นสพ. ข่าวสด
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2543
ข่าวหน้า 1
เพื่อนรุมชี้
คลั่ง 'ฮิเดะ'
มิใช่ปมแท้
นร.โดดตึก
เพื่อนนักเรียน (อ่านต่อหน้า 12)
กลุ่มคลั่ง 'ฮิเดะ' มั่นใจ ความคลั่งไคล้มือกีตาร์ญี่ปุ่นไมใช่
ปมนักเรียนสาวม.4 สุรศักดิ์มนตรีฆ่าตัวตายแน่ อธิบดี
กรมสุขภาพจิตรุดหารือเครียด 'กัญจนา' เร่งไขปริศนา
โดดแฟลต อะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง เชื่อไม่เกี่ยวกับเรื่อง
คลั่งไคล้ศิลปินยุ่น 'ฮิเดะ' เนื่องจากมือกีตาร์เอ็กซืเจแปน
ปลิดชีพตัวเองไปนานถึง 2 ปีแล้ว แต่เป็นอารมณ์ผิดหวัง
ชั่ววูบ สอบพบเบื้องต้น เด็กแต่งตัวเตรียมไปเรียนอยู่แล้ว
แต่คุยโทรศัพท์ก่อนแล้วเกิดหวีดร้อง วิ้งขึ้นไประเบียงชั้น
8 เหินร่างลงมากระแทกพื้นร่างแหลกเหลว เป็นอาการผิด
หวังชั่วขณะ ไม่ใช่โรคคลั่งดารา จี้ให้ได้โทรศัพท์ลึกลับ
เป็นสายของใคร อาจารย์กับพ่อแม่ยัน ผู้ตายเป็นคนเงียบ
ไม่ค่อยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง เวลามีปัญหาจะตัดบทว่า
'ไม่เป็นไร ช่างเถอะ' ด้านสองดีเจ.ดัง 'สาลินี ปันยาร
ชุน- โจ มณฑาณี' ซึ่งชื่นชอบศิลปินญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ก็สลด
ชะตากรรมนักเรียนสาว แต่คาดว่าเป็นปัญหาความอบ-
อุ่นมากกว่าเป็นเรื่องคลั่งฮิเดะ
จากการณีเด็กม.4 โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
น.ส.วชิราพร แก้วศรีนนท์ อายุ 16 ปี บ้านเดิมอยู่อ.วัง
ม่วง จ.สระบุรี ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดชั้น 8 แฟลต
การเคหะดินแดง อาคาร 1 เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
โดยสาเหตุการฆ่าตัวตายยังไม่แน่ชัด แต่สอบพบว่าเด็กมี
ปัญหาเรื่องไปเรียนสายประจำจนถูกอาจารย์ตักเตือน ซึ่ง
เหตุที่ไปเรียนสายก็เพราะเป็นคนอาบน้ำนานมาก ขณะ
เดียวกันก็พบน.ส.วชิราพรคลั่งไคล้ศิลปินญี่ปุ่นวงเอ็กซ์
เจแปน โดยเฉพาะมือกีตาร์ "ฮิเดะ" ซึ่งฆ่าตัวตายไปแล้ว
เมื่อ 2 ปีก่อน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิ
การ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รมช.ศึกษาธิการ ได้เชิญ
น.พ.วินัย วิริยกิจจา อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสา-
ธารณสุข พร้อมด้วย น.พ. ประเวช ตันติพัฒนสกุล ผอ.
