้างว่าเป็นนายโค จ้างให้
สืบหารูปวาด พอผมหารูปวาดพบแล้ว ค่ำนั้นเอง
นายโคตัวจริงก็กลายเป็นศพไปในบ้านของตัวเอง
แล้วนายอ้วนนั่นล่ะ หายไปไหน
"นายอ้วนนั่นนะเหรอ" ยะโยยเดาความคิดผมได้ จึง
พูดต่อมาโดยไม่รอให้ผมถาม "หายตัวเข้ากลีบเมฆ
ไปแล้วล่ะยะ พวกเรา หมายถึงทั้งทางฉันและก็แก
ด้วย พบหน้านายนั่นครั้งสุดท้ายก็คือ ตอนที่แกหา
รูปภาพนั้นเจอนั่นแหละ"
ใช่ครับ ตอนนั้นเจ้านิไคโดก็อยู่กับผมด้วย
"เมื่อวานตอนบ่าย ฉันแวะไปหาเขาสองรอบ เพื่อที่
จะเอาเงินล่วงหน้าไปคืนเขา เพราะทางฉันทำงาน
ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่พบตัวเลย กดออดก็ไม่มีเสียง
ตอบ" ยะโยยสาธยายต่อ ที่จริงผมก็ได้ยินเมื่อวานนี้
ว่า นายโคตัวปลอมนั่นบอกกับทางนิไคโดไปแล้วว่า
ไม่ต้องคืนเงินล่วงหน้า แต่ทั้งนี้ คงเป็นความหยิ่ง
ของยะโยยเองกระมังที่ว่า เมื่อทำงานไม่สำเร็จก็ไม่
ขอรับเงิน
"แล้ว... เธอบอกทางตำรวจเขาไปรึยัง เรื่องเจ้าโคตัว
ปลอมนี่นะ" ผมถาม
"บอกไปแล้วล่ะ แกไม่ต้องเป็นห่วง" ยะโยยอัดบุหรี่
เข้าปอดอีกเฮือกหนึ่ง ท่าทางเหนื่อยอ่อน แต่แล้วก็
ยักไหล่ "พอฉันถูกเชิญตัวไปสอบปากคำ และเห็น
รูปผู้ตายแล้ว ฉันก็โวยวายบอกตำรวจเขาไปทันที...
แต่แกคิดว่าทางตำรวจเขาจะเชื่อเหรอ พวกเราไม่มี
หลักฐานเลยว่าเราติดต่อกับคนที่อ้วน ๆ คนนั้น โดย
นึกว่าเป็นคุณโค"
ผมอึ้งไปอีก พลางคิดในใจว่า ลงถ้าตำรวจได้เบาะ
แสว่านายนิไคโดเป็นคนร้ายละก็ ก็คงจะพุ่งความ
สนใจไปที่เจ้าหมอนั่น โดยไม่มาให้ความสนใจกับ
คำให้การลม ๆ แล้ง ๆ ของยะโยยแล้ว ที่ว่า ก่อน
เกิดเหตุ มีชายมาปลอมตัวเป็นคุณโค
"ฉันไง ฉันเป็นพยานให้ได้" ผมรีบตอบยะโยย ว่าผม
เป็นพยานได้หนึ่งเสียงล่ะ ว่ามีโคตัวปลอมเกิดขึ้น
ก่อนที่นายโคตัวจริงจะถูกฆาตกรรม
"ฮึ อย่ามาให้ลำบากเลย โคะจิโร่" ยะโยยปฏิเสธ "
แกไม่ต้องมาพัวพันกับคดีอย่างนี้น่ะดีแล้วล่ะ เดี๋ยว
จะโดนแบบฉัน นี่ ตั้งแต่เมื่อกี้มีโทรศัพท์จากลูกค้า
โทรฯ เข้ามาแคนเซลงานที่ว่าจ้างไว้หลายรายแล้ว"
ผมใจหายวาบ จริงสิครับ ลงถ้าข่าวออกไปว่า นัก
สืบในสังกัด ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมละก็ คง
จะไม่มีลูกค้าคนไหน ยอมมาว่าจ้างสำนักงานนัก
สืบนี้ต่อไปหรอก
...
