1. DVD คืออะไร ?
DVD ย่อมาจาก Digital Versatile Disc ซึ่งได้ชื่อมาจากการที่ดิสก์สามารถเก็บข้อมูลได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เสียงเพลง หรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ทำให้ปัญหาความหลากหลายรูปแบบของความบันเทิงอิเล็กทรอนิกส์ลดน้อยลง และเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับรูปแบบความบันเทิงแบบใหม่
2. DVD มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ?
DVD มีลักษณะเหมือนกับแผ่นซีดีทั่วไป คุณแทบจะแยกความแตกต่างไม่ได้เลยถ้าไม่มีตัวหนังสือเขียนกำกับ
3. DVD เหมือนกันหมดทุกแผ่นหรือไม่ ?
ไม่เหมือนกัน เพราะ DVD มีหลายรูปแบบเช่นเดียวกับซีดี ขึ้นกับว่าใชบันทึกวิดีโอ ออดิโอ หรือข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์
4. ฟอร์แมตไหนของ DVD ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ?
DVD-ROM คือ ฟอร์แมตที่กำหนดวิธีการในการเก็บข้อมูลในการใช้งานกับพีซีของดิสก์ ในการอ่านแผ่น DVD-ROM เครื่องของคุณจะต้องมีไดรว์ DVD-ROM ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับไดรว์ซีดีรอม ที่มีอินเตอร์เฟซทั้งแบบ SCSI และ IDE และติดตั้งในลักษณะเดียวกัน
5. DVD-ROM สามารถเก็บข้อมูลได้เท่าไร ?
DVD-ROM มีวิวัฒนาการที่สำคัญ 3 ประการที่ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าซีดีรอม ประการแรกคือ แสงเลเซอร์ที่ใช้อ่าน DVD สามารถอ่านในระดับความถี่ที่สูงกว่า ทำให้สามารถอ่านข้อมูลบนดิสก์ที่เก็บในระดับที่หนาแน่นกว่าข้อมูลบนซีดีได้ แผ่น DVD จึงเก็บข้อมูลได้ถึงหน้าละ 4.7 GB ในขณะที่ซีดีเก็บได้เพียง 650 MB อีกประการหนึ่งคือดิสก์บางดิสก์จะมีเลเยอร์ในการเก็บข้อมูลข้อมูลชั้นที่ 2 ซึ่งซ้อนทับบนเลเยอร์สีเงินตามปกติของแผ่นอีกชั้นหนึ่ง ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้เพิ่มขึ้นเป็น 8.5 GB สุดท้าย DVD สามารถบันทึกข้อมูลได้ทั้ง 2 ด้าน ทำให้อัตราสูงสุดในการเก็บข้อมูลสูงสุดถึง 17 GB แต่แผ่น ไดรว์ DVD ทุกตัวจะต้องสามารถอ่านดิสก์ได้ทั้ง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็นดิสก์แบบด้านเดียว 1 เลเยอร์ ( 4.7 GB ) ด้านเดียว 2 เลเยอร์ ( 8.5 GB ) 2 ด้าน 1 เลเยอร์ ( 9.4 GB ) 2 ด้าน 2 เลเยอร์ ( 17 GB ) ในปัจจุบันนี้ ไดรว์ DVD ยังไม่สามารถอ่านทั้งสองด้านพร้อมกันได้ ดังนั้นคุณจะต้องกลับด้านดิสก์เพื่อให้เครื่องอ่านอีกด้านหนึ่ง
6. ไดรว์ DVD-ROM สามารถอ่านดิสก์ซีดีรอมได้หรือไม่ ?
ได้ และไดรว์ DVD-ROM ทั้งหมดสามารถเล่นซีดีเพลงได้เช่นเดียวกัน
7. ไดรว์ DVD-ROM ทั้งหมดเหมือนกันหรือไม่ ?