สูนย์สุขภาพจิตวิทยา กรมสุขภาพจิต ร่วมกันหารือถึงแนวทาง
ในการป้องกันเด็กและเยาวชนฆ่าตัสตาย โดยใช้เวลาใน
การหารือประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น น.ส.กัญจนากล่าวว่า การที่เชิญอธิบดีกรมสุข
ภาพจิตทาหารือครั้งนี้ เพื่อป้องกันและหาสาเหตุที่แท้จริง
โดยจะจัดให้มีโครงการความร่วมมือขึ้นระหว่างกระ
ทรวงศึกษาธิการกับกรมสุขภาพจิต โดยจะครูแนะแนว
โรงเรียนต่างๆ ของกรมสามัญศึกษาทั่วประเทศได้รับการ
อบรมโดยบุคคลากรของกรมสุขภาพจิต ในการดูแลปัญหาที่
เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน เมื่อครูเห็นเด็กนักเรียนของตน
ค่อนข้างเงียบ เรียบร้อย ซึ่งเขาอาจจะมีปัญหาเป็นโรงซึม
เศร้า หารครูไม่ได้รับการอบรมอาจจะมองไม่เห็น แต่เมื่อ
ได้รับการอบรมแล้วก็จะรู้ว่าควรพิจารณาและสามารถแก้
ไขปัญหาอย่างไร และครูแนะแนวเหล่านี้ก็จะไปถ่ายทอด
กับครูประจำชั้นในการดูหรือสังเกตพฤติกรรมของเด็กใน
ห้องเรียนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะจัดให้มีการอบรมเร็วๆ นี้
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะให้ครูใน
สถานศึกษามีการพิจารณาหลักสูตรเชิงสาธารณประโยขน์
ในการที่จะให้เด็กได้เห็นสภาพที่แท้จริง และคิดถึงผู้อื่น
มากกว่าตัวเอง การที่เด็กคิดค่าตัวตายเกิดจากการคิดถึง
ปัญหาของตนเองมาก หากเรามีรูปแบบให้เด็กได้ทำกิจ
กรรมเห็นเด็กที่ด้อยโอกาสกว่าตนเองก็อาจจะทำให้เขาคิด
อะไรที่ห่างจากตัวเอง และได้รู้ว่าคนอื่นมีปัญหาชีวิตมาก
กว่าตนเองเสียอีก สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะมอบให้เป็นนโยบาย
การจัดการศึกษาของเด็กระดับมัธยมศึกษาต่อไป เพราะ
เด็กเหล่านี้อยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ อาจจะทำ
อะไรโดยที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจออกไป
นอกจากนี้ ในส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าการตายของเด็กที่เกิด
จากปัญหานักร้อง เพราะเสียชีวิตไปนานแล้วและตนได้
มอบหมายให้อาจารย์เอ็นดู ส่องแสง จากศูนย์พิทักษ์และ
ช่วยเหลือเด็กทางการป้องกันของกระทรวงศึกษาธิการติด
ตามเรื่องนี้ด้วย
ด้านน.พ.วินัยกล่าวว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายของันก-
เรียนหญิงชั้นม.4 ร.ร.สุรศักดิ์มนตรี ยังไม่ทราบสาเหตุ
อย่างแท้จริง แต่คาดว่าปัญหาการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นมี 2
สาเหตุ คือ โรคซึมเศร้า มีอารมณ์หุนหันหรืออารมณ์ที่
เปราะบางของตัวเด็กเอง ถ้าเด็กคนนั้นไม่มีอารมณ?ที่มั่น-
คงก็จะหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย สำหรับลักษณะของ
โรคซึมเศร้านี้เกิดจากปัญหาทางสังคม อารมณ์ครอบครัว
ของตัวเด็กเอง เช่น เก็บตัวเงียบ ไม่พูดกับใคร ซึ่งบุคคลที่
ใกล้ชิด เช่น ครู ญาติพี่น้องหากสังเกตุก็จะเห็นชัดว่าเด็ก
จะผิดปกติไป
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ส่วนอารมณ์ที่หุน
