Honey Blade Another side of love(07.01.99)
*Warning* เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ควรไตร่ตรองอย่างหนักก่อนอ่านบทความนี้ & ห้ามอ่านเกินวันละ 2 รอบ & โปรดอ่านคำเตือนก่อนเริ่มอ่านทุกครั้ง
ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่เคยมีความรัก บทสรุปความรักของคุณจะออกมาในรูปแบบไหน
1. สมหวัง
2. ผิดหวัง และถ้าผิดหวัง มันเป็นในลักษณะใด
2.1 เขาไม่รักคุณ
2.2 เขาไปมีคนอื่น
2.3 เขาเป็นประเทือง
2.4 เขาอื่นๆ อีกมากมาย
วันนี้ KAKU Brothers ภูมิใจเสนอ อีกรูปแบบหนึ่งของความรักที่ไม่สมหวัง 'Honey Blade' -Another side of love นำแสดงโดย ชายหนุ่มและหญิงสาวผู้มีความรักต่อกัน แต่อุปสรรคคือ ความเป็นพี่น้อง (Oh My Buddha! ช่างน่าเศร้าอะไรเช่นนี้)
คิดว่าพวกคุณคงรู้ว่า ความหมายของเพลง Honey Blade คืออะไร.. มันก็คือ( Kin: ไหนๆ ก็จะบอกอยู่แล้ว จะถามไปทำไมฟะ ; Gin: Shut up! พิมพ์ไป ไม่ต้องยุ่งกะตู) ความรักที่สังคมไม่ยอมรับ ยอมรับไม่ได้ ไม่อยากยอมรับ อะไรประมาณนี้แหละ ไม่ใช่ความรักระหว่างชายหนุ่มกับประเทือง หรือ หญิงสาวกับประเทือง หรือแม้แต่ประเทืองกับประเทือง (Kin: วันนี้มันเป็นอะไรฟะ สำนวนทะแม่งๆ) แต่เป็นความรักระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือด บุคคลร่วมสายเลือด และอื่นๆ ร่วมสายเลือด(Kin: ฮึ้ยย์ ไอ้บ้าเลือด) เป็นความรักที่ผิดรูปแบบ ผิดกรอบของสังคม(เพราะเพลงนี้กระมังทำให้มีอยู่ช่วงหนึ่งมีข่าวออกมาว่า คุณเธอรักอยู่กับน้องสาวของตัวเอง แต่เท่าที่รู้คุณเธอมีแต่น้องชายนี่นา) แต่ถ้าถามว่าผิดไหมที่มีความรักแบบนี้ คำตอบคือไม่ เพราะความรักไม้ใช่ความผิด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน สิ่งที่เป็นความผิดคือ การกระทำที่ติดตามมาหลังจากคำว่ารัหต่างหาก เช่น พอคุณรักเขาแต่เขาไม่รัก แล้วคุณฆ่าเขา นั่นแหละผิด
ถ้าลองมองย้อนกลับไปสมัยโบราณตอนที่อียิปต์กำลังรุ่งโรจน์ การแต่งงานระหว่าพี่น้องเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อโลกเริ่มเจริญขึ้น สังคมเจริญขึ้นก็เริ่มตีกรอบว่าสิ่งใดควรหรือมิควร หรืออาจเพราะเรียนรู้ว่า การแต่งงานในสายเลือดเดียวกันจะทำให้สายพันธุ์แย่ลง ทำให้เรื่องการแต่งงาน มีความรักร่วมสายเลือดเป็นสิ่งต้องห้ามจนมาถึงทุกวันนี้
แต่ถึงกระนั้นเราก็ห้ามความรักแบบนี้ไม่ให้เกิดไม่ได้ เมื่อมันเกิดขึ้นมาจะทำอย่างไร ปล่อยให้มันดำเนินไปเรื่องๆ จนมีความสัมพันธ์กัน ก็คงเป็นความผิดในสายตาของสังคม ดังนั้นจะหาทางออกอย่างไรดี (Kin: โม้มาซะยืดยาวกว่าจะเข้าประเด็น ; Gin: แหม จะพูดอะไรเราต้องหาหลักการมายึดหน่อยดิ ถึงน่าเชื่อถือ)
มีทางออกหลายทางให้คุณคิด คุณเลือก แต่รับรองว่ามันเจ็บทั้งนั้น (ไปนึกเอาเองว่ามีอะไรบ้าง) แต่ถ้าไม่อยากเจ็บปวดก็ทำอย่างที่มันแนะนำไว้ในเพลงก็แล้วกันคือ โป้งเดียวจอด แล้วเจอกันใหม่ในชาติหน้า (E-well นี่ แนะนำแต่ละอย่างนี่ดีๆ ทั้งน้าน)
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่อะไรหรอก อยากให้เห็นว่าบทสรุปของมันไม่ได้สวยหรูเลย โดยเฉพาะเนื้อเพลงท่อนเกือบสุดท้าย Tsumetai gunhitai ni aete Hiki gane o ... ima ... แล้วก็ตามด้วยเสียง ปัง!
เหตุผลจริงๆ ที่เขียนมายืดยาวขนาดนี้ก็เพื่อจะบอกว่า มันไม่ใช่คนปกติ ก็มีใคร้างล่ะที่เอาเรื่องแบบนี้มาเขียนเป็นเพลง แถมยังแนะนำทางออกไว้ให้ด้วย อยากขอบใจด้วยกำปั้นสักที สองที (Kin: เนี่ยนะเหตุผลทั้งหมดที่เขียนหัวข้อนี้.. ; Gin: ก็แหม จะบอกว่ามันบ้าโดยไม่มีตัวอย่างประกอบก็ไม่หนุกอะดิ ใช่มะคุณผู้อ่าน)