ถึงแม้ว่า DVD จะเป็นเทคโนโลยีที่ยังใหม่อยู่มาก แต่ในปัจจุบันนี้ก็มีไดรว์ DVD-ROM อยู่ 2 ประเภท ไดรว์ DVD-ROM รุ่นแรกไม่สามารถอ่าน CD-R ( เขียนครั้งเดียว ) และ CD-RW ( ทั้งอ่านและเขียน ) ได้ ไดรว์อีกรุ่นหนึ่งซึ่งมักจะเรียกว่า ไดรว์รุ่นที่ 2 หรือ DVD-2 สามารถอ่านซีดีทั้งสองประเภทได้ ไดรว์รุ่นแรกมีอัตราในการเคลื่อนย้ายข้อมูลเทียบเท่ากับไดรว์ซีดีรอมความเร็ว 8x ในขณะที่ไดรว์รุ่นที่ 2 สามารถอ่านซีดีในระดับความเร็ว 20x ถึง 24x
8. นอกจากความจุสูงแล้ว DVD ยังมีอะไรอื่นที่พิเศษอีก ?
เทคโนโลยี DVD ถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์เพื่อที่จะกำหนดฟอร์แมตพื้นฐานสำหรับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และภาพยนตร์ เป็นผลให้แต่ละด้านของดิสก์สามารถบันทึกวิดีโอยาวกว่า 2 ชั่วโมง ด้วยคุณภาพของภาพในระดับที่เหนือกว่าเลเซอร์ดิสก์แบบอะนาล๊อกและ Digital Satellite TV และ DVD ยังสนับสนุนระบบเสียง Surround Sound ทำให้ได้ภาพและเสียงที่สมจริง ถึงแม้ว่าคุณสมบัติด้านออดิโอวิดีโอของ DVD จะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำมาใช้แทนวิดีโอเทปสำหรับการบันทึกภาพยนตร์ แต่คุณสมบัติเหล่านี้ก็เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คุณสมบัติด้านออดิโอและวิดีโอของ DVD จะทำให้ซอฟต์แวร์ด้านบันเทิงและการศึกษาในอนาคตมีกราฟิกที่น่าตื่นต่าตื่นใจ
9. MPEG-2 คืออะไร ?
การที่จะสามารถบันทึกวิดีโอความยาว 2 ชั่วโมงลงบนดิสก์ด้านเดียวได้ จะต้องมีการบีบอัดข้อมูล MPEG-2 เป็นมาตรฐานในการบีบอัดข้อมูลสำหรับวิดีโอและออดิโอ วิดีโอบน DVD ซึ่งผลิตสำหรับตลาดอเมริกาเหนือนั้น ใช้วิธีการบีบอัดข้อมูลวิดีโอแบบ MPEG-2 ในขณะที่ DVD สำหรับตลาดยุโรปใช้การบีบอัดข้อมูลทั้งวิดีโอและออดิโอแบบ MPEG-2
10. AC-3 คืออะไร ?
AC-3 เป็นมาตรฐานทางออดิโอสำหรับ DVD ซึ่งผลิตออกขายในอเมริกาเหนือ มาตรฐาน AC-3 พัฒนามาจากระบบ Dolby Digital ซึ่งเป็นฟอร์แมตหนึ่งของออดิโอ ซึ่งใช้ช่องเสียงเฉพาะสำหรับเสียงจากด้านต่าง ๆ 5 ด้านคือ ซ้าย, กลาง, ขวา, ซ้ายหลัง และขวาหลัง ร่วมกับซับวูเฟอร์ ในการสร้างเอฟเฟกต์แบบ Surround Sound ( การใช้ช่องเสียง 5 ช่องร่วมกับวูเฟอร์เป็นข้อกำหนดซึ่งใช้ชื่อเรียกว่า 5.1 ) เนื่องจาก DVD ของทางยุโรปใช้ฟอร์แมตออดิโอของ MPEG-2 ทำให้คุณไม่สามารถเล่นดิสก์ซึ่งซื้อที่ยุโรปกับเครื่องเล่นที่ซื้อในอเมริกาได้
11. ในการเล่น DVD-ROM สิ่งที่จำเป็นต้องใช้มีเพียงไดรว์ DVD-ROM เท่านั้นหรือ ?