คุยกันอีกประเดี๋ยวหนึ่ง ยะโยยก็ไล่ผมกลับ อ้างว่า
งานยุ่ง แต่ก่อนผมกลับออก ก็ไม่วายกำชับว่า ห้าม
ผมมายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้เด็ดขาด แต่ให้ยุ่งได้เรื่อง
เดียวคือ ถ้าเจอนายนิไคโดละก็ ให้เกลี้ยกล่อมให้
เขายอมมามอบตัวด้วย ซึ่งผมก็ได้แต่รับปาก
ผมเดินกลับเข้ามาสำนักงานของตัวเองด้วยใจที่
หนักอึ้ง สิ่งผมรับรู้มา ทำให้ผมช็อคพอสมควร พริน
ตรงเข้ามาทักทายผม แต่ผมก็ตอบไปแกน ๆ อย่าง
นั้นเอง จนเด็กพรินเลี่ยงหลบไปด้านในสำนักงาน
'เราโดนเจ้าหมูตอนนั่นต้มซะสุกเลยเหรอ' ผมนึก
แค้นในใจ ที่จริง ก็ไม่มีเหตุผลต้องไปแค้นเขาหรอก
ครับ ในเมื่อเขาก็มาว่าจ้างผมทำงานอย่างถูกต้อง
และก็จ่ายเงินตามสัญญาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะนาย
อ้วนคนนั้นหลอกผมไว้เยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะ
เรื่องที่ว่าแอบอ้างว่าตัวเองคือ สตรอลแมน โค และ
ที่สำคัญที่สุด เมื่อผมพบภาพเขียนนั้นแล้ว นาย
อ้วนก็หายตัวเข้ากลีบเมฆไป ตามคำบอกของยะโย
ย และที่โผล่มาแทนก็คือ ศพของนายโคตัวจริงที่ถูก
ฆาตกรรมสยอง โดยเชือดคอด้วยมีดจนเกือบขาด
'เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน แล้วเมื่อคืน ก่อนที่เราจะออกไปที่
บ้านคุณโคจนพบศพนั่น ใครโทรฯ มาหาเราล่ะ' ผม
นึกขึ้นได้ เท้าไวเท่าความคิด ผมเผ่นพรวดไปที่
โทรศัพท์ทันที กดปุ่มเล่นเทปที่เครื่องโทรศัพท์ ทั้งนี้
เครื่องโทรศัพท์ของผมจะถูกตั้งโปรแกรมไว้ ให้ทำ
การอัดเสียงสนทนาโทรศัพท์ลงเทปทุกครั้ง แต่จะ
อัดทับถ้ามีการใช้โทรศัพท์ในครั้งต่อไป อย่างไรก็
ตาม ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อคืนแล้ว ผมยังไม่ได้ใช้
โทรศัพท์เลยและก็ไม่มีใครโทรฯ เข้ามาด้วย เพราะ
ฉะนั้น เทปของเมื่อวานน่าจะยังอยู่
'แถวนี้แหละ' ผมกดปุ่มเพลย์ หลังจากกรอเทปกลับ
-"ฮัลโหล ที่นี่สำนักงานนักสืบอะมะกิครับ" เสียง
จากเทปดังขึ้น นี่เป็นเสียงผมที่รับสายนั่นเอง
-"คุณอะมะกิหรือครับ ผมชื่อโคนะครับ" คราวนี้เป็น
เสียงผู้ชายดังมาตามสาย
-"อ้า...คุณโคหรือครับ มีอะไรให้ผมรับใช้อีกครับ"
-"ผมไม่มีเวลาแล้ว ฟังให้ดีนะครับคุณอะมะกิ ตอน
นี้ที่นั่น..อะ..."
-"กริ๊ง ตุ๊ด ๆ ๆๆๆ" โทรศัพท์เมื่อคืนตัดไปแค่นี้
ผมขมวดคิ้ว นึกเอะใจอะไรบางอย่าง จึงกดปุ่มกรอ
เทปกลับแล้วเพลย์อีกครั้ง
"...คุณอะมะกิหรือครับ ผมชื่อโคนะครับ"
"...ผมไม่มีเวลาแล้ว ฟังให้ดีนะครับคุณอะมะกิ ตอน
นี้ที่นั่น..อะ..."
