โฮมเพจเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว



 

สารบัญ


เศรษฐกิจในรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


สภาพเศรษฐกิจทั่วไป

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศตะวันตก และยังได้เสด็จประพาสประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งในยุโรป อเมริกาและเอเชีย ได้ทอดพระเนตรความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่าง ๆ ซึ่งเป็นแรงบันดาลพระทัยให้ทรงมีพระราชประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุดหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศ ดังปรากฏในพระราชหัตถเลขาที่ทรงขึ้นเมื่อคราวประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีข้อความตอนหนึ่งว่า

“ ฉันยังหวังว่าจะมีชีวิตอยู่นานพอที่จะได้เห็นประเทศสยามได้เข้าร่วมในหมู่ชาติต่าง ๆ โดยได้รับเกียรติและความเสมอภาคอย่างจริง ๆ ตามความหมายของคำนั้นทุกประการ…”

ตลอดช่วง 15 ปีแห่งรัชสมัย (พ.ศ2453-2468) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงจัดการให้มีการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามปรับปรุงด้านการป้องกันประเทศให้เข้มแข็งขึ้นด้วย เนื่องจากมหาอำนาจตะวันตกยังคงแผ่อิทธิพลคุกคามความเป็นเอกราชของชาติไทยอยู่ การที่ต้องใช้จ่ายทั้งเพื่อพัฒนาประเทศและเพื่อความมั่นคงของชาติเป็นจำนวนมากไปพร้อม ๆ กันเช่นนี้ ทำให้เป็นภาระหนักต่อรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระบบการจัดเก็บภาษีอากรเพื่อเป็นรายได้หลักของรัฐบาล ถูกจำกัดด้วยสนธิสัญญาเสียเปรียบที่ประเทศไทยจำเป็นต้องทำไว้กับนานาประเทศเพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

นอกจากปัญหาการขาดแคลนเงินงบประมาณแล้ว ยังมีเหตุการณ์อื่นอีกที่มีส่วนเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนา อาทิ การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (พ.ศ.2458-2461) และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดตามมาอย่างกว้างขวางทั้งในช่วงขณะเกิดสงครามและหลังสงคราม นอกจาก นั้นยังได้เกิดภาวะภัยแล้งรุนแรง ทำให้ผลผลิตข้าวซึ่งเป็นสินค้าออกสำคัญที่สุดในขณะนั้นเสียหายมากจนเกิดความขาดแคลนข้าวภายในประเทศถึงกับต้องห้ามการส่งออกข้าวระยะหนึ่งในปี 2462 เป็นเหตุให้ประเทศไทยต้องขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับแต่เปิดการค้าเสรีกับชาติตะวันตกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้แม้จะใหญ่หลวงเพียงใด ก็ไม่อาจขัดขวางกระบวนการพัฒนาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า ซึ่งยังคงดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอและต่อ เนื่องตลอดรัชสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการเสริมสร้างปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนา (Infrastructure) อันได้แก่ ระบบคมนาคมขนส่ง การชลประทาน ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่าง ๆ ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วยการขยายการศึกษาทั้งด้านสามัญศึกษาและอาชีวศึกษาออกไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นยังมีการดำเนินการเพื่อพัฒนาการผลิตด้านการเกษตรอันเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจ โดยขณะเดียวกันก็ได้มีการเตรียมวางพื้นฐานเพื่อให้คนไทยได้เข้ามีส่วนมากขึ้นในกิจกรรมเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคต่อมาด้วย อันได้แก่ การค้า อุตสาหกรรม และการธนาคาร เป็นต้น

แม้ว่าหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในปีพ.ศ.2468 การดำเนินการเพื่อการพัฒนาส่วนใหญ่ที่ทรงริเริ่มไว้ต้องหยุดชะงักลงด้วยอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก (The Great Depression) ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2473 ถึง 2482 และเพิ่งจะมีการริเริ่มขึ้นใหม่อย่างจริงจังอีกครั้งเมื่อมีการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับแรกในปี พ.ศ.2504 แต่ถึงกระนั้นการดำเนินการที่ได้ปูพื้นฐานไว้ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นแนวทางให้การพัฒนาในช่วงปัจจุบันเป็นไปได้สะดวกยิ่งขึ้น อาทิ ในด้านการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ระบบการศึกษา และระบบการชลประทาน

    หน้า 2