Sold your attitude


Ja, Zoo the Album(07.01.99)
ช้าไปหน่อยสำหรับหัวข้อนี้ ( Kin: ก็เอ็งอู้นี่นา ; Gin: ไม่ได้อู้ แค่ขี้เกียจเขียนเอง) ก็คงต้องบอกกันอีกทีว่า เราไม่ใช่นักวิจารณ์ที่ดีนัก เนื่องจากค่อนข้างมีจิตใจลำเอียงไปทางมันอยู่มาก ดังนั้นการวิจารณ์ของเราจึงอยู่บนพื้นฐานความเป็นแฟนเพลงของมัน
มีบางคนบอกว่า ถ้าไม่ต้องการ
Monster card แล้วก็ไม่คุ้มค่ากับการรอคอย(ตอนที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก) อะไรทำทำนองนี้ จะพูดยังไงดี มันก็จริงอย่างที่เขาว่าอะนะ แต่นั่นคือการมองจากนักวิจารณ์ทั่วๆ ไป แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปกว่านั้นนิดนึงหรือเปลี่ยนทีมองใหม่ มายืนที่จิตใจของแฟนๆ ผู้สูญเสียแล้วมองออกไป แล้วก็จะพบคำตอบว่า มันคุ้มค่ากับการรอคอย ไม่ว่า จะมีเพลงใหม่เพียง 4 เพลง หรือเพลงจากซิงเกิ้ลไม่มีการทำใหม่เลย หรืออะไรอีกหลายๆ อย่าง เพราะจุดหลักของมันไม่ได้อยู่ที่มีเพลงใหม่กี่เพลง แต่มันอยู่ที่คำว่า มี ต่างหาก จริงมั้ยครับมิตรรักแฟนเพลง (ของมัน) ทุกท่าน (Kin: รีบหาเสียงสนับสนุนเชียวนะ) เอาเป็นว่า อัลบัมนี้มีคุณค่าทางด้านจิตใจต่อแฟนเพลงของมันก็แล้วกัน เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ก่อนที่ท่านประธานจะเคาะระฆังหมดเวลา

Spread Beaver ค่อนข้างตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยที่จะเรียกเพลงนี้ว่าเป็น Instrumental เพราะดั้นมีเสียงของพี่ทั่นร้องคลออยู่ตลอดว่า Spread Beaver แต่จริงๆ แล้วมันก็คือ Instrumental นั่นแล เหมือนกับใน Hide Your Face จะมี Psychomunity กับใน Psyence มี Psyence เป็นเพลงเปิดอัลบัม และเป็น Theme song ในคอนเสิร์ตของพี่แก
ก็ยอมรับมาตั้งนานแล้วนะว่าพวก Spread Beaver มีฝีมือ (ไม่งั้นจะทำงานกะพี่แกได้เหรอ) แต่ก็เพิ่งมาประจักษ์เอาเพลงนี้เองว่า ฝีมือจริงๆ I.N.A. สมเป็นมือขวา arrangeเพลงที่ทำใหม่ไม่ได้รู้สึกผิดไปจากเพลงอื่นๆ ของมันเลย คนอื่นคงไม่ต้องชมแล้ว