หันเปราะบางนั้น เกิดจากกระบวนการเลี้ยงดูบุตรไม่ถูก
ต้อง เช่น พ่อแม่ผู้ปกครองต้องการให้บุตรของตัวเองทำ
ในสิ่งที่ตาเองต้องการ หรือเรียนให้ได้คะแนนดีแต่คะแนน
ตก จึงหาทางออกโดยการฆ่าตัวตาย ขณะนี้กำลังให้ศูนย์
สุขภาพจิตวิทยาเข้าไปหาข้อมูล หากได้ผลสรุปก็จะราย
งานให้กระทรวงศึกษาธิการทราบต่อไป เพื่อจะได้ป้องกัน
และแก้ไข ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายมุ่งไปว่าฆ่าตัวตาย
เพราะคลั่งไคล้นักร้องญี่ปุ่นที่ชื่อฮิเดะนั้น ตนคิดว่าไม่น่า
จะใช่หรือมีผลและมีอิทธิพลที่ทำให้ฆ่าตัวตาย เพราะได้
เสียชีวิตมาถึง 2 ปี รวมทั้งได้ผ่านวันเกิดไปไม่นาน
น.พ.วินัยกล่าวอีกว่า สำหรับสถิติการฆ่าตัวตายใน
ระดับอายุต่างๆ นั้น ทางศูนย์สุขวิทยาจิตได้เก็บรวบรวม
ไว้ สาเหตุส่วนใหญ่ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก นอกจากนี้
เปอร์เซ็นต์ของการฆ่าตัวตายนั้นพบว่ามีเปอร็เซ็นต์สูง ถ้า
จัดอันดับของการเสียชีวิตอยู่ในอันดับที่ 2-3 รองจาก
อุบัติเหตุที่ยังตรองแชมป์เป็นอันดับ 1 อยู่ สำหรับการฆ่า
ตัวตายในกลุ่มเด็กและเยาวชนนี้มีสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายของเด็กแต่ละรายนี้กำลังรวบ
รวมเพื่อที่จะได้หาวิธีในการป้องกัน
น.พ.วินัยกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวิธีป้องกันง่ายๆ
และดีที่สุด คือ ครอบครัวในการเลี้ยงดูบุตรหลายของตน
เองที่ควรดูแลเอาใจใส่ ไม่ใช่เลี้ยงเขาที่เน้นเรื่องการศึกษา
เพียงอย่างเดียว แต่ควรให้เขาได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิต การ
อยู่ร่วมกับสังคมอย่างมีความสุข โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ต่างจัง
หวัดที่พ่อแม่มักจะส่งมาเรียนใรกทม. หรือจังหวัดที่ห่าง
ไกล เด็กเหล่านั้นมักจะไม่มีที่พึ่งหรือครูไม่เอาใจใส่ ก็จะทำ
ให้เด็กเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น ควรให้เด็กอยู่ใกล้ชิด มี
ปัญหาอะไรก็ให้เขารู้สึกว่ายังมีที่พึ่งทางใจอยู่
ด้านน.พ.ประเวชกล่าวว่า สหรับข่าวที่ออกมาฟังดู
แล้วจะไม่ใช่ปัจจัย หรือสาเหตุที่แท้จริง ขณะนี้กำลังเก็บ
ข้อมูลจากเพื่อน ญาติของผู้ตาย ซึ่งดูแล้วเด็กนี้ป่วยทางจิต
ขาดการดูแลรักษาที่ถูกต้องทำให้เขาตัดสินใจเช่นนั้น
ขณะนี้ยังไม่สามรถสรุปได้ว่าเกดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่
เชื่อว่าสาเหตุการตายมาจากการเป็นฌรคซึมเศร้า ซึ่งโรคนี้
สามารถรักษาด้วยยา จากที่ฟังข้อมูลคนรอบข้างเด็กมัก
ตื่นสาย การเรียนตกต่ำลงทั้งที่แต่ก่อนเรียนดี
ผ.อ.ศูนย์สุขวิทยาจิต กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นการยากใน
การที่จะนำข้อมูลมาเปิดเผยหรือเผยแพร่ เพราะอาาจส่ง
ผลกระทบทางด้านจิตใจต่อหล่ยคนที่เกี่ยวข้อง จากที่ตน
เคยเก็บข้อมูลการฆ่าตัวตายใน 4 ภาคของประเทศ ขณะนี้
เป็นผู้ใหญ่และเคยคิดฆ่าตัวตายในช่วงวัยรุ่นแต่ไม่ทำ
เพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไว้คือสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ส่วนสถิติการ
ฆ่าตัวตายนี้ถือเป็นการเสัยชีวิตอันดับ 3 ซึ่งทั่วฌลกจะ
เหมือนกันหมด โดยเฉพาะระหว่างอายุ 15-19 ปี ก่อนมี
โรคเอดส์ระบาดวัยรุ่นฆ่าตัวตายสูงสุดเทียบกับผู้ใหญ่หรือ
ผู้สูงอายุ แต่เมื่อมีโรคเอดส์เข้ามาแพร่ระบาดปัญหาเรื่องการ
ฆ่าตัวตายก็จะอยู่ระหว่างอายุ 20-30 ปี ต้องเร่นดำเนิน
การแกไข นอกจากนี้ สถิติการฆ่าตัวตายจริงๆ แล้ว ซึ่งดู
จากใบมรณบัตรมีถึง 10 ราบต่อวัน แต่หากดูข้อมูลใน
หนังสือพิมพ์พบว่ามี 2 รายต่อวัน
สำหรับนายสุวัฒน์ เงินฉ่ำ อธิบดีกรมสามัญศึกษา
กล่าวว่า ได้หารือกับครูประจำชั้นนักเรียนหญิงที่ฆ่าตัว-
ตายแล้ว ซึ่งครูที่ดูแลก็บอกว่ารับรู้ปัญหาของเด็กมาโดย
ตลอด แต่อาจจะมีปัญหาลึกๆ ที่เด็กไปชื่นชมอะไรแล้วแต่
ก็ทำให้เด็กตัดสินใจชั่ววูบ ซึ่งตนได้สั่งการให้ผ.อ.โรง
เรียนสุรศักดิ์มนตรีไปศึกษารายละเอียดทั้งหมดแล้ว และ
ให้ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่ต้องศึกษา นอกจากนี้ ตนจะ
สั่งให้โรงเรียนทั่วทุกแห่งทำบันทึกส่วนตัวของนักเรียนที่มี
พฤติกรรมเสี่ยงเก็บไว้ในแฟ้ม เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถนำ
ข้อมูลมาดูได้ และใช้วิธีแนะแนวเด็กแก้ไขปัญหาที่มี
ความจำเป็นมากสำหรับเด็กในวัยนี้
"มีการตั้งข้อสังเกตุกันว่าเด็กชอบคุยโทรศัพท์นานๆ
และในวันเกิดเหตุเด็กได้โทรศัพท์แล้วร้องไห้วิ่งขึ้นไปฆ่า
ตัวตาย ผมก็บอกกับผอ.โรงเรียนว่าให้สอบถามจาก
เพื่อนๆ ของเด็กว่ามีใครโทรไปพูดคุยในระหว่างนั้น
หรือไม่" อธิบดีกรมสามัญกล่าว
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรารัตน์
คชรัตน์ ผบช.น. กล่าวถึงคดีน.ส.วชิราพร หรือน้องกวาง
แก้วศรีนนท์ นักเรียนชั้นม.4 โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี กระ
โดดตึกแฟลตย่านดินแดง กทม. ฆ่าตัวตายว่า รายละเอียด
ไม่ระบุอะไรชัด เป็นลักษณะของคนที่เครียดก็ไม่ใช่ ผิด
หวังก็ไม่ใช่ ทางตำรวจท้องที่กำลังดูแลอยู่ ตนว่าจะต้องคุย
กับนักจิตวิทยา เด็กอายุน้อยๆ ฆ่าตัวตาย ขณะนี้สังคมเรา
รับวัฒนธรรมตะวันตกมากเกินไป ขาดความใกล้ชิดผู้ปก
ครอง เช่น การส่งให้ลูกหลานเข้าเรียนในกทม.ก็ดี หรือ
อยู่ในกทม.ด้วยกันก็ดี ขาดความใกล้ชิด เด็กก็รับวัฒน
ธรรมที่ตัวเองดูจากโทรทัศน์ ทั้งของไทยและต่างประเทศ
เราไม่มีหน่วยงานคอยสกัดกั้น การไปดูการแสดงคอน
เสิร์ต จนเหมือนเราไม่มีวัฒนธรรมดั้งเดิมของเราเอง เช่น
ผู้หญิงควรอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย บางครั้งมีความ
เกินเลย
พล.ต.ท.วรารัตน์กล่าวว่า ส่วนตำรวจสวัสดภาพเด็ก
และเยาวชนนั้น กำลังเรามีเพียงหยิบมือ มีไม่กี่คน ตนคิด
ว่าสังคมทุกสังคม ทุกระดับ ไม่ว่าสถาบันครอบครัว สถา-
บีนการศึกษา รวมทั้งสถาบันอื่นๆ ควรช่วยกันดูแล ไม่
อยากจะซ้ำเติม แต่อยากจะเรียกร้องให้หันมาดูและเด็กๆ
กัน โรงเรียนต่างๆ ควรจะมีอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอน ราย