'ผมชื่อโคนะครับ ผมชื่อโคนะครับ' ผมคิด แปลก
แฮะ ทำไมใช้คำว่า ' ผมชื่อโคนะครับ' ล่ะ ที่จริง
ตอนแรกผมคิดว่าโทรศัพท์นี้เป็นของนายโคที่ผมรู้
จัก ซึ่งก็คือนายโคอ้วนที่เป็นตัวปลอมโทรฯ มา แต่
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาน่าจะใช้คำว่า 'ผมโคนะ
ครับ'สิ การใช้คำว่า 'ผมชื่อโคนะครับ' เหมือนกับว่า
เขากับผมไม่รู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นแหละ
ผมขนลุกซู่ แปลว่า คนที่โทรฯ มาหาผมคือ คุณโค
ตัวจริงอย่างนั้นหรือ???
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ขณะที่เขากำลังโทรฯ
มาหาผมอยู่นั้น เขาก็ยังมีชีวิตอยู่นะสิ
'แต่พอเราไปถึงบ้านเขา ก็พบว่าเขาตายไปแล้ว แต่
ใช่สิ... ตอนนั้นเขาเพิ่งตายได้ไม่นานนี่นา' ผมคิด
ถ้าอย่างนั้น เหตุการณ์ก็สอดคล้องกันและเริ่มมั่นใจ
ได้ว่า คนที่โทรศัพท์มาหาเมื่อคืน คือ คุณโคตัวจริง
แล้วประโยคต่อไปของคุณโคตัวจริงล่ะ 'ผมไม่มี
เวลาแล้ว ฟังให้ดีนะครับคุณอะมะกิ ตอนนี้ที่นั่น...'
พูดได้แค่นี้เองก็ตัดสาย 'ผมไม่มีเวลาแล้ว' แปลว่า
อะไร รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะถึงจุดจบอย่างนั้น
หรือ??? ผมคิดถึงตรงนี้แล้วก็อดขนลุกซู่ขึ้นมาอีกไม่
ได้ แล้วคำพูดสุดท้ายที่ว่า 'ตอนนี้ที่นั่น...' เขา
ต้องการจะพูดอะไรกันแน่นะ ถ้าเขาใช้คำว่า 'ที่นั่น'
ก็ต้องหมายถึง 'ที่นี่' ซึ่งคือ ที่สำนักงานของผมสิ
'ที่สำนักงานของเรา' ผมคิด คุณโคต้องการจะบอก
อะไรนะ ที่สำนักงานของเรา...มีอะไรอย่างนั้น
หรือ???
โอย คิดไม่ออกแฮะ
ผมเดินไปทางคอมพิวเตอร์ เปิดข้อมูลที่ได้มาใน
สองวันนี้ประมวลดู ขณะที่คีย์ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพ
ศพของคุณโคที่ผมเป็นผู้พบเห็นนั่นเอง ผมก็นึกขึ้น
ได้
'มีด!' ผมเสียวสันหลังวาบอีกครั้งหนึ่ง มือก็เลื่อน
เมาส์ไปกดเรียกข้อมูลอีกชุดหนึ่งขึ้นมาดู ครับ เป็น
โคลงหรือคำสาปที่ติดมากับภาพที่นายอ้วนให้หา
นั่นเอง
"สูเจ้าผู้ใด บังอาจแตะต้องของศักดิ์สิทธิ์นี้ สูจักถูก
ทำลายล้างด้วยศาสตราวุธอันคมกริบ แลวิญญาณ
ของสูเจ้าจักต้องโทษในนรกโลกันตร์มิได้ผุดได้เกิด"
ตอนนี้จุดสงสัยของผมอยู่ที่ท่อนที่ว่า 'สูจักถูก
ทำลายล้างด้วยศาสตราวุธอันคมกริบ' และเมื่อ
ประมวลเข้ากับคดีคุณโคแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า มัน
สอดคล้องกันพอดี
'นายเจเจอะไรนั่น ก็ตายด้วยมีด แล้วคุณโคก็ตาย
