การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ
มีวิธีการมากมายที่คอมพิวเตอร์ของคุณสามารถจะเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตได้ ตั้งแต่การเชื่อมต่อแบบ dial-in คือหมุนโทรศัพท์เข้าไปในแต่ละครั้งที่จะใช้งาน ต่อผ่าน LAN หรือแม้แต่ต่อเชื่อมด้วยสายไฟเบอร์ออปติคของเคเบิลทีวี ถ้าคุณมีการเชื่อมต่อกับ LAN หรือเน็ตเวิร์กของมหาวิทยาลัย ที่ทำงาน หรือโรงเรียนของคุณอยู่แล้วละก็ คุณก็อาจจะสามารถเชื่อมกับอินเตอร์เน็ตอยู่แล้วก็ได้ และถ้าเน็ตเวิร์กที่คุณใช้อยู่ถูกเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยผ่านทาง router หรือ bridge นั่นก็หมายความว่าคอมพิวเตอร์ของคุณก็เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอยู่แล้วเหมือนกัน โดยทั่วไปการต่อแบบนี้จะได้ความเร็วสูงกว่าที่คุณจะหมุนโทรศัพท์ติดต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยตรงมาก แต่ถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตผ่านเน็ตเวิร์กในแบบดังกล่าว ก็ยังมีทางให้เลือกอยู่หลายวิธีในการที่จะเชื่อมต่อเข้าอินเตอร์เน็ต และก็ยังมีวิธีใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวิธีที่ใช้กับโมเด็มและระบบโทรศัพท์ทั่ว ๆ ไป

ทางเลือกหนึ่งก็คือการไปเป็นลูกค้าของ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ( Internet Service Provider หรือ ISP ) ซึ่งทำให้คุณสามารถหมุนโทรศัพท์เข้าไปหาเครื่องคอมพิวเตอร์ของ ISP ที่ต่อตรงกับอินเตอร์เน็ต ( โฮสต์คอมพิวเตอร์ หรือบางทีก็เรียกว่า อินเตอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ ) ด้วยซอฟต์แวร์จำลองเทอร์มินัล ( terminal emulation ) เมื่อคุณทำอย่างนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก็ทำตัวเสมือนกับเป็นจอภาพหรือ dumb terminal ของโฮสต์คอมพิวเตอร์นั้น ซอฟต์แวร์ทั้งหลายที่ทำให้คุณได้เข้าไปใช้บริการของอินเตอร์เน็ตนั้นก็จะไม่ได้รันบนคอมพิวเตอร์ของคุณจริง ๆ แต่จะรันอยู่บนโฮสต์คอมพิวเตอร์ที่คุณเชื่อมต่ออยู่ด้วยแทน และจอภาพของคุณก็เพียงแต่แสดงว่าอะไรเกิดขึ้นที่โฮสต์คอมพิวเตอร์ที่คุณหมุนโทรศัพท์เข้าไปเท่านั้น ถ้าคุณเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยวิธีนี้ บริการต่าง ๆ ของอินเตอร์เน็ตที่ใช้ได้จะถูกจำกัดไปอย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น คุณจะไม่สามารถมองเห็นรูปภาพใด ๆ ได้เลย ในการเรียกดูข้อมูลจากบริการแบบที่นิยมกันมากที่สุดในอินเตอร์เน็ต นั่นก็คือ World Wide Web

ถ้าคุณต้องการจะเข้าไปใช้พลังความสามารถของอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านสายโทรศัพท์ละก็ คุณจะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบด้วย อย่างเช่นคุณต้องจัดการเชื่อมต่อด้วยซอฟต์แวร์จัดการโปรโตคอลแบบ SLIP ( Serial Line Internet Protocol ) หรือ PPP ( Point-to-Point protocol ) เมื่อคุณหมุนเข้าไปยังอินเตอร์เน็ตโดยใช้โปรโตคอลเหล่านี้ คอมพิวเตอร์ของคุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์เน็ตจริง ๆ ในขณะนั้น และคุณจะใช้พลังในการทำงานทั้งหมดจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเอง คุณจะสามารถเรียกดูข้อมูลจาก World Wide Web ในแบบกราฟิกและมัลติมีเดียได้ โปรโตคอล PPP นั้นใหม่กว่าและน่าเชื่อถือกว่า SLIP และสามารถส่งแพ็กเก็ตข้อมูลซ้ำใหม่ได้ถ้าข้อมูลที่ส่งไปก่อนนั้นไม่ถูกต้องซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นปกติในการส่งข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์

