สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้นำเรื่องความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกง อันเนื่องมาจาก อานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ มาเล่าให้ฟัง ได้มีผู้สนใจ อยากทราบรายละเอียดกันมาก ดังนั้น ทางศูนย์ฮ่องกง จึงใคร่ขอนำเรื่องความอัศจรรย์นี้มาลงไว้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ ถึงเรื่องราว ความศักดิ์สิทธิ์ของ พระมหาสิริราชธาตุ ที่ปรากฏเกิดขึ้น ในต่างประเทศ เรื่องราวมีอยู่ว่า
มีครอบครัวหนึ่ง ซึ่งผู้เป็นแม่เป็นคนไทย ที่ได้แต่งงานกับคนฮ่องกง มีบุตร ๔ คน ลูกสาวคนสุดท้องชื่อ อึ้ง โอย ฟั้น ชื่อเล่น อาฟั้น อายุ ประมาณ ๑๗ ปี กำลังอยู่ในวัยสดใสร่าเริง ครอบครัวนี้ ได้มาทำบุญ ที่ศูนย์ฮ่องกงเป็นประจำ โดยการแนะนำของน้าสาว
อยู่มาวันหนึ่ง ประมาณวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ อาฟั้นล้มป่วยลง มีอาการปวดศีรษะ ต้องเข้าโรงพยาบาล ถ่องเหล่อว้าน เมื่อวันที่ ๗ กันยายน หลังจากแพทย์ ตรวจสอบพบว่า เป็นมะเร็ง ในเม็ดเลือด
ต่อมา อาฟั้นได้ย้ายไปรักษาตัว ที่โรงพยาบาล ทีไฉ่ว้าน เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ซึ่งเป็นโรงพยาบาล ที่มีชื่อเสียงและทันสมัย ด้านวิชาการ แพทย์มาก คณะแพทย์ในโรงพยาบาล ลงความเห็นว่า อาฟั้นเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด ขั้นสุดท้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้ ไม่เกินวันที่ ๑๓ กันยายน
น้าสาวซึ่งเป็นกัลยาณมิตร ได้รับคำแนะนำจาก พระอาจารย์ที่ศูนย์ฮ่องกงว่า ให้สร้างองค์พระแกนกลาง เพื่อบูชาธรรมครูบาอาจารย์ น้าสาวก็ได้สร้าง องค์พระแกนกลาง บูชาธรรม พระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโย เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคมที่ผ่านมา และได้รับพระมหาสิริราชธาตุ จากพระอาจารย์ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน
พอรู้ว่า หลานสาวป่วยเป็น โรคมะเร็งในเม็ดเลือด ก็ได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ว่า ควรนำ พระมหาสิริราชธาตุนี้ไปให้หลานสาว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่คนไข้ เธอจึงนำพระมหาสิริราชธาตุไปให้หลานสาวที่โรงพยาบาล ในวันที่ ๑๐ กันยายน สำหรับคล้องคอ แต่เนื่องจาก การรักษาต้องมีการเจาะคอ จึงมีรอยแผลที่คอ ไม่เหมาะกับการสวมใส่สร้อย ที่จะแขวนองค์พระได้ จึงได้นำพระมหาสิริราชธาตุ ไปไว้ข้างๆ ตัวคนไข้
อาฟั้นได้รับการแนะนำจากน้าสาว ให้ท่องคำว่า สัมมา อะระหัง ก็พยายามสะกด และท่องไปเรื่อยๆ หลังจากที่อาฟั้นได้รับพระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุแล้ว ก็มีกำลังใจ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แม้แต่ความตาย เธอมีความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าร่าเริง และกลับเป็นผู้ให้กำลังใจ ต่อผู้ที่มาเยี่ยมตลอดเวลา ไม่มีอาการทุกข์ร้อนเลย เมื่อมีเพื่อนๆ มาเยี่ยม อาฟั้นก็ต้อนรับเพื่อนๆ ด้วยอัธยาศัยที่ดี