Rocket Dive เชื่อไหมว่าตอนแรกไม่ชอบเพลงนี้เลย (Kin: ไม่เชื่อ เพราะเค้าชอบเพลงนี้ตั้งแต่แรกเลย) เหตุผลก็คือ ได้ฟังเพลงนี้จะจะ ก็ตอนที่รู้ข่าวของมัน เกลียดคำว่า Sail away ที่สุด (แต่เฉยๆ กับคำว่า Adios) มันเหมือนจี้โดนใจดำน่ะ
แต่พอมาได้ฟังในอัลบัมอีกครั้ง กลับรู้สึกว่าชอบเพลงนี้มาก ทั้งๆ ที่ก็เหมือนกับในซิงเกิ้ล ที่เปลี่ยนไปคือความรู้สึกของตัวคนฟังเองแหละเนอะ ไม่วิจารณ์ละกันเพลงนี้ (Kin: วิจารณ์เองก็ด้าย สั้นๆ ก็คือ เป็นเพลงแรกแกได้ออกไปนอกโลก หลังจากที่ใส่ Pasword ถูกต้องในเพลง Spread Beaver ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยได้ลองแล้วแต่โดนหลอกใน Atomic M.O.M.

Leather Face หรือก็คือ Inside the Pervert Mound ใน version ของ Zilch นั้นเอง น่าสนใจเหมือนกันว่าพี่แกทำเพลงไหนก่อนกัน เราคิดว่าทำ Leather Face ก่อน เพราะเพลงนี้ฟังแล้วมันเหมือนเป็น Original น่ะ (Kin: ขี้ตู่นี่ว่า ; Gin: เรื่องของข้า) ส่วนใน Inside the Pervert Mound เหมือนกับ 'ถูกดัดแปลง' แล้ว ถามว่าชอบเพลงไหนมากกว่ากัน บอกไม่ได้ เพราะมีเมโลดี้เดียวกัน ต่างกันที่จังหวะและเนื้อเพลงที่เพลงนี้เป็นภาษาญี่ปุ่น และออกจะให้ความรู้สึกไปในทางอวกาศมากว่า อ่านแล้วเข้าใจไหมเนี่ย

Pink Spider ไม่มีอะไรจะเขียน (Kin: เฮ่ย! เล่นงี้เลยเรอะ ;Gin:เออ..ไม่ใช่ไม่คิด แต่คิดไว้เยอะจนเรียบเรียงไม่ถูกโว้ย)

Doubt'97 (Mixed Lemoned Jelly Mix) เพลงนี้จะบอกว่าเป็นแนว Techno Rock Industrail ได้ไหมเนี่ย (Kin: ที่เขียนนั่นเรียกว่าแนวมั่วแล้ว บัญญัติเองนี่หว่า ;Gin: แล้วจะให้เรียกว่าอะไรเล่า ;Kin: ...) ก็หาคำจำกัดแนวเพลงของอีตาเนี่ยไม่ได้อีกแล้ว เอาเป็นว่าแนวคุณเธอนั่นแหละ อีกแล้วครับท่าน ชอบPurcussion และการ Mix เสียงของเพลงนี้ เหมือนมั่วแต่ไม่มั่ว เล่นได้สะใจจริงๆ งานนี้ต้องยกความดีให้... (คิดเอาเองครับท่าน)

Fish Scratch Fever Americanจ๋า ไม่มีกลิ่นของญี่ปุ่นเลยเพลงนี้ มีเพียงเนื้อเพลงเท่านั้นที่เป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นเพลงที่เหมาะกับการเล่นคอนเสิร์ตเสียจริงๆ ลองนั่งหลับตานึกเวลาเล่นเพลงนี้ในคอนเสิร์ตตอนที่มันอยู่สิ แกคงจะใส่เสื้อหนัง หมวกคาวบอย ถือคันเบ็ด แล้วก็เดินท่ากวนๆ ออกมาออกมาร้อง พอถึงเพลงท่อน Go fish boy... แกก็เวี้ยงเบ็ดออกไป นึกแค่นี้ก็มันแล้ว