ใช้ แต่คุณจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถพิเศษลงในเครื่องของคุณเพื่อใช้ประโยชน์จากวิดีโอ MPEG-2 และออดิโอ AC-3 นอกจากนี้ เนื่องจากข้อมูลบน DVD-Video มีการเข้ารหัสไว้ คุณจำเป็นจะต้องใช้ชิปพิเศษในการถอดรหัส ( บริษัทภาพยนตร์ใช้ในการเข้ารหัสข้อมูล เป็นเครื่องมือป้องกันการทำสำเนา ) ในปัจจุบันนี้ วิธีเดียวที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะสามารถจัดการกับการประมวลผลเหล่านี้ได้คือ ใช้ฮาร์ดแวร์พิเศษในรูปของการ์ดแอด-อิน ซึ่งสามารถถอดรหัสข้อมูลของวิดีโอ MPEG-2 และออดิโอ AC-3 เมื่ออ่านข้อมูลจากไดรว์ การ์ดเหล่านี้จะขยายข้อมูลและส่งผลลัพธ์ในรูปออดิโอไปยังการ์ดเสียงและวิดีโอไปยังจอภาพ โดยมากแล้ว การ์ดถอดรหัส DVD จะเป็นส่วนหนึ่งของชุดอัปเกรด DVD แต่คุณสามารถซื้อการ์ดและไดรว์แยกต่างหากกันได้ การ์ดถอดรหัสส่วนใหญ่สามารถสร้างเอาต์พุตในรูปอื่น ๆ นอกเหนือจากเอาต์พุต VGA ไม่ว่าจะเป็นในรูปของวิดีโอ Composite และ S-VHS หรือออดิโอ และส่งมาแสดงผลบนจอภาพของคุณ เอาต์พุตในรูปสเตอริโอมีการเข้ารหัสแบบ Dolby Prologic ซึ่งเป็นรูปแบบเริ่มแรกของ Surround Sound ถ้าคุณต้องการระบบเสียงในระดับโฮมเธียเตอร์ Surround Sound คุณจะต้องมีเครื่องรับที่สามารถถอดรหัส AC-3 และลำโพง 6 ตัว ตามข้อมกำหนดของ 5.1 โดยเครื่องรับออดิโอรุ่นใหม่จำนวนมากในขณะนี้สนับสนุน AC-3
12. จะต้องทำอะไรบ้างในการอัปเกรดระบบเดิมเป็น DVD ?
ผู้ผลิตอย่าง Creative Labs, Hi-Val และ Diamond Multimedia มีชุดอัปเกรด DVD ซึ่งประกอบด้วยไดรว์ DVD-ROM การ์ดถอดรหัสและซอฟต์แวร์ อย่างไรก็ตามราคาของชุดอัปเกรดเหล่านี้สูงกว่าชุดอัปเกรดสำหรับมัลติมีเดียทั่วไป โดยราคาเริ่มตั้งแต่ 379 เหรียญสหรัฐ สำหรับ PC-DVD Encode kit ของ Cerative Labs จนถึง 849 เหรียญสหรัฐ สำหรับ Hi-Val Pc-to-TV Home Entertainment System ซึ่งจะรวมเครื่องส่งไร้สายสำหรับการส่งภาพยนตร์ DVD จากคอมพิวเตอร์ไปแสดงผลบนโทรทัศน์ ระบบต่ำสุดในการใช้งานชุดอัปเกรดเหล่านี้คือ โปรเซสเซอร์เพนเทียม 133 Mhz, RAM 16 ขนาด MB และการ์ดกราฟฟิก PCI ซึ่งสนับสนุนการแสดงผลวิดีโอโดยใช้ซอฟต์แวร์ DirectX ของ Microsoft Intel และ IBM กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการถอดรหัสข้อมูล เพื่อขจัดปัญหาความต้องการในส่วนของฮาร์ดแวร์ทิ้งไป แต่ระบบที่ใช้ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียวในการแสดงผล DVD อาจจะยังห่างไกลความเป็นจริง เนื่องจากพบว่าแม้แต่เพนเทียม II 300Mhz ก็อาจจะไม่สามารถแสดงผลภาพยนตร์ DVD แบบเต็มจอได้ราบรื่นโดยไม่อาศัยฮาร์ดแวร์ และถึงแม้ว่าซีพียูของคุณจะสามารถรองรับได้ แต่จะมีทรัพยากรระบบเหลือเพียงน้อยนิดจนอาจไม่สามารถทำงานอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ ฮอลลีวูดยังค่อนข้างระมัดระวังในการมอบลิขสิทธิ์ของเทคโนโลยีในการถอดรหัสข้อมูลให้กับบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเกรงว่าซอฟต์แวร์ในการถอดรหัสอาจมีผลต่อระบบความปลอดภัยในการป้องกันการทำสำเนาภาพยนตร์ของตน
13. ในปัจจุบัน ซอฟต์แวร์ DVD มีจำนวนมากน้อยเพียงใด ?
เช่นเดียวกับเทคโนโลยีของฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ ทุกเทคโนโลยี เมื่อ DVD ประสบกับปัญหาที่หาทางออกได้ยาก จากการที่ผู้บริโภคจะไม่ยอมซื้อฮาร์ดแวร์ DVD จนกว่าจะมีซอฟต์แวร์จำนวนมาก ในขณะที่ผู้ผลิตเองก็ไม่ยอมสร้างซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ จนกว่าจะมีผู้ใช้งานฮาร์ดแวร์มากขึ้น ความสามารถของไดรว์ DVD ในการเล่นซีดีรอมและซีพีเพลงอาจทำให้ปัญหานี้ไม่รุนแรงเกินไป เช่นเดียวกับจำนวนของดิสก์ DVD ภาพยนตร์ที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็จะมีความต้องการในซอฟต์แวร์ DVD-ROM จำนวนมากก่อนที่จะอัปเกรด เมื่อถึงกลางปี 1997 ในอเมริกามีดิสก์ DVD ภาพยนตร์ประมาณ 65 เรื่อง และมีแผนการที่จะออกวางตลาดภายในสิ้นปีอีก 200 เรื่อง ในขณะที่ซอฟต์แวร์ DVD-ROM มีจำนวนไม่ถึง 40 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นซีดีรอมเดิมที่ต้องใช้ดิสก์หลายแผ่นในการเก็บ จึงมีการปรับปรุงโดยใช้ DVD-ROM เพียงแผ่นเดียวในการเก็บ ( เช่น รายนามโทรศัพท์ซึ่งสามารถเก็บลงในแผ่น DVD เพียงแผ่นเดียว ในขณะที่จะต้องใช้ซีดีรอม 6 ถึง 7 แผ่น ) สภาวะของซอฟต์แวร์ DVD มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในปีนี้ เมื่อผู้ผลิตรายใหญ่เริ่มออกวางจำหน่ายโปรแกรมใหม่ ๆ ในรูปแบบทั้งซีดีรอมและ DVD พบว่าประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ได้มีแผนที่จะสร้างโปรแกรมในรูป DVD และมีการทำนายว่าจะมีซอฟต์แวร์ในรูป DVD-ROM มากกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ ภายในสิ้นปี 1998
14. เมื่อไรที่ควรจะอัปเกรดระบบเป็น DVD ?
ถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่มีความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอยู่เสอม คุณจะพบว่าชุดอัปเกรด DVD รุ่นที่ 2 นั้นทำงานได้ดีและมีราคาอยู่ในระดับ 500 เหรียญสหรัฐ หรือต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องพึงระวังคือ เวอร์ชันแรก ๆ มักจะมีราคาสูงกว่าและทำงานได้ด้อยกว่าเวอร์ชันหลัง ตัวอย่างเช่น ไดรว์ DVD-ROM รุ่นแรกอ่านดิสก์ CD-R ไม่ได้ ในขณะที่ไดรว์รุ่นที่ 2 สามารถอ่านได้ที่ความเร็วสูงกว่า 2 เท่าและคอมแพททิเบิลกับ CD-R แต่ไม่สามารถอ่านดิสก์ DVD-RAM ซึ่งกำลังจะมีวางจำหน่ายในไม่ช้าได้ ถ้าคุณให้ความสนใจกับแอปพลิเคชันมากกว่าเทคโนโลยี คุณควรจะอัปเกรดก็ต่อเมื่อมีซอฟต์แวร์ DVD ที่คุณต้องการใช้งานแล้ว
15. ถ้าคุณกำลังจะซื้อเครื่องใหม่ ระบบควรจะมีคุณสมบัติด้าน DVD ด้วยหรือไม่ ?
วิธีที่ง่ายที่สุดในการที่จะได้ความสามารถทาง DVD คือ ซื้งเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ที่มีไดรว์ DVD เลย ในปลายปีนี้บริษัทคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะมีรุ่นที่มีไดรว์ DVD-ROM ออกวางขาย เนื่องจากจำนวน ซอฟต์แวร์ DVD ที่ยังมีไม่มากนัก ไดรว์ DVD อาจจะยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่คุณต้องการ อย่าจ่ายมากกว่า 300 เหรียญสหรัฐ สำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีไดรว์ DVD แทนไดรว์ซีดีรอม คุณสามารถที่จะอัปเกรดได้ในภายหลังเมื่อซอฟต์แวร์มีจำนวนมากขึ้นและไดรว์มีราคาถูกลง
16. เครื่องเล่น DVD คืออะไร ?