มีเพื่อนรายหนึ่งซึ่งนับถือศาสนาคริสต์บอก ว่า จะสวดมนต์ภาวนา ขอต่อพระเจ้าให้ เพื่อให้รอดพ้นจากความตาย อาฟั้นกลับบอกว่า ไม่ต้อง หรอก ฉันมีพระเจ้าของฉันแล้ว นี่ไง เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็เที่ยวบอกใครต่อใครว่า ฉันเชื่อว่า ฉันไม่เป็นอะไรหรอก เพราะฉันมีพระองค์นี้ อยู่ข้างๆ
จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๓ กันยายนซึ่งหมอได้เคยวินิจฉัยว่า อาฟั้นจะมีชีวิตอยู่ไม่เกินจากวันนี้เด็ดขาด แต่ปรากฏว่า คนไข้ก็ยังมีอาการสดชื่น เหมือนเดิม และดีขึ้นเรื่อยๆ จนคณะแพทย์เกิดความประหลาดใจ คิดว่าตนเองวินิจฉัยโรคผิด
จึงได้มีการตรวจสอบกัน จนถึงแพทย์ใหญ่ประจำ โรงพยาบาล อีกทั้งขอให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคนี้ จากโรงพยาบาลอื่น มาตรวจสอบ ก็ได้ข้อสรุปเช่นเดียวกันว่า ไม่มีการวินิจฉัยผิดพลาด แต่ประการใด แต่ก็ไม่รู้สาเหตุว่า ทำไมคนไข้ จึงสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ และมีอาการดีขึ้น เรื่อยๆ
แผลที่เจาะที่บริเวณคอก็ดี หรือที่หน้าอก ตลอดจน กระดูกสันหลังก็ดี ก็หายอย่างรวดเร็ว และหายสนิทจนไม่เห็นแผลเป็น จนแพทย์รู้สึก ฉงนสนเท่ห์หาคำตอบไม่ได้ ผู้ที่ทราบเรื่องก็เที่ยวโจษจันกันไปทั่ว และพากันมาดูอาการ เพื่อให้ประจักษ์กับนัยน์ตาของตัวเอง
จนกระทั่งข่าวนี้ได้รู้ไปถึงนักข่าวและทีวี ตลอดจนนักจัดรายการวิทยุต่างก็พากัน มาขอสัมภาษณ์ ออกอากาศกระจายเสียง ไปทั่วฮ่องกง บัดนี้ อาฟั้นได้รับการเปลี่ยนชุดยาระลอกที่ ๒ พร้อมกับรอดูผลอีกครั้งใน วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ แต่อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ก็ลงความเห็น ว่า คนไข้มีสุขภาพที่ดีมาก จึงอนุญาตเป็นพิเศษให้อาฟั้นออกนอกโรงพยาบาล ได้วันละ ๒ ชั่วโมง
ขณะนี้อาฟั้นสามารถคล้องพระมหาสิริราชธาตุไว้ที่คอได้ตลอดเวลาแล้ว แม้กระทั่งในยามที่อาบน้ำ อาฟั้นเล่าว่า มีความรู้สึกอบอุ่นมากๆ เหมือนกับว่า มีผู้ให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองอยู่ใกล้ตัว ตลอดเวลา ไม่รู้สึกว่าเป็นทุกข์เลย และเชื่อมั่นในบุญมาก พร้อมทั้งยังย้ำกับน้าสาวอีกว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเธอเชื่อในบุญมาก แล้วยังแถมท้ายกับน้าสาวว่า น้ารู้มั้ยว่าบุญเป็นอย่างไร ให้เชื่อแล้วก็จะรู้เอง
เนื่องจากได้เห็นคุณค่าของบุญ อาฟั้นจึงนำเงินมาสร้างพระธรรมกาย ประจำตัวประดิษฐานภายนอก มหาธรรมกายเจดีย์ และตั้งความ ปรารถนาไว้ว่า จะมาเมืองไทยให้ได้ เพื่อกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ธัมมชโย มาเยี่ยมชมวัดพระธรรมกาย และสักการะ มหาธรรมกายเจดีย์
[สารบัญ] [ ๕๑ ] [ ๕๒ ] [ ๕๓ ] [ ๕๔ ] [ ๕๕ ] [ ๕๖ ] [ ๕๗ ] [ ๕๘ ] [ ๕๙ ]