ถ้าคุณจะมองหาการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูงกว่านี้ผ่านสายโทรศัพท์ คุณมีทางเลือกอยู่สองทาง ทางหนึ่งก็คือการใช้บริการแบบ ISDN ( Integrated Services Digital Network ) ซึ่งเป็นการใช้สายโทรศัทพ์ดิจิตอลแบบพิเศษที่ทำให้คุณโทรเข้าไปยังอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วที่สูงมาก ๆ ได้ แต่คุณจะต้องใช้โมเด็ม ISDN พิเศษ และต้องเลือกผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่สามารถให้บริการเชื่อมต่อผ่าน ISDN ได้ด้วย ( ซึ่งในประเทศไทยปัจจุบันก็มี ISP บางรายเริ่มทดลองเปิดให้บริการผ่าน ISDN กันบ้างแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา )

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ เคเบิลโมเด็ม ซึ่งจะทำให้คุณใช้สายโแอ็กเชียล ( coaxial ) และไฟเบอร์ออปติค ( fiber optic ) ของเคเบิลทีวีในการเชื่อมต่อเข้าไปยังอินเตอร์เน็ตได้ คุณจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมคือเคเบิลโมเด็ม ( cable modem ) และบริษัทเคเบิลทีวีก็จะต้องมีความสามารถนี้ด้วยในการที่จะทำให้คุณต่อไปยังอินเตอร์เน็ตโดยผ่านสายของเคเบิลทีวีได้ ซึ่งความเร็วที่ได้อาจจะสูงกว่าโมเด็มธรรมดาถึง 100 เท่าทีเดียว

การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังอินเตอร์เน็ต

มีวิธีการหลายอย่างให้เลือกในการเชื่อมต่อไปยังอินเตอร์เน็ต มีตั้งแต่ผ่านระบบ LAN การต่อแบบหมุนโทรศัพท์เข้าไป หรือ dial-in ไปจนถึงการใช้เคเบิลโมเด็มและสาย ISDN ความเร็วสูง ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตจะให้บริการเชื่อมต่อแบบ SLIP และ PPP แก่คุณ และปัจจุบันนี้ผู้ให้บริการออนไลน์รายใหญ่ ๆ ทั้งหมดต่างก็จัดให้มีการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของบริการมาตรฐานไปแล้ว

1. Dumb Terminal คือเทอร์มินัลซึ่งต่อเชื่อมไปยังเครื่องเมนเฟรมหรือมินิคอมพิวเตอร์ หรือโฮสต์คอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ การเชื่อมต่อแบบนี้มักพบได้ในห้องสมุดหรือมหาวิทยาลัย

2. การจำลองเทอร์มินัล ( Terminal emulation ) เป็นการใช้งานแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสามารถต่อเชื่อมไปยังโฮสต์คอมพิวเตอร์โดยผ่านทางโมเด็ม และรันโปรแกรมจำลองเทอร์มินัล ซึ่งเทอร์มินัลที่นิยมกันมากที่สุดในการจำลองก็คือรุ่น VT-100 ของบริษัท Digital ในการณีนี้คอมพิวเตอร์ของคุณจะทำงานทุกอย่างเหมือนกับเป็นจอเทอร์มินัลของโฮสต์คอมพิวเตอร์ ต่างกันแต่ว่าเป็นการต่อโดยผ่านสายโทรศัพท์ แทนที่จะเป็นการเชื่อมต่อโดยตรงเท่านั้น ถ้าใช้วิธีนี้คุณจะไม่สามารถเข้าถึงส่วนที่เป็นกราฟิกของอินเตอร์เน็ตอย่าง World Wide Web ได้ และจะสามารถเรียกดูได้เฉพาะส่วนที่เป็นข้อความเท่านั้น ชื่อของการใช้อินเตอร์เน็ตแบบนี้บางครั้งก็เรียกว่า shell account หมายถึงมีชื่อในบัญชีผู้ใช้อยู่ในลักษณะที่เรียกใช้ shell ( ของ UNIX ) บนเครื่องที่เป็นโฮสต์ได้เท่านั้น คือได้แค่ login แล้วใช้งานเหมือนจอเทอร์มินัลเท่านั้น