ด้วยมีดอีก' ผมคิด แต่ถ้างั้นคุณโคไป 'บังอาจแตะ
ต้องของศักดิ์สิทธิ์นี้' เข้าหรืออย่างไร จึงต้องมาจบ
ชีวิตลงอย่างสยองขวัญอย่างนี้? หมายถึง รูปภาพที่
นายโคตัวปลอมต้องการค้นหาอยู่อย่างนั้นหรือ
น่าสงสัยแฮะ เพราะจังหวะมันเหมาะกันดีเหลือเกิน
พอนายอ้วนได้ภาพนั้นไป คุณโคตัวจริงก็มาจบชีวิต
ลงด้วยสภาพตามคำสาปนั้นพอดีเลย
'เป็นไปไม่ได้น่า คำสาปจะเป็นจริงได้ยังไง มันก็แค่
เรื่องหลอกเด็ก' ผมในฐานะคนสมัยใหม่ที่ไม่เชื่อ
เรื่องไสยศาสตร์อดปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าอย่างนั้น 'ใช่
สิ สิ่งที่น่าคิดก็คือ มีใครสักคนจงใจกระทำการ
ฆาตกรรม เพื่อให้มันดูสอดคล้องกับคำสาปนั่นต่าง
หากเล่า' และใครคนนั้นก็คงจะมีจุดประสงค์บาง
อย่างแอบแฝงอยู่ อาจจะเพื่อเป็นการขู่รายต่อไปก็
ได้ แต่ที่ไม่เข้าใจอยู่สักทีก็คือ คำว่า 'ของศักดิ์สิทธิ์'
ในคำสาปนั้นคืออะไร
'ข้อสรุปเท่าที่จะทำได้ตอนนี้ก็คือ ของศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า
นั่น อาจจะเป็นภาพวาดนั้น เองและตัวการที่ทำการ
ฆาตกรรม ก็น่าจะเป็นนายอ้วนนั่น' ผมคิดแต่อย่าง
ไรก็ตาม นี่เป็นข้อสรุปที่ยังเชื่อถือไม่ได้แน่นอนร้อย
เปอร์เซ็นต์
'อะ!' ผมตาโพลง นึกถึงอะไรขึ้นมาได้อีกอย่างหนึ่ง
'อะซะชิน นักฆ่าจากแดนตะวันออกกลาง' ข้อมูลที่
เจ้าเกล็นยัดเยียดให้ผมมาเมื่อคืนนี้นั่นเอง นักฆ่า
ลึกลับที่ปฏิบัติการไม่เคยพลาด สังหารเหยื่อด้วย
อาวุธคือ มีดที่เป็นมีดประจำกองทัพเอลเดีย แล้วจะ
ทิ้งมีดไว้เป็นสัญลักษณ์ทุกครั้ง เอ๊ะ... ผมชะงัก
แทบจะดีดตัวขึ้นยืนด้วยความตกใจสุดขีด
'ลักษณะของการฆาตกรรมเมื่อคืนนี้....' ผมรู้สึกถึง
เหงื่อที่เริ่มไหลซึมที่หลัง
'และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เจ้าอะซะชินนั่น...' ใช่ครับ
ลักษณะการฆาตกรรมคุณโค ตรงตามข้อมูลของอะ
ซะชินที่เกล็นบอกผมทุกประการ และที่สำคัญคือ
ตอนนี้ เจ้าอะซะชินมาอยู่ในญี่ปุ่นแล้วเสียด้วยสิ
แล้วทำไม นักฆ่าที่โด่งดังระดับโลกคนนี้ ต้องมา
เจาะจงฆ่าผอ. โรงเรียนธรรมดา ๆ คนหนึ่งด้วยล่ะ
ผมคิดอย่างนั้นแต่แล้วก็นึกถึงข้อมูลที่ได้จากเกล็น
อีก
"นายโคคนนี้มีข้อมูลมาว่า ไม่ใช่ผู้อำนวยการโรง
เรียนกระจอก ๆ นะครับ ข่าวว่าเป็นคนที่พัวพันกับ
การเมืองภายในของเอลเดียอย่างค่อนข้างลึกซึ้งคน
หนึ่งด้วยครับ และก็รู้สึกว่าทางตำรวจของญี่ปุ่นเอง
ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นหน่วยงานไหน ..."