การบันเทิงเริงรมย์ต่างๆ อยากจะให้สำรวจดูการนำเสนอ
อย่าให้มีการนำเสนอเสแสร้งมากกว่าเสนอความจริง
สังเกตดูได้จากการส่งเสียงในรายการ ดูแล้วรูว่าไม่จริง จ้าง
คนดูมาร้องส่งเสียงเชียร์ รายการอื่นก็ต้องเอาอย่างกันต่อ
เพื่อแข่งขัน ขอให้เด็กกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
โดยเฉพาะเรื่องความผิดหวังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก
การเรียน การศึกษา ต้องมีคนชี้แนะ ไม่ใช่ว่ามีเพียงเรา
เพียงคนเดียว คนอื่นยังมีอีกมาก มีทางออกทางแก้ไขอบ่าง
อื่น ไม่ใช่ผิดหวังแล้วก็ไปฆ่าตัวตาย ไม่มีประโยชน์ หรือ
เรียนตกซ้ำชั้น ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้ามีเหตุผล เราก็เริ่ม
ชีวิตใหม่
ผบช.นกล่าวต่อว่า อยากจะให้ช่วยกันเตือนสติเด็ก
ถ้าเห็นลูกหลานเก็บตัวเงียบๆ ผิดปกติ ต้องระวังให้ดี ต้อง
ขอให้ปรึกษาหารือระหว่างผู้ใหญ่ หาทางพูดคุยกับเด็ก
ตรงนี้ตรงรีบแก้ไขให้คำปรึกษา ถามดู อย่าดุด่า ทั้งที่เรียน
ดี ความประพฤติดี แต่เก็บตัวเงียบ ไม่คบค้าสมาคมกับ
ใคร ตรงนี้ต้องระวัง พยายามมีคนใกล้ชิดพูดคุยด้วย ยิ่ง
คนที่เก่งมาก ฉลาดมาก ก็จะยิ่งคิดมากตามไปด้วย บาง
ครั้งก็จะคิดเลยจากที่เราคาดคิดไว้
ที่ร.พ.ศรีธัญญา อ.เมือง จ.นนทบุรี น.พ.วินัย วิริย
กิจจา อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แถลง
ภายหลังเป็นประธานเปิดงาน ชุมนุมบุคคลผู้อยู่กับปัญหา
โรคจิตเภทว่า โรคจิตเภทเป็นโรคที่มีอาการผิดปกติของ
ความคิดและพฤติกรรม เป็นปัญหาทางสารธารสุขที่
สำคัญของประเทศไทย ปัจจุบันพบว่าคนไทยป่วยเป็น
โรคจิตเภทประมาณ 600,000 คน โรคนี้สามารถรักษา
อาการให้หมดไป หรือทุเลาได้ แต่จากการศึกษาพบว่า ผู้
ป่วยร้อยละ 70 มักมีอาการกำเริบเนื่องจากสาเหตุหลาย
ประการ เช่น ขาดยา ขาดการดูแลเอวใจใส่ที่เหมาะสม ทั้ง
จากตัวผู้ป่วยเอง และญาติพี่น้อง ดังนั้น จึงเกิดการรวมตัว
ก่อตั้งกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตามแนวทางของ
กลุ่มช่วยตัวเองขึ้นมา ผลแห่งความร่วมมือดังกล่าว ก่อให้
เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์แนวทางการช่วยเหลือผู้
ป่วย และญาติในด้านต่างๆ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ดังนั้น จึงขอเชิญผู้ป่วยโรคจิตที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก
ติดต่อที่หน่วยงานสุขภาพจิต และจิตเวชชุมชน ร.พ.ศรี
ธัญญา โทร.525-0981 ต่อ 1656 และ 1680
น.พ.วีนัย กล่าวถึงปัญหาวัยรุ่นฆ่าตัวตาย จนอาจ
กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
จะรุดหารือกับนายคำรณ ณ ลำพูน รมช. สาธารณสุข
เกี่ยวกับแนวทางป้องกันปัญหาความเครียดของกลุ่มเยาว
ชน ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ และในวันที่
20 ม.ค.นี้ เวลา 11.30 น. กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับ
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รมช.ศึกษาธิการ แถลงถึงแนว
