Mars Exploration

การสำรวจดาวอังคารของมนุษยชาติเป็นโครงการอันยิ่งใหญ่ซึ่งยืนยันความเป็นไปได้ในการย้ายถิ่นฐานจากโลก ไปสู่ภายในจักรวาล แม้ว่าจะเป็นเพียงก้าวเล็กๆบนจักรวาลแต่มันมีความหมายสำหรับมนุษย์

ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นและมีสิ่งที่น่าผจญภัยและน่าค้นหา ซึ่งรอคอยนักสำรวจอยู่ พวกเรามีการเตรียมตัวก่อนที่จะไป มีการจัดหาเครื่องมือซึ่งนักสำรวจจะใช้, คาดหวังตำแหน่งที่เป็นไปได้ที่นักสำรวจจะพบและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิด ภารกิจแรกในการสำรวจคือหน้าที่ของลูกเรือสามรถแก้ปัญหาฉุกเฉิน ระยะทางจากดาวอังคารถึงโลกมากกว่า 40 นาทีในการส่งข้อความจากโลกจนถึงเวลาที่คำตอบได้รับกลับมาบนโลก

Exploration Program Objective

1.Science

ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่น่าสนใจ มันสามารถบอกเล่าพวกเราเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดและประวัติศาสตร์ของดาวเคราะห์และสิ่งมีชีวิต สิ่งที่เห็นได้ในอดีตและสีที่ค่อนข้างแดงอย่างแจ่มชัดในท้องฟ้าตอนกลางคืน ดาวอังคารจึงเป็นเป้าหมายที่ดึงดูดความสนใจสำหรับนิยายวิทยาศาสตร์ ขณะที่ความสามรถในการสำรวจอวกาศได้เติบโตขึ้นในปี 1960 มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าดาวอังคารไม่ได้มีความคล้ายคลึงโลกซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต และในปัจจุบันมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลภาวะมากขึ้น ภาพของ Mariner 4 แสดงพื้นผิวที่คล้ายคลึงดวงจันทร์ซึ่งเต็มไปด้วยหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากการกระแทกของอุกาบาต เราเชื่อว่าพื้นผิวเหล่านี้แทนเปลือกโลกในอดีตซึ่งก่อตัวในยุคแรกเริ่ม Mariner 9 แสดงถึงระยะเริ่มของดาวอังคารไม่เหมือนดวงจันทร์โดยสิ้นเชิง แต่แสดงลักษณะหลังจากการเกิดภูเขาไฟและรูปแบบการก่อสร้าง ภูเขาไฟขนาดใหญ่ในปัจจุบันและการแยกออกของผิวนอกขนาดใหญ่เกิดจากอิทธิพลของความตึงที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานของอิทธิพลภายใน

ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีความกดดันบนพื้นผิวประมาณ .01 ของบรรยากาศของโลก และอุณหภมิบนพื้นผิวสูงถึง 25 ํC บนเส้นศุนย์สูตรในกลางฤดูร้อน, แตะโดยปกติจะเย็นกว่านี้ ที่ความกดดันและอุณหภูมิเหล่านี้ น้ำไม่สามารถคงอยู่ในรูปของเหลวบนพื้นผิวได้ อย่างไรก็ตาม Mariner 9 และภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของ Viking ที่เฝ้าสังเกตุรูปแบบซึ่งบ่งชี้ถึงน้ำของเหลวที่ถูกแสดงบนพื้นผิวของดาวอังคารในอดีตที่ผ่านมา หลักฐานของการไหลและการหยุดนิ่งของน้ำได้ถูกบันทึกไว้ ซึ่งเป็นการอธิบายถึงบรรยากาศของดาวอังคารที่หนาแน่นและอบอุ่นขึ้นกว่าแต่ก่อน และอาจจะคล้ายกับบรรยากาศของโลกสมัยแรก ก่อนที่จะมีออกซิเจนปรากฏขึ้น ทำให้เกิดคำถามขึ้น 3 ข้อคือ (a) อะไรคือเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงลักษณะของบรรยากาศในดาวอังคาร (b) อะไรคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมของโลกและ (c) อะไรคือความเป็นไปได้ที่เกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นในประวัติศาสตร์แรกเริ่มที่คล้ายคลึงกับโลกของดาวอังคาร

คำถามทั้งสามนี้เป็นหลักของการสำรวจทางวิทยาศาสตร์บนดาวอังคาร นิยามโดย Reference Mission สามารถกล่าวถึงหลักทั้งหมดโดยความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะทางธรณีวิทยาของดาวเคราะห์ ชนิดของหินในปัจจุบัน และความสัมพันธ์ของอายุ การกระจายของพื้นผิวน้ำ ประวิติศาสตร์ของภูเขาไฟ การกระจายของส่วนประกอบและการรวมกันของการก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิต และอื่นๆ คุณสมบัติที่มีทั้งหมดเหล่านี้เป็นความเข้าใจในสภาพแวดล้อมของสิ่งที่พวกเรารู้เกี่ยวกับโลกดวงจันทร์และส่วนอื่นๆ ในระบบสุริยจักรวาล