เอ เรื่องชักจะยุ่ง ๆ แล้วสิ แต่พอนึกถึงตรงนี้แล้ว ก็
นึกขึ้นได้ว่า
'ฮิมุโระ!' ใช่ครับ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผมเจอกับเจ้า
หน้าที่ของตำรวจญี่ปุ่นเข้าด้วยตัวเองแล้ว ที่ว่ามา
ติดตามพฤติกรรมของนายโคคนนี้อยู่ นี่แสดงว่าฮิมุ
โระคนนั้นต้องรู้จักหน้าตาของนายโคตัวจริงแน่นอน
และก็คงจะรู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า คนตายคือโค
'แต่ไม่เห็นบอกเราสักคำว่าคนตายคือ นายโค อ๊ะ!
ใช่สิ' ผมแทบจะเขกศีรษะตัวเอง ก็ลองนึกบท
สนทนาระหว่างผมกับฮิมุโระดี ๆ สิครับ จะเข้าใจได้
ทันทีว่า ฮิมุโระเองก็เข้าใจว่า ผมรู้จักกับนายโคตัว
จริงและรู้แล้วว่าศพที่ตายอยู่นั้นคือใคร ขณะที่ผมก็
ปากหนัก ไม่ได้เอ่ยไปเสียทีว่า ผมไม่รู้ว่าใครมาตาย
ในบ้านคุณโคถ้าผมพูดให้ชัดเสียหน่อย ฮิมุโระก็คง
จะเอะใจและให้ข้อมูลผมเอง เฮ้อ บ้าแท้ ๆ เรื่องเลย
กลายเป็นว่า ผมเจอศพนั่นก่อนใคร (ถ้าไม่นับเจ้านิ
ไคโด และเจ้าฆาตกรตัวจริงซึ่งจะเป็นใครก็เถอะ)
แต่ผมกลับรู้ทีหลังใคร ๆ แม้กระทั่งยะโยยเลยว่าคน
ตายคือ นายโค นึกแล้วก็ชักสมเพชตัวเอง (-_-x)
"เฮ้อ!" ผมอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เรื่องมันชัก
จะไปกันใหญ่แล้วสิ มีทั้งการเมืองของประเทศเอล
เดียมาเกี่ยวข้อง แถมมีนักฆ่าอีก ยังไม่พอ มีตำรวจ
ญี่ปุ่นเข้ามาอีก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะเข้าไป
ยุ่งด้วยนัก สิ่งที่ผมเป็นห่วงก็คือ บริษัทของยะโยย
จะไปรอดรึเปล่า เท่านั้นเอง เพราะเท่าที่รู้มาเมื่อ
วาน สภาพของบริษัทเธอก็ง่อนแง่นเต็มทน แล้วนี่
ข้ามวันมาก็ปรากฏว่านักสืบในสังกัดมีชื่อโผล่หรา
ตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม
ใจจริง ผมอยากจะเข้าไปช่วยแก้ข้อหาให้ด้วยซ้ำ
เพราะผมเองก็เป็นคนพบเห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
แต่ถ้าเจ้านิไคโดยังคงกบดานอยู่อย่างนี้ละก็ ผมก็
คงจะทำอะไรไม่ได้ แล้วที่อุตส่าห์ขอร้องฮิมุโระไว้
ให้ช่วย 'กัน' ผมออกจากเรื่องนี้ ก็จะกลายเป็นว่า
ผมกลับพาตัวเข้าไปยุ่งใหม่ ดีไม่ดี อาจจะเดือดร้อน
ถึงฮิมุโระอีก ว่าอำพรางคดีให้ผมอีกก็เป็นได้ ชักยุ่ง
แฮะ ผมคิดไปคิดมาก็ไปลงที่เจ้าอ้วนนั่น 'ใช่สิ เรื่อง
ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเจ้าอ้วนนั่นมาปลอมเป็นนาย
โค และมาจ้างเรากับยะโยยให้ทำงานให้แท้ ๆ เชียว
ถ้าไม่มีหมอนั่น ก็คงไม่เกิดเรื่องยุ่งแบบนี้หรอก'
ผมนึกเคียดแค้นในใจ พลางก็คิดว่า ตูว่าแล้วว่า
นายโค (ตัวปลอม) มีอะไรไม่น่าไว้ใจ ผมถึงได้ไม่
อยากรับงานเขามาตั้งแต่แรกแล้วไงล่ะครับ สังหรณ์
ของผมพลาดเสียเมื่อไหร่ล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ตอน
นี้ที่ผมแค้นใจคือ ผมอยากจะแสดงตัวใจแทบขาด
ว่าผมเป็นคนพบศพนั้นเอง และก็พบกับนิไคโดก่อน
หน้านั้นด้วย แต่ทำไม่ได้
'ทำเท่าที่เราจะทำได้ก็แล้วกัน ที่เหลือก็คงขึ้นกับ
ดวงและฝีมือของเธอล่ะ ยะโยยจ๋า' ผมคิดในใจ
ปิดแฟ้มข้อมูลในคอมพิวเตอร์ แล้วปิดเครื่อง เดิน
กลับไปที่กลางสำนักงาน
"พริน"
"เจ้าค่า" พรินลากรองเท้าแตะ เดินเตาะแตะออกมา
ตามเคย
"ฉันไปธุระข้างนอกหน่อย เฝ้าออฟฟิศด้วยนะ"
...
