คุณวีรวุฒิ วรสุบิน อยู่ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา และได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยประมาณ ๓ สัปดาห์ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ ที่ตนเอง ได้ประสบกับ อานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ อย่างไม่คาดฝัน คือ
ช่วงเดือนมีนาคม ได้ไปออกร้าน แสดงสินค้าประเภทจิวเวอรี่ ที่จัดขึ้น ณ หอประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และได้เดินไปซื้ออาหาร ซึ่งเป็นห้อง อาหาร มีกระจกบานใหญ่มาก ขนาดประมาณ ๒๎๔ เมตร ความหนาประมาณ ๑ ซม. เนื่องจากกระจกนั้นใสมาก และไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ ติดที่กระจก โดยที่ไม่ทันได้ระวัง จึงชนกระจกอย่างเต็มแรงที่บริเวณศีรษะ ด้วยความแรง ทำให้กระจกบริเวณที่ถูกชน แตกละเอียด หล่นมาเต็ม ไปหมด และมีกระจกอีก ๑-๒ แผ่นตกใส่บริเวณหัวเข่า
ขณะนั้น พี่สาวที่ไปด้วยก็ตกใจ ตนเองก็งงๆ เช่นกัน หลายคนที่เห็นเหตุการณ์ ต่างตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ ที่เห็น และพากันมารุม ถามว่า เป็นอะไรหรือเปล่า บ้างก็เอายามาให้ทา แต่เขากลับบอกว่า ไม่เป็นไร แค่มีรอยถลอกนิดหน่อย บริเวณหัวเข่า ซึ่งทุกคน ก็ประหลาดใจ ไปตามๆ กัน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
ซึ่งความเป็นจริงนั้น ถ้ากระจกบานใหญ่แตกขนาดนี้ ร่างกายควรจะได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเลือดอาบท่วมตัว เพราะกระจกนั้น แหลม คม มาก แต่นี่ปรากฏว่า ไม่เป็นอะไรเลย และที่น่าอัศจรรย์ก็คือ ศีรษะที่พุ่งชนกระจก อย่างเต็มแรง ก็ไม่มีอาการเจ็บปวด หรือมึนตึงแต่อย่างใด ทุกอย่างในร่างกาย เป็นปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ
ตนรู้สึกเชื่อมั่นในอานุภาพ ความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุ ที่ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองรักษา ให้ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ทำให้รู้ว่า ที่พึ่งที่แท้จริง ในยามคับขันของชีวิต มีเพียงสิ่งเดียวคือ พระรัตนตรัย
อุบัติเหตุรายนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นให้เชื่อเลย เหลือแต่อำนาจพุทธานุภาพของพระมหาสิริราชธาตุ ที่คุณวีรวุฒิมีติดตัวอยู่เท่านั้น อันที่จริง สถานที่ต่างๆ ที่นิยมทำผนังกันห้อง ด้วยกระจกใส น่าจะมีลวดลายบางอย่าง หรือคำพูดติดไว้ ให้เป็นที่สังเกตเห็นได้ชัด ใครจะรู้ คนที่ไม่มี จิตใจ ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย อาจจะได้บาดแผลเหวอะหวะร้ายแรง เพราะการเดินของคนเรา เมื่อคิดว่าเป็นที่ว่าง ก็จะเดินหน้า เต็มที่ สุดกำลัง ก้าวไม่มีการยับยั้งอะไร
[สารบัญ] [๒๖๖] [๒๖๗] [๒๖๘] [๒๖๙] [๒๗๐] [๒๗๑]
[๒๗๒] [๒๗๓] [๒๗๔] [๒๗๕] [๒๗๖] [๒๗๗] [๒๗๘] [๒๗๙] [๒๘๐]