2.Human Expansion

ความฝันเกี่ยวกับการสำรวจดาวอังคารตรงกับความเชื่อที่ว่าโลกใหม่สร้างขึ้นในโอกาสที่ดีในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ การอพยพของมนุษย์ถูกกระตุ้นโดยความหนาแน่นของประชากร ,การลดลงของทรัพยากร ,การแข่งขันที่สูงขึ้นในปัจจุบัน และความวิตกกังวลต่างๆของมนุษย์ ทำให้มนุษย์สร้างที่อยู่ใหม่ มีประชากรไม่มากนักที่เสี่ยงพอที่จะยอมรับอาณาจักรใหม่ การตั้งถิ่นฐานส่วนใหญ่เป็นความต้องการทางเศรษฐกิจและการขยายเผ่าพันธ์ของมนุษย์ เทคโนโลยีในศตวรรษที่ 20 ที่มีการสื่อสารและการขนส่งที่รวดเร็วได้เปลี่ยนแนวโน้มความแตกต่างของมนุษย์ อย่างไรก็ตามการย้ายถิ่นฐานบนโลกได้ขยายสิ่งแวดล้อมทั้งในด้านการกระทำและการดำรงชีพของมนุษย์

การตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารในปัจจุบันก่อให้เกิดปัญหาใหม่และท้าทาย คือ ชีวิตไม่ได้ดำรงอยู่ตามแบบธรรมชาติ ค่าขนส่งในปัจจุบันเป็นอุปสรรคสำคัญในการขยายตัว ครั้งหนึ่งบนดาวอังคารมีข้อความจริงว่ามนุษย์ไม่สามารถที่จะกลับมายังโลกได้ง่ายนัก และส่วนหนึ่งก็เป็นเพียงแค่การระบุเวลา 26 เดือนโดยประมาณเท่านั้น ทำให้เป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะต้องพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพและความแข็งแรงที่สูงขึ้นอย่างมากที่อาศัยจากหลุมภูเขาไฟ ,สภาพแวดล้อมที่แตกต่างเป็นสิ่งที่พอจะปรับปรุงได้ ค่าใช้จ่ายที่สูงมากที่ใช้ในการขนย้ายจะลดน้อยลงในท้ายที่สุด Reference Mission ไม่ได้เป็นโปรแกรมที่จะยึดดาวอังคาร อย่างไรก็ตามวัตถุประสงสค์ของการสำรวจดาวอังคารคือ ความเป็นไปได้ที่จะก่อตั้งและพัฒนาเพื่อให้มนุษย์ตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร

3.International Cooperation

ในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันทางสังคมและเทคโนโลยีระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ซึ่งคือสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา แรกเริ่มโดย International Geophysical Year ของโซเวียตและส่งดาวเมียมโคจรรอบโลก ซึ่งเป็นการท้าทายสหรัฐอเมริกาประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงสุด การเริ่มต้านของอพอลโลเป็นการตัดสินใจทางการเมืองมากกว่าความเข้าใจทางเทคโนโลยีอันชาญฉลาด เมื่อมีการแข่งขันเกิดขึ้นในที่สุดสหรัฐอเมริกาก็ประสบความสำเร็จสูงกว่า และในสองสามปีต่อมาสหภาพโซเวียตก็ได้ยุบลง

แต่รัสเซียก็ยังพัฒนาความสามารถที่ได้มาตรฐานกับสหรัฐอเมริกา และในระหว่างยุคอพอลโล ในยุโรปก็มีการเติบโตทางอวกาศซึ่งมี European Space Agency ในประเทศญี่ปุ่น จีน และประเทศอื่นๆ

ปัจจุบันการสำรวจดาวอังคารเป็นโครงการอันยิ่งใหญ่ของนานาชาติ

มันเป็นการแสดงความยิ่งใหญ๋ที่ไม่ได้ประโยชน์ใดๆสำหรับประเทศอื่นๆ ในการดำเนินการสำรวจมนุษย์บนดาวอังคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ไม่มีขีดความสามารถทางด้สนเงินทุนเพียงพอที่จะรองรับเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้สำรวจได้ ดาวอังคารน่าจะเป็นสถานที่ทุกๆคนในโลกอยู่ร่วมกัน ภายใต้การรับเอา Reference Mission นั้นเป็นสิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งทำโดยกลุ่มบริษัทที่มีกิจการไปทั่วโลกกับนักบินอวกาศ