ด้วยใจคิดว่า นั่งคิดไปก็เท่านั้น ผมก็เลยพาตัวเอง
ออกมาข้างนอก เป้าหมายคือ บ้านคุณโค ซึ่งก็พบ
ว่าเป็นไปตามคาด มีเทปขึงปิดล้อมรอบบ้านไว้ เป็น
สัญลักษณ์ว่า 'ห้ามเข้า' แถมหน้าประตูมีพลตำรวจ
ยืนเฝ้าอยู่สองคน คนเดินผ่านไปผ่านมา ต่างหยุด
ยืน มองไปที่ตัวบ้านอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น บาง
คนที่รู้ข่าวจากสื่อมวลชนแล้ว ก็พากันกระซิบ
กระซาบกัน บอกว่า ที่นี่แหละคือสถานที่เกิดเหตุ
ฆาตกรรมโหด
ผมลองแย็ป ๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าหน้าบ้าน
แต่ก็ได้รับคำตอบว่า ได้รับคำสั่งให้เฝ้าสถานที่เฉย
ๆ ทางเบื้องบนไม่ได้ให้รายละเอียด ผมเห็นท่าจะไม่
ได้ความแล้ว เลยเดินออกมา
...
เป้าหมายถัดไปคือ โรงเรียนนักเรียนต่างชาติเอล
เดีย ซึ่งเป็นที่ทำงานของนายโค ปรากฏว่าเป็นไป
ตามคาด ที่หน้าประตูโรงเรียน มีพวกนักข่าวกลุ่ม
เบ้อเริ่มมายืนออกันอยู่ และคอยดักสัมภาษณ์ผู้ที่
เกี่ยวข้องกับโรงเรียนทุกคนที่เดินผ่านเข้าออก ผม
นึกถึงยัยนักข่าวสาวชิบะตะ อะคะเนะขึ้นมาตะหงิด
ๆ แต่ไม่เห็นเจ้าหล่อนอยู่ในกลุ่มนั้น คงเป็นเพราะ
เจ้าหล่อนถูกกีดกันจากคนวงการเดียวกันด้วยนั่น
เอง จากผลแบนของอิทธิพลทางการเมืองที่เจ้า
หล่อนไปทำซ่ากับเขาไว้ก่อน
อืมห์ ไหน ๆ ก็มาถึงโรงเรียนนี่แล้ว เดินต่อไปอีกสัก
หน่อยก็จะเป็นสถานทูตเอลเดียแล้ว ลองเดินไปดู
ละกัน ผมคิดในใจอย่างนั้น แล้วก็เดินไปทางสถาน
ทูตเอลเดีย ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะไปทำอะไรที่
นั่น เพราะตอนนี้ข้อมูลที่จะโยงเข้าไปหาสถานทูต
เอลเดียก็มีแค่อย่างเดียว ก็คือ เอกอัครราชทูตเอล
เดีย ชื่อ มิโดแต่จะเป็นคนเดียวกับนายมิโดที่เจ้านิ
ไคโดติดต่ออยู่หรือไม่ ผมก็ไม่รู้ได้
...
back index next