เครื่องเล่น DVD เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในการเล่นดิสก์ DVD-Video คุณสามารถต่อเครื่องเล่นเข้ากับโทรทัศน์เพื่อใช้ในการเล่นดิสก์ภาพยนตร์ได้เช่นเดียวกับการต่อเครื่องเล่นวิดีโอ ความแตกต่างอยู่ที่เครื่อง DVD ไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้ และถึงแม้ว่าคุณจะสามารถเล่นดิสก์ DVD-Video ด้วยไดรว์ DVD-ROM ได้ ( และสามารถชมภาพยนตร์บนจอคอมพิวเตอร์ ) แต่คุณจะไม่สามารถใช้เครื่องเล่น DVD ในการอ่านดิสก์ DVD-ROM ได้ บริษัทอย่าง Sony, Toshiba และ :hilips ได้เริ่มผลิตเครื่องเล่น DVD ออกวางขายในปัจจุบันแล้ว นอกเหนือจากการสนับสนุนวิดีโอบน MPEG-2 และออดิโอ AC-3 ฟอร์แมต DVD-Video ซึ่งใช้ในเครื่องเล่น DVD สนับสนุนคุณสมบัติเหล่านี้ ภาพยนตร์สามารถบันทึกในแบบจอกว้าง, Letterbox หรือ pan-and-scan ( ถูกตัดให้แสดงผลบนจอโทรทัศน์ได้ ) ดิสก์ DVD-Video บางแผ่นมีครบทั้ง 3 รูปแบบ เมนูและ Time search ทำให้คุณสามารถเลื่อนไปที่ส่วนต่าง ๆ ของภาพยนตร์ได้อย่างรวดเร็ว ความสามารถในการกระโดดจากส่วนหนึ่งของดิสก์ไปยังอีกส่วนหนึ่งในขณะที่เล่นทำให้คุณสามารถเก็บเวอร์ชันที่ต่างกันของภาพยนตร์เรื่องเดียวบนดิสก์แผ่นเดียวได้ อย่างเช่น คุณสามารถเล่นเวอร์ชันมาตรฐานสำหรับโรงภาพยนตร์ หรือเวอร์ชันสำหรับชมภายในบ้านได้ บนดิสก์ภาพยนตร์ที่มีหลาย ๆ รูปแบบ คุณสามารถเลือกมุมกล้องได้หลาย ๆ มุม ภาพยนตร์แต่ละเรื่องสามารถมีซาวด์แทร็กในภาษาต่าง ๆ ได้ถึง 4 ภาษาและมีซับไตเติลได้ 4 ซับไตเติล
17. DVD-RAM คืออะไร ?
DVD-ROM นั้นเช่นเดียวกับซีดีรอม คือสามารถใช้อ่านข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว แต่ไม่สามารถเขียนทับหรือแก้ไขได้ DVD-RAM เป็น DVD ที่คุณสามารถทั้งอ่านและเขียนข้อมูลได้ คุณสามารถเขียนข้อมูลลงใน DVD-RAM ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับการเขียนลงในฮาร์ดดิสก์ ไดรว์และดิสก์ DVD-RAM ความจุ 2.7 GB จะออกวางจำหน่ายในต้นปี 1998 ไดรว์คาดว่าจะมีราคาประมาณ 1,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ดิสก์เปล่าจะมีราคาอยู่ระหว่างแผ่นละ 30 ถึง 80 เหรียญสหรัฐ ไดรว์ DVD-RAM สามารถอ่านดิสก์ DVD และซีดีได้ แต่ไดรว์ DVD-ROM ในปัจจุบันยังอ่านดิสก์ DVD-RAM ไม่ได้ ในปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนสำหรับ DVD-RAM บริษัทอย่าง Sony, Philips และ Hewlett-Packard ได้ประกาศมาตรฐาน DVD-RAM ที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากถึงด้านละ 3 GB ในขณะที่ NEC ประกาศมาตรฐานสำหรับดิสก์ขนาด 5.2 GB การที่มาตรฐานยังมีความไม่แน่นอน อาจจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง DVD-RAM จึงจะเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