Evere Free ถ้าจะหาเพลงที่พอจะเหมือนกับผลงานชุดก่อนๆ ของมันล่ะก็ เพลงนี้ให้ความรู้สึกอย่างนั้นมากที่สุด ชอบเสียง Tambourine ของเพลงนี้จริงๆ

Breeding นี่ก็อีกหนึ่งที่สำเนียงออกเป็น Americanจ๋า เสียงร้องของเพลงนี้เค้นออกมาแบบสุดๆ ให้อารมณ์ดีมาก ดีมาทั้งเพลงมาเสียตอนเสียงเปียนโน ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่ว่ามันเศร้าน่ะ เลยว่ามันไม่ดี

Hurry Go Round เพลงนี้เขียนไปแล้ว

Pink Cloud Assembly จำตอนจบของ Pink Spider ได้ไหม จะมีคำว่า To be continue... อยู่ นี่แหละ ภาคต่อของ Pink Spider เพิ่งจะรู้ว่า D.I.E. เล่นเปียนโนได้เศร้าขนาดนี้ พอพูดถึงเปียนโนแล้วก็นึกถึงเสี่ย (โยชิกิ) ขึ้นมาตะหงิดๆ เสียงเปียนโนที่เสี่ยเล่นออกมาจะเศร้า แต่เป็นเศร้าแบบเหงา ปล่าวเปลี่ยว เดียวดาย ถูกทอดทิ้ง โหยหาความรัก อะไรประมาณนี้ แต่ว่าเสียงเปียนโนของ D.I.E. ในเพลงนี้ เสียงออกมามันเศร้าแบบโศก แบบสูญเสียคนที่รัก ฟังแล้วสามารถเรียกน้ำตาได้ง่ายๆ แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีเสียงของท่านน้อง Hiroshi ของมันมาเพิ่มบรรยากาศอีก โอ้... ไม่อยากพูด
แล้วก็มาเรื่องความหมายเนื้อเพลงของเพลงนี้ อย่าคิดมาก ความหมายที่แท้จริงมีมัน เท่านั้นที่รู้ แต่สำหรับเราแล้วคิดว่าเพลงนี้ก็เหมือนกับเพลง Honey Blade นั่นแหละ เพราะถ้ามันเป็นแบบเพลงล่ะก็ มันก็คงไปตั้งแต่ Honey Blade แล้ว
เพลงนี้เป็นเพลงปิดของอัลบัม ก็กวนๆ แบบอัลบัมที่ผ่านๆ มานั่นแหละ คราวนี้เป็นแบบเสียงหายไป 4-5 นาทีแล้วก็มีเสียง สัก 2-3 ครั้ง แต่ขอโทษหลอกเราไม่ได้หรอก เพราะก่อนฟังเราได้ส่องดูแผ่นก่อนเรียบร้อยแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สรุปโดยรวมแล้ว อัมบัมนี้ให้ความรู้สึกถึง Space Age ก็คือ เหมือนอยู่ในอวกาศยังไงอย่างงั้น ฟังแล้วให้ความรู้สึกกระชับ ถึงแม้ว่าจะมีเพลงช้าอยู่ด้วยแต่ก็ยังรู้สึกถึง คงเป็นเพราะแกใส่ Brief ตอนอัดเพลงล่ะมั้ง (Wa ha ha ha)
ทั้ง 3 อัลบัมของพี่แกนี่ทำออกมาให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันเลย ถ้าจะเปรียบไปก็คงเหมือนกับ
1st Album 'Hide Your Face' = Dark side of the Moon
2nd Album 'Psyence' = Bright side of the Moon
3st Album 'Ja, Zoo' = Mars
คือ เธอขี่จรวดไปดาวอังคารแล้วนั่นเอง

Sold your attitude

                                                                                                   

l Hi-Ho l What's up Mr. Jones l Space monkey punk from Japan l Inside the pervert mound l
l Doubt l Sold some attitude l Tell me l A story l Love replica l Cafe le psyence l
l Ever free l Psychommunity exit l Sign my guestbook l View my guest book l