3. การเชื่อมต่อโดยตรง ( direct connection ) ระบบ LAN หรือคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่บางเครื่องใน LAN อย่างเช่นเมนเฟรมอาจมีการต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้โดยตรง ถ้าเป็นเช่นนั้นคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบน LAN วงนั้นก็จะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบได้ด้วย

4. การเชื่อมต่อแบบ SLIP ( Serial Line Internet Protocol ) เป็นการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบอีกวิธีหนึ่งที่รับส่งแพ็กเก็ตผ่านสายโทรศัพท์ที่มีความเร็ว 9,600 bps หรือสูงกว่านั้น

5. PPP ( Point-to-Point protocol ) จะเหมือนกับ SLIP คือเป็นการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบผ่านสายโทรศัพท์โดยใช้โมเด็ม แต่มีความเชื่อถือได้มากกว่า SLIP เพราะในการทำงานจะมีการตรวจสอบว่าแพ็กเก็ตที่ได้รับสมบูรณ์หรือเปล่า ถ้าไม่สมบูรณ์ก็ให้ส่งมาใหม่

6. ระบบ ISDN ซึ่งเป็นระบบโทรศัพท์แบบดิจิตอล สามารถใช้โดยหมุนโทรศัพท์เข้ามาเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ที่ความเร็วสูงมาก ๆ ตั้งแต่ 64 kbps ขึ้นไปจนถึง 128 kbps และจะต้องใช้โมเด็ม ISDN แบบพิเศษด้วย ระบบ ISDN จะมีค่าบริการสูงกว่าการใช้สายโทรศัทพ์ธรรมดา แต่ก็เร็วกว่ามาก

7. เคเบิลโมเด็ม ( cable modem ) ปัจจุบันเราสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทีวีบางแบบได้ด้วย โดยการใช้สายโคแอ็กเชียลและไฟเบอร์ออปติคที่ส่งผ่านสัญญาณโทรทัศน์ไปตามบ้านแต่ละหลังที่เป็นสมาชิกนั่นเอง โดยจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า เคเบิลโมเด็ม ซึ่งจะสามารถรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วมากกว่าโมเด็มปกติระหว่าง 20 ถึง 100 เท่าทีเดียว แต่ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีนั้นต้องยอมให้ผู้ใช้บริการต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตด้วย

8. "เครื่องใช้" อินเตอร์เน็ต ( Internet appliance) บางคนเชื่อว่าอุปกรณ์จำพวก "เครื่องใช้" อินเตอร์เน็ตจะเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางในการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตตามบ้านสำหรับผู้ใช้ทั่ว ๆ ไป อุปกรณ์ที่ว่านี้อาจจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เล็ก ๆ ที่มีแต่โมเด็มและมอนิเตอร์เท่านั้น โดยจะไม่รวมฮาร์ดดิสก์หรือซีดีรอมไดรว์เข้าไปด้วย และอาจจะไม่มีพลังในการประมวลผลสูงเท่าไรนัก เพราะในการทำงานจะรันโปรแกรมจากอินเตอร์เน็ตมากกว่าที่จะรันจากตัว "เครื่องใช้" เอง และข้อมูลก็ควรที่จะเก็บอยู่ในอินเตอร์เน็ตแทนที่จะเป็นใน "เครื่องใช้" อินเตอร์เน็ตนี้ ซึ่งกล่าวโดยสรุปแล้วก็อาจมีลักษณะคล้ายกับแนวคิดของ Network Computer หรือ NC นั่นเอง

9. ผ่านบริการออนไลน์ ( Online services ) ผู้ให้บริการออนไลน์รายใหญ่ ๆ ทุกรายล้วนแต่ได้มีการเปิดให้บริการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบให้คุณแล้วโดยไม่ต้องมีการติดตั้งอะไรพิเศษ เมื่อคุณหมุนโทรศัพท์ติดต่อเข้าไปยังผู้ให้บริการออนไลน์ คุณก็จะสามารถข้ามไปใช้บริการต่าง ๆ ของอินเตอร์เน็ตได้ รวมทั้งการเรียกดูข้อมูลจาก World Wide Web ด้วย

18 กุมภาพันธ์ 2541




[ home ] [ menu ] [ Internet ]