อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๘๐.เห็นนิมิตให้ไปวัด สร้างบุญช่วยชีวิตหลานชายได้

คุณสุจิต มีทรัพย์ ครูใหญ่ โรงเรียนอนุบาลพุทธรักษา เล่าว่า

ในปีที่ผ่านมาไม่ได้มาทำบุญที่วัดพระธรรมกายเลย จนกระทั่ง วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ คุณสุจิตฝันว่า มีดวงไฟขนาดใหญ่ คล้าย สปอตไลท์ เกิดขึ้นเหนือวัดพระธรรมกาย คุณสุจิตเป็นคนขับรถไปที่วัด มีคุณย่านั่งอยู่ข้างหน้า พอเข้าไปในวัด มีเสียงพูดดังมาจากที่ใด ไม่ทราบว่า ที่นี่เป็นเนื้อนาบุญ จะตักเท่าไร ไม่มีพร่อง

เมื่อลงจากรถได้เห็นทุ่งนากว้างใหญ่ มีต้นข้าวที่เกี่ยวแล้วมัดเป็นฟ่อน เล็กๆ วางเต็มไปหมด แต่ละฟ่อนมีข้าวรวงใหญ่ แต่ละเมล็ดสมบูรณ์ สวยงาม แล้วมีเสียงพูดดังขึ้นมาอีกว่า อยากได้ อยากจะหอบจะขนเอาเท่าไร เอาไปได้เลย

คุณสุจิตได้ยินดังนั้น จึงรีบขนฟ่อนข้าวขึ้นรถทันที ขนจนเหนื่อยหอบ ข้าวเต็มคันรถแล้ว ก็ยังไม่พอใจ ได้เรียกผู้คนแถวนั้นให้มาช่วยกันขนด้วย

ขณะที่ขนฟ่อนข้าวอยู่นั้น เกิดแสงสว่างทาบทาจากฟ้า เป็นแสงสีทอง สวยงามมากส่องลงมา คุณสุจิตจึงขับรถตามแสงนั้น เข้าไปจนถึง บริเวณด้านในของวัด

ทันใดนั้นมีเสียงดังขึ้นว่า ทุกคนจงทำหน้าที่ของตัวเองไป จากนั้นบริเวณนั้น กลับไม่ใช่ทุ่งนาโล่งดังที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ แต่มีผู้คนจำนวนมาก อยู่กันเต็มพื้นที่ แต่ละคนแต่งกายสวยงามมาก แบบทหารองครักษ์ สีแดง สีเขียว ใส่มงกุฏด้วย ติดยศกัน แพรวพราวไปหมด มองแล้วรู้สึกงงว่า ที่นี่เป็นที่ไหน คนเหล่านี้เป็นใคร ทำหน้าที่อะไรกัน

เมื่อตื่นขึ้นมา คิดสรุปเอาว่า คงเป็นความฝันที่เตือนให้มาสร้างบุญที่วัด เพราะไม่ได้มาที่วัดเป็นเวลานาน จึงได้เล่าความฝันให้คุณย่าฟัง และชวนท่านว่า ต่อไปนี้เราต้องไปวัดกันแล้วนะคุณย่า

วันก่อนไปวัด เป็นวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ทางโรงเรียนที่คุณสุจิตทำงานอยู่ ได้นิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่งชื่อพระมหาเสถียร มานำนั่ง สมาธิให้คณะครูและนักเรียน บางส่วน เธอได้เล่าความฝันให้ท่านฟัง และบอกความตั้งใจว่า จะสร้างพระธรรมกายประจำตัว ให้พ่อกับแม่

ท่านได้แนะนำให้ทำบุญสร้างองค์พระธรรมกาย ประจำตัวที่แกนกลาง มหาธรรมกายเจดีย์ บูชาธรรมหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พร้อมทั้งมอบภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญให้ คุณสุจิต ๑ ภาพ

