อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๒๖๙. นั่นแสงอะไร

คุณสมใจ เฮงบำรุง อยู่ที่ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ได้เล่าถึงอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ที่เกิดขึ้นกับตนเองถึง ๓ ครั้ง 

ครั้งแรก คือ หลังจากที่ตนเองได้มาทำบุญสร้าง องค์พระแกนกลาง และได้รับ พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นพญานาคกรอบทอง ไปแล้ว ประมาณ ๑ สัปดาห์ และได้หมั่นสวดสรรเสริญท่านทุกวัน วันหนึ่งได้เข้าไปสวดสรรเสริญ ในห้องของลูกสาว เพราะเงียบดี และได้ปิดไฟในห้อง

ขณะที่กำลังสวด ก็เห็นแสงพุ่งเป็นลำแสง ตั้งฉากกับฝาผนัง ตนรู้สึกตกใจ พอตั้งสติได้ก็เดินไปดูรอบๆ ห้องก็ไม่มีอะไร นึกแปลกใจว่า ในห้องไม่มีร่องรอย ที่แสงสว่างจากภายนอก จะสาดเข้ามาได้เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นลำแสงสว่างจ้าทั้งห้อง สักครู่ก็หายไป จึงเกิด ความ มั่นใจว่า พระมหาสิริราชธาตุ ท่านคงแสดงอานุภาพให้เห็น เพื่อเป็นบุญตา และแสดงให้รู้ว่า ท่านอยู่กับเราตลอดเวลา 

เห็นดังนั้น เมื่อตั้งสติได้ จึงรีบอธิษฐานกับท่านว่า ขอให้คุณแม่ หายจากกระดูกหักเป็นอัศจรรย์ โดยไม่ต้องผ่าตัด เพราะคุณแม่ อายุ มากแล้ว และสาเหตุที่ป่วยคือ หกล้ม กระดูกต้นขาหัก เดินไม่ได้ เจ็บปวดทรมานมาก ต้องนอนอย่างเดียว 

วันต่อมา ก็ได้นำพระไปให้แม่อธิษฐานจิตอีก คุณแม่น้ำตาไหล หลังจากนั้นอีก ๒ สัปดาห์ อาการของคุณแม่ ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ หายวัน หายคืน หน้าตาสดใส แข็งแรงเริ่มเดินได้ และที่สำคัญ หมอไม่ต้องผ่าตัด เพราะอาการดีขึ้นแล้ว

ครั้งที่สอง ตนได้ป่วยเป็นไซนัสมานานมาก ซึ่งเป็นบริเวณโพรงโหนกแก้ม จะมีอาการปวดร้าว ตั้งแต่ศีรษะจนถึงบริเวณฟัน ทำให้กิน ไม่ได้ นอนไม่หลับ มีไข้สูง ได้ไปหาหมอหลายแห่ง แต่ก็ยังรักษาไม่หายขาด จนมาวันหนึ่ง ได้อ่านหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ซึ่ง หลายคนหายจากอาการเจ็บป่วย เพราะทำน้ำมนต์ดื่ม ก็เลยอยากทดลองบ้าง 

พอดีวันนั้น ปวดฟันมากและอาการไซนัส กำเริบอย่างหนัก จึงทำน้ำมนต์อธิษฐานจิต และสวดสรรเสริญ ขอให้น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้ ช่วยให้หายจากโรค อย่างอัศจรรย์ และได้ทำน้ำมนต์ดื่ม ติดต่อกัน ๗ วัน ผลปรากฏว่า ปัจจุบันโรคที่เป็น ก็หายจริงๆ หายขาด โดยไม่ต้องกิน ยา ตนจึงศรัทธาใน องค์พระมหาสิริราชธาตุ เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ครั้งที่สาม เมื่อวันพุธที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒ ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปจังหวัดจันทบุรี เพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท ที่เขาคิชฌกูฏ ก่อนเดินทาง ก็ได้อาราธนาให้ท่าน ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัย เมื่อไปถึงปลายทาง ขณะก้าวลงจากรถ ไม่ทันสังเกต เท้าได้เหยียบไปบน เศษ แก้ว แหลมคม ทำให้เลือดไหลทะลักออกมา อย่างมากมาย และแผลลึกด้วย เกิดอาการเจ็บปวดอย่างมาก เลือดไหลไม่หยุด คิดว่า

คงเดินไปไม่ไหวแน่ จึงได้อธิษฐานกับพระมหาสิริราชธาตุ ขอให้เลือดหยุดไหล และหายปวดเป็นอัศจรรย์ สามารถไปนมัสการ รอย พระพุทธบาทได้ ซึ่งต้องเดิน เป็นระยะทางประมาณ ๕ กม. 

ปรากฏว่า พออธิษฐานเสร็จเลือดซึ่งเดิมไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล ก็หยุดไหลทันที และอาการปวด ก็หายเป็นปลิดทิ้ง อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ไปนมัสการ ได้เรียบร้อย พอกลับลงมา เลือดก็ไหลอีก และแผลก็ปวดมาก ผู้ที่ไปด้วยแนะให้ไปหาหมอ เพื่อเย็บแผล ก็เลยอธิษฐานอีกว่า ขออย่าให้ลูกเป็นอะไรเลย ให้กลับบ้านได้ โดยไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องฉีดยา แก้บาดทะยัก กลับมาถึงบ้าน ก็ทำน้ำมนต์ดื่มอีก เมื่อตื่นขึ้น ในเวลาเช้า ปรากฏว่า อาการปวดก็หายไป และแผลก็แห้งสนิท โดยไม่ต้องเย็บแผล เหมือนดั่งที่อธิษฐานทุกประการ

การที่ใครได้เห็นปาฏิหาริย์ใดๆ ก็ตาม แสดงว่าเวลานั้นจิตของ ผู้เห็นหยุดนิ่งสนิท ใจที่หยุดสนิทที่ศูนย์กลางกาย เป็นใจที่สามารถ รับพลังบุญได้เต็มที่ ถ้าเจ้าตัวอธิษฐานจิต ขอสิ่งใดๆ ในเวลานั้น ก็มักจะประสบความสำเร็จ เป็นอัศจรรย์

ส่วนเรื่องหายจาก เจ็บไข้ได้ป่วย หายจากอุบัติเหตุ นอกจากจะ เชื่อมั่นในพลานุภาพบุญแล้ว เราทุกคนไม่ควรประมาทเลินเล่อ ในการ ดูแลรักษาตัว สิ่งใดป้องกันได้ควรทำเอาไว้ ไม่ใช่รอให้เหตุร้ายเกิดแล้ว จึงลงมือแก้ไข อาจจะไม่สมหวัง อย่างรายที่เล่าไว้นี้เสมอไป


[สารบัญ] [๒๖๖] [๒๖๗] [๒๖๘] [๒๖๙] [๒๗๐] [๒๗๑]
[๒๗๒] [๒๗๓] [๒๗๔] [๒๗๕] [๒๗๖] [๒๗๗] [๒๗๘] [๒๗๙] [๒๘๐]