ภาระหน้าที่ของ Viking ที่เดินทางไปสำรวจดาวอังคารประกอบด้วยยานอวกาศ 2 ลำ Viking 1 & Viking 2 แต่ละยานอวกาศประกอบด้วย
ส่วนที่ใช้โคจรและส่วนที่ลงจอดภาระกิจเบื้องต้นมีดังนี้
Viking 1 ถูกปล่อยออกไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 1997 และเดินทางถึงดาวอังคารเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 1976 เดือนแรกของการ
โคจรจะทุ่มเทให้กับการจำลองพื้นผิวเพื่อหาที่ตั้งเหมาะสมในการลงจอด วันที่ 20 กรกฎาคม 1976 ส่วนที่ลงจอดของ Viking 1 แยกตัวออก
มาจากส่วนโคจรและลงจอดที่ Chryse Planitia Viking 2 ถูก
ปล่อยวันที่ 9 กันยายน 1975 และเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารเมื่อวันที่
7 สิงหาคม 1976 ส่วนที่ลงจอดของ Viking 2 ได้ลงจอดที่ Utopia Planitia เมื่อวันที่ 3 กันยายน 1976 ส่วนที่โคจรได้จำลองพื้นที่ผิว
น้ำทั้งหมดของ
ดาวอังคารที่ระดับความสูง 150-300 ม. ส่วนโคจรของ Viking 2 พลังงานถูกใช้หมดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
1978 หลังจาก
ที่โคจรอยู่ถึง 706 รอบ และส่วนโคจรของ Viking 1 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1980 หลังจากที่โคจร
อยู่มากกว่า 1,400 รอบ
ส่วนที่ลงจอดของ Viking จะส่งภาพจำลองของพื้นผิว , เก็บตัวอย่างพื้นดิน และวิเคราะห์ไว้สำหรับข้อเขียนและ
สัญลักษณ์ของสิ่งมีชีวิต,
ศึกษาข้อเขียนเกี่ยวกับบรรยากาศและอุตุนิยมวิทยาและยังขยายไปถึงเกี่ยวกับ
แผ่นดินไหว ส่วนที่ลงจอดของ Viking 2 จบการติดต่อเมื่อวันที่
11 เมษายน 1980 และส่วนที่ลงจอดของ Viking 1 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 1982 หลังจากมีการส่งผ่านภาพจำลองมากกว่า 1,400 ของ
สองที่ตั้ง
ผลสรุปจากการทดลองได้ทัศนียภาพที่สมบูรณ์ที่สุดของดาวอังคาร ภูเขาไฟ ลาวาเรียบ หุบเขาลึกใหญ่โต พื้นที่ปากปล่องภูเขาไฟ, ลักษณะ
เด่นรูปแบบของลม และร่องรอยของพื้นผิวน้ำถูกเห็นชัดในภาพจำลองของส่วนที่โคจรดาวเคราะห์ที่ปรากฎจะหารลงตัวกับ 2 เขตหลัก, ทาง
เหนือจะราบเรียบ และทางใต้จะมีดปากปล่องภูเขาไฟที่สูงขึ้นมา , และ Valles Marineris, ระบบของหุบเขาลึกอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร วัตถุพื้น
ผิวที่เป็นที่ตั้งของการลงจอดมีลักษณะเฉพาะที่สุดเหมือนกับดินเหนียวที่มีธาตุเหล็กอยู่มาก ปริมาณอุณหภูมิที่เป็นทึ่ตั้งของการลงจอดอยู่ในระยะ
จาก 150-250 องศาเคลวิล ตามฤดูกาลพายุฝุ่น , ความดันที่เปลี่ยนแปลง , และการลำเลียง gases ของชั้นบรรยากาศระหว่างขั้วโลกได้ถูกเฝ้า
ดูตลอด การทดลองชีววิทยาไม่พบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่สถานที่ตั้งในการลงจอด
ภาพจำลอง Viking
Viking Mission to Mars
ภาระกิจของ Viking คือ ส่งยานอวกาศฝาแฝดไปยังดาวเคราะห์แดง ภาพจำลองนี้แสดงรูปแบบของหนึ่งยานอวกาศของยาน Viking ,
ซึ่งถูกทำเป็น 2 ส่วน : ส่วนที่โคจรและส่วนที่ลงจอด งานชิ้นแรกของส่วนที่โคจร คือ สำรวจดาวเคราะห์ว่าเหมาะสมสำหรับเป็นที่ตั้งในการลงจอด
หรือไม่ หลังจากนั้นอุปกรณ์รับส่วนที่โคจรจะศึกษาดาวเคราะห์และชั้นบรรยากาศของมัน ขณะที่ส่วนที่โคจรกำลังทำงานจะเหมือนกับสถานีถ่ายทอด
วิทยุสำหรับการส่งข้อมูลไปยังส่วนที่ลงจอด ครั้งหนึ่งบนพื้นผิวของดาวอังคาร ส่วนที่ลงจอดสำรวจพื้นดิน ลม และบรรยากาศและจัดการการ
ทดลองจำนวนมากเผื่อที่ตัดสินใจถึงการมีจริงของสิ่งมีชีวิตที่ผ่านมาหรือปัจจุบัน
Parachute Deployment
ส่วนที่ลงจอดของ Viking จะปล่อยร่มชูชีพหลังจากเริ่มเข้ามาในบรรยากาศของดาวอังคาร เมื่อร่มชูชีพขยายแนวออก , จุดส่วนที่ลงจอด
อยู่ที่ อัลติจูดประมาณ 6 km. (4.0 miles) และเดินทางด้วยความเร็ว 900 km/h. (600 mph) หลังจากนั้นช้าลงกว่าครึ่งของแผ่นป้องกัน
ความร้อนจะตกห่างออกไป และขาของส่วนที่ลงจอดจะกางออก ที่อัตติจูลประมาณ 1.5 km (5,000 fect) จุดที่แยกจากร่มชูชีพและใช้ three
retro-engines เพื่อบังคับการลงของมันซึ่งจะลงจอดอย่างปลอดภัยบนพื้นผิวของดาวอังคาร
Viking Touchdown
ในรูปเป็นภาพขณะที่ส่วนที่ลงจอดของ Viking กำลังจะลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคาร ร่มชูชีพและส่วนบน aeroshell สามารถมองเห็นได้
จากมุมซ้ายบนของภาพ ที่แท่นของการลง , ภายในของส่วนที่ลงจอดระบบแรงขับจะค่อย ๆ ช้าลงเครื่องจะต่ำลง ดังนั้น ความเร็วของการลง
จอดจะประมาณ 2 meters persecond ( 7 mph.) หลังจากนั้นส่วนที่ลงจอดถึงพื้นผิวแล้วจะเริ่มต้นส่งภาพกลับไปยังส่วนที่โคจรสำหรับถ่าย
ทอดไปทั่วโลก
Viking on the Surface of Mars
รูปนี้แสดงรูปแบบของส่วนที่ลงจอดของ Viking บนพื้นผิวดาวอังคาร อันดับแรก คือ การมาถึงของ 2 ส่วนที่ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคาร
คือ วันที่ 20 กรกฎาคม 1976 อันดับสองการลงจอดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 1976 แต่ละส่วนที่ลงจอดมีอุปกรณ์ภายในซึ่งใช้ตรวจสอบทาง
กายภาพและคุณสมบัติแม่เหล็กของผิวดินและวิเคราะห์บรรยากาศและรูปแบบของดาวอังคาร