คืนวันนั้นได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากพี่สาวว่าหลานชายคนเดียวของเธอประสบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์คว่ำ อาการหนักมาก แฮนด์รถทิ่ม เข้าไปในท้อง ศีรษะฟาดพื้นอย่างแรง แพทย์ไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะเลือดไหลไม่หยุด สงสัยว่าม้ามหรือตับอาจจะแตก หลานชายคุณสุจิต อยู่ใน ห้องผู้ป่วยหนัก ๓ วันแล้ว ยังไม่รู้สึกตัว การเต้นของหัวใจอ่อนลงมาก แพทย์บอกให้ญาติเตรียมทำใจ อาจจะหมดหวังที่จะรอดชีวิต

คุณสุจิตมีความสนิทสนมและรักหลานคนนี้มาก เนื่องจากเธอเองไม่มีลูก จึงปลอบพ่อแม่ของหลาน และชวนให้สร้างพระธรรมกาย ที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ จะได้อธิษฐานจิตให้บุญกุศลช่วยชีวิตลูก

คุณสุจิตได้ทำสมาธิและอธิษฐานจิตอาราธนาขออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ช่วยให้หลานฟื้นและมีอาการปกติครบ ๓๒ ประการ

วันรุ่งขึ้นพี่สาวเล่าว่า ประมาณเที่ยงคืน แขนของหลานชายขยับได้ จากนั้นขาก็เคลื่อนไหวได้ และพยายามจะพูด แต่จับคำไม่ได้ว่าพูดอะไร จากนั้นกร๊าฟหัวใจเริ่มสูงขึ้นๆ จนเป็นปกติ

ในที่สุดแพทย์สามารถผ่าตัดได้ หลังจากผ่าตัดหนึ่งวันก็ออกจากห้อง ไอ.ซี.ยู. จากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ศีรษะที่ถูกกระทบกระเทือนก็ดีขึ้น เริ่มจำได้รับรู้ได้ คุณพ่อคุณแม่ของคุณสุจิต ซึ่งเป็นตายายของคนป่วยสบายใจขึ้นมาก เธอจึงทำบุญสร้างพระแกนกลางให้หลานชายอีก ๑ องค์

ความฝันของคุณสุจิตเป็นประเภทเทพยดาเนรมิตให้เห็นว่า ที่วัดพระธรรมกายเป็น นาบุญชั้นดี โดยให้เห็นฟ่อนข้าวที่วางอยู่มากมาย เรียกว่า ทำบุญที่นั่น ยิ่งทำยิ่งได้ เป็นเนื้อนาบุญอันบริสุทธิ์จริงๆ

เมล็ดข้าว รวงข้าวที่เห็นมีขนาดใหญ่ สมบูรณ์ เปรียบเสมือนได้บุญมากเต็มที่นั่นเอง

ส่วนเรื่องดวงไฟขนาดใหญ่คล้ายสปอตไลท์และสีทองทาบลงมาทั่วบริเวณก็ตรงกับวันเกิด อัศจรรย์ตะวันแก้ว ในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๑ แต่สีทองที่อาบทั่วบริเวณที่มหาชนร่วมกัน ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ ฉลองการปิดพระแกนกลางสำเร็จ เกิดขึ้นให้เห็นกันทั่วหน้า ในวันที่ ๖ กันยายน เวลาบ่าย๕ โมงเศษ ส่วนดวงไฟดวงใหญ่ๆ เกิดขึ้นเวลาเที่ยงเศษ วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๔๑ วันปิดเจดีย์ภายนอก เกิดบนหลังคากุฏิพระ

สำหรับภาพทหารติดยศต่างๆ ที่คุณสุจิตเห็นในฝัน เปรียบได้กับพวกเราทุกคนที่ร่วมกัน สร้างบารมีติดตาม พระเดชพระคุณ หลวงพ่อ  วัดปากน้ำ ที่เป็นธรรมราชาแม่ทัพใหญ่ ส่วนพวกเราเป็นตั้งแต่พลทหาร นายสิบ นายร้อย นายพัน นายพล ในกองทัพธรรมแห่งนี้


[สารบัญ] [ ๗๖ ] [ ๗๗] [ ๗๘ ] [ ๗๙ ] [ ๘๐ ] [ ๘๑ ]