ออดิโอ ( เสียง ) บนอินเตอร์เน็ต
ในปัจจุบันนี้เสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงทั่ว ๆ ไป เสียงพูด หรือเสียงเพลงก็ตาม นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์เน็ตไปแล้ว คุณสามารถฟังวิทยุจากสถานี ฟังการสัมภาษณ์ ฟังเพลง ฟังซาวด์คลิป และอื่น ๆ อีกมาก โดยผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ การทดลองเกี่ยวกับการใช้เสียงบนอินเตอร์เน็ตที่น่าสนใจมากอันหนึ่งก็คือ Internet Talk Radio ซึ่งเลียนแบบมาจากการออกอากาศของสถานีวิทยุ National Public Radio โดยจะมีรายการต่าง ๆ อย่างเช่น รายการพิเศษ การสัมภาษณ์ และรายงานหลากหลายรูปแบบ สำหรับรายการที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดใน Internet Talk Radio ก็คือ Geek of the Week ซึ่งจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตในแต่ละสัปดาห์

ขณะที่ Internet Talk Radio เป็นที่นิยมกันมาก แต่มันก็ถูกปิดกั้นด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยี เพราะก่อนที่คุณจะฟังรายการนี้ได้ คุณจะต้องทำการดาวน์โหลดไฟล์เสียงนั้นมายังคอมพิวเตอร์ของคุณก่อน และต้องดาวน์โหลดมาจนหมดแล้วถึงจะสามารถรับฟังมันได้ด้วยซอฟต์แวร์พิเศษพร้อมด้วยซาวด์การ์ด ปัญหาของมันก็คือไฟล์มักจะมีขนาดใหญ่มากเกินไป ส่วนมากจะมีขนาดใหญ่กว่า 10 เมกะไบต์ ดังนั้นคุณต้องใช้เวลานับหลายชั่วโมงทีเดียวในการโอนย้ายไฟล์มายังคอมพิวเตอร์ของคุณ กว่าที่คุณจะฟังมันได้

คุณจะพบกับไฟล์เสียงอยู่หลายชนิดบนอินเตอร์เน็ต เช่นที่ใช้ส่วนขยายว่า .WAV หรือ .AV แต่ทุกชนิดจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ มันจะถูกแปลงให้อยู่ในรูปสัญญาณดิจิตอลก่อน ดังนั้นเราจึงสามารถเล่นมันได้ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งในการเล่นไฟล์เสียงเหล่านี้ คุณจะต้องดาวน์โหลดมาทั้งหมดก่อน แล้วใช้โปรแกรมสำหรับเล่นไฟล์เสียงแบบนั้น ๆ ( player ) มาเปิดไฟล์และเล่นให้เป็นเสียง borwser หลายตัวเช่น Netscape มีโปรแกรมสำหรับเล่นไฟล์เสียงเหล่านั้นได้ในตัวเลย แต่ถ้าเป็นไฟล์เสียงแบบอื่นที่ต่างออกไปก็ต้องไปหา player ของไฟล์แบบนั้น ๆ มาใช้

ไฟล์เสียงส่วนใหญ่มักจะมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่าจะถูกบีบอัดแล้วก็ตาม คุณจะไม่สามารถฟังมันได้จนกว่าทั้งไฟล์จะได้ถูกดาวน์โหลดมาครบหมดแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาในการโหลดนานพอสมควร คุณอาจจะใช้เวลาถึง 15 นาทีในการดาวน์โหลดไฟล์ซึ่งบรรจุเสียงที่มีความยาวน้อยกว่าหนึ่งนาทีเท่านั้น

วิธีการเล่นออดิโอบนอินเตอร์เน็ตที่ใหม่กว่าและดีกว่า เรียกว่า สตรีมมิงออดิโอ ( streaming audio ) ซึ่งจะจัดการระบบเสียงด้วยวิธีที่ฉลาดกว่ามาก ด้วยสตริมมิงออดิโอนี้คุณจะไม่ต้องรอจนกระทั่งดาวน์โหลดมาหมดทั้งไฟล์ถึงจะฟังได้ แต่ทว่าคุณสามารถฟังเสียงในขณะที่มันกำลังดาวน์โหลดมาที่คอมพิวเตอร์ของคุณได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องมีโปรแกรมและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมด้วย เราจะไปดูเทคโนโลยีสตรีมมิงออดิโอที่นิยมกันมากที่สุดนั่นคือ Real Audio

Streaming Audio ของ RealAudio ทำงานอย่างไร ?