18. DVD-Audio คืออะไร ?
บริษัทผู้ทำธุรกิจทางเสียงเพลงกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาดิสก์ DVD-Audio เพื่อนำมาใช้แทนซีดี รายละเอียดของดิสก์ยังไม่มีการกำหนดที่แน่นอนจนกว่าจะถึงภายในสิ้นปีนี้ แต่มีแนวโน้มว่าจะมีคุณสมบัติพิเศษอย่างคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น ระยะเวลาในการเล่นที่ยาวนานขึ้น และระบบ Surround Sound หลายช่องทาง ( ถึงแม้ว่าอาจจะไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีเดียวกับ DVD ภาพยนตร์ ) ดิสก์เหล่านี้จะสามารถเก็บรูปภาพและข้อความได้เช่นเดียวกับเสียงเพลง
19. DVD-Audio จะทำให้เครื่องเล่นซีดีในปัจจุบันล้าสมัยหรือไม่ ?
ไม่ DVD-Audio ใหม่จะรวมเอาข้อมูลในรูปแบบของซีดีเข้าไว้ด้วย ดังนั้นไม่ใช่เพียงแต่คุณสามารถเล่นซีดีด้วยเครื่องเล่นแบบใหม่ได้เท่านั้น แต่คุณยังสามารถเล่นดิสก์ DVD-Audio ด้วยเครื่องเล่นซีดีแบบเก่าได้
20. DVD จะใช้งานร่วมกับโทรทัศน์ได้หรือไม่ ?
ในช่วงเวลาที่ DVD จะเริ่มวางตลาดในฟอร์แมตสำหรับโฮมวิดีโอในปลายปี
1998 หรือต้นปี 1999 นี้ก็จะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ฟอร์แมตใหม่ล่าสุดของโทรทัศน์ดิจิตอลที่เรียกว่า
HDTV จะออกวางตลาดเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่า DVD จะไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับ HDTV
โดยเฉพาะ แต่ทั้งสองฟอร์แมตก็มีคุณสมบัติในหลาย ๆ ด้านที่เหมือนกัน และสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
ทั้งสองเป็นฟอร์แมตแบบวิดีโอดิจิตอลที่สนับสนุนการแสดงผลที่ดีขึ้น HDTV จะมีหน้าจอกว้างกว่าโทรทัศน์ทั่วไป
และเมื่อวางจำหน่ายในปลายปีหน้า DVD จะเป็นฟอร์แมตเดียวที่สนับสนุนการแสดงผลในแบบจอกว้าง
ด้วยการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เครื่องเล่น DVD จะสามารถแสดงผลในแบบวิดีโอดิจิตอลไปยังเครื่องรับที่ความละเอียด
704x480 จุด ซึ่งเป็นฟอร์แมตดิจิตอลแบบหนึ่งที่ HDTV สนับสนุน ทำให้การเล่นกลับให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าการเล่น
DVD บนโทรทัศน์ทั่วไป คุณอาจจะต้องใช้เครื่องเล่น DVD ใหม่หรือคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต
Firewire เนื่องจากเครื่องเล่น DVD ในปัจจุบันไม่มีการแสดงผลในแบบวิดีโอดิจิตอล
DVD ในปัจจุบันไม่สนับสนุนการสร้างโปรแกรมในโหมดใหม่ของโทรทัศน์ที่มีความละเอียด
1,280x720 จุด และ 1,920x1,080 จุด ซึ่งจำเป็นต้องมีอัตราการเคลื่อนย้ายข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น
และดิสก์ที่มีความจุมากขึ้น ( โหมด 1,920x1,080 จุด ต้องการข้อมูลมากกว่า
DVD ในปัจจุบันถึง 6 เท่า ) แต่สิ่งเหล่านี้มีโอกาสที่เป็นไปได้สำหรับเครื่องเล่น
DVD รุ่นใหม่ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาจจะไม่มีผลกระทบต่อแผนการในปัจจุบันของคุณมากนัก
การถ่ายทอดสัญญาณในระบบ HDTV อาจจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปี และเครื่องเล่น HDTV
ก็จะยังคงมีราคาสูงไปอีกระยะหนึ่ง ระบบ HDTV และ DVD ความละเอียดสูงอาจต้องใช้ระยะเวลาอย่างต่ำ
5 ปี จึงจะเป็นที่ยอมรับโดยทั่ไป