มีวิธีการที่แตกต่างกันหลายแบบในการที่จะเล่นสตรีมมิงออดิโอ ( ไฟล์เสียงที่เล่นได้แบบทันทีทันใด ) ในขณะที่มันกำลังถูกดาวน์โหลดมายังคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่วิธีที่นิยมกันมากที่สุดก็คือเล่นด้วยโปรแกรม RealAudio ซึ่งคุณจะต้องมีซอฟต์แวร์ตัวเล่น ( player ) ของ RealAudio บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ตัว World Wide Web browser บางตัวจะมี player ของ RealAudio ฝังอยู่ภายในด้วยแล้ว แต่ถ้ายังไม่มีคุณก็สามารถดาวน์โหลดตัวเล่นนี้ แล้วติดตั้งให้ใช้กับ browser ของคุณได้

1. เมื่อคุณใช้ Web browser แล้วคลิกที่ลิงค์ซึ่งเชื่อมต่อไปยังซาวด์คลิปของ RealAudio บนเว็บเพจนั้น ลิงค์ดังกล่าวจะไม่ได้นำไปยังไฟล์เสียงโดยตรง แต่ว่า Web browser ของคุณจะติดต่อกับ Web server ซึ่งจะส่งไฟล์ที่เรียกว่า RealAudio metafile กลับมาให้ browser ของคุณ โดยที่ เมตาไฟล์ นี้จะเป็นเท็กซ์ไฟล์ขนาดเล็กที่เก็บตำแหน่ง URL จริง ๆ ของไฟล์เสียงแบบ RealAudio ที่คุณต้องการไว้ภายใน และยังเก็บคำสั่งที่จะบอก browser ของคุณให้เรียกตัวเล่นเสียง RealAudio มารันเพื่อเล่นซาวด์คลิปนี้

2. เมตาไฟล์จะเรียกตัวเล่นเสียง RealAudio ออกมา ซึ่งมักจะทำการติดต่อกับ URL ที่เก็บอยู่ในเมตาไฟล์นั้น URL นั้นจะไม่ได้อยู่บน Web server แต่จะอยู่ที่ RealAudio server แทน ซึ่งเซิร์ฟเวอร์นี้จะมีหน้าที่ส่งซาร์ดคลิปของ RealAudio ตัวจริงมาให้โดยเฉพาะ

3. RealAudio server และตัวเล่นเสียง RealAudio จะ " คุย " และทำความตกลงกัน ดังนั้นเซิร์ฟเวอร์จะรู้ว่าผู้ใช้ติดต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วเท่าไหร่ ถ้าเป็นการเชื่อมต่อแบบความเร็วต่ำ ก็จะส่งไฟล์ RealAudio ขนาดเล็กมาให้ ซึ่งจะมีคุณภาพเสียงต่ำกว่าปกติ แต่ถ้าเป็นการเชื่อมต่อแบบความเร็วสูง ก็จะส่งไฟล์ขนาดใหญ่กว่าซึ่งจะมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่ามาให้

4. ไฟล์เสียงของ RealAudio ได้ถูกบีบอัดและเข้ารหัสไว้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีขนาดใหญ่เกินไปและจะใช้เวลาในการส่งเพื่อนำมาเล่นนานเกินไป ด้วยไฟล์เสียงจะถูกส่งมาในรูปแพ็กเก็ต IP โดยใช้ UDP ( User Datagram protocol ) แทนที่จะเป็น TCP ( Transmission Control Protocol ) ตามปกติ ซึ่ง UDP จะไม่ส่งแพ็กเก็ตซ้ำถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นกับแพ็กเก็ตนั้นอย่างที่ TCP ทำ การที่เลือกทำเช่นนี้ก็เพราะว่าถ้ายอมให้แพ็กเก็ตถูกส่งใหม่อยู่เรื่อย ๆ ตัวเล่นเสียงที่ปลายด้านรับก็จะถูกขัดจังหวะด้วยแพ็กเก็ตที่ส่งมาใหม่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้มันเล่นไฟล์เสียงหรือออดิโอคลิปอย่างต่อเนื่องไม่ได้

5. แพ็กเก็ตจะถูกส่งไปยังบัฟเฟอร์ของคอมพิวเตอร์ตัวรับ เมื่อเต็มบัฟเฟอร์แล้วจึงจะถูกส่งต่อไปยังตัวเล่น RealAudio ซึ่งจะทำการเล่นเสียงจากไฟล์นั้นออกมา RealAudio จะยอมให้คุณสั่งกระโดดไปเล่นข้างหน้าหรือย้อนหลังก็ได้ ซึ่งเมื่อคุณสั่งให้เลื่อนไปมานั้น ตัวเล่น RealAudio ก็จะทำการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์และบอกให้มันเริ่มส่งไฟล์จาก ณ จุดนั้นของซาวด์คลิปมาให้แทนที่จะเป็นจุดเดิม

3 มีนาคม 2541




[ home ] [ menu ] [ Internet ]