ทางความร่วมมือของ 2 หน่วยงาน ในการแก้ปัญหาความ
เครียดในเยาวชนไทย ที่กรมสุขภาพจิต
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ปัญหาความ
อ่อนแอด้านจิตใจ และอารมณ์ของเยาวชนไทย กระทั่งมี
การแสดงออกด้วยการฆ่าตัวตาย ตนเห็นว่าแนวทางเร่ง
ด่วนในการแกไขปัญหา คือสร้างความเข้มแข็งของจิตใจ
ของเด็กให้ได้ก่อน โดยอย่ามุ่งมั่น แต่จะให้เด็กฉลาด
เรียนเก่ง หรือมุ่งเน้นแต่เรื่องไอคิวอย่างเดียว ควรหัน
มาให้ความสำคัญกับความสามารถในการแสดงออกทางอา
รมณ์ หรืออีคิวมากกว่า ที่ผ่านมาพบว่าความผิดหวัง
กระทั่งตัดสินใจฆ่าตัวตายในกลุ่มเด็กที่พลาดหวังจากการ
สอบเอ็นทรานซ์นั้น มีเปอร์เซ็นต์สูงกว่ากลุ่มอื่น สาเหตุ
น่าจะมาจากความไม่เข้าใจในตัวเด็กของพ่อแม่ผู้ปก
ครองและคนรอบข้าง ฉะนั้น หากพ่อแม่ ครู อาจารย์ ยัง
ไม่พยายามทำความเข้าใจสภาพจิตใจของเด็กที่ต้องดูแล ก็
อาจจะสูญเสียเด็กกลุ่มนี้ไปก่อนวัยอันควรได้
ส่วนเหตุการณ์ล่าสุดนักเรียนหญิงชั้นม.4 กระโดดตึก
ฆ่าตัวตาย ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้คลั่ง
ไคล้นักร้องญี่ปุ่นนาม ฮิเดะ ที่ก่อเหตุฆ่าตัวตายเมื่อ
2 ปีที่ผ่านมานั้น น.พ.วินัยกล่าวว่า ตามปกติแล้วเมื่อเกิด
เหตุการณ์ฆ่าตัวตายในรายใดๆ กรมสุขภาพจิตจัดส่งเจ้า
หน้าที่เข้าไปติดตามถึงสาเหตุที่แท้จริง เพื่อนำมาประมวล
เป็นสถิติทาวิชาการ ในกรณีล่าสุดนี้ ตนสั่งการให้เจ้าหน้า
ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่สามารสรุปหาสาเหตุการ
ฆ่าตัวตายที่แท้จริงได้ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าสาเหตุการฆ่า
ตัวตายรายนี้ ไม่น่าจะมาจากอาการคลั่งไคล้ศิงปิน เพราะ
จากข้อมูลตามข่าวจะเห็นว่า เด็กแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน
แต่ได้รับโทรศัพท์จึงมีอาการกรีดร้อง และกระโดดตึก
ฉะนั้น สาเหตุมาจากอาการผิดหวังอย่างรุนแรงในชัวขณะ
ไม่ใช่อาการคลั่งดาราาอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตกัน
น.พ.วชิระ เพ็งจันทร์ ผอ.ร.พ.ศรีธัญญา กล่าวว่า จาก
ข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่น่าเชื่อว่าการตัดสินใจฆ่าตัว
ตายของนักเรียนชั้นม.4 จะเป็นการกระทำเลียนแบบ
ศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ น่าจะมีปัจจัยอื่นๆ เพราะการฆ่าตัว
ตายเปรียบได้กับการสตาร์ตรถ ที่ต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ มา
ประกอบกันหลายประการ
"สาลินี ปันยารชุน" ดีเจ.ชื่อดัง ผู้ชื่นชอบฮิเดะ เคยจัด
งานรำลึกถึงฮิเดะในเมืองไทย และได้เดินทางไปดูคอน
เสิร์ตเอ็กซ์เจแปนที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งมีโอกาสพูดคุย
กับครอบครัวของฮิเดะ กล่าวว่า เมื่อครั้งไปดูคอนเสิร์ต
ครั้งนั้น ตนไม่ได้พูดคุยกับฮิเดะ เพราะเขาแสดงคอนเสิร์ต
อยู่ แต่มีโอกาสคุยกับครอบครัวเขา ที่แฟนเพลงชื่นชอบ
และคลั่งไคล้ฮิเดะ เพราะเขาเป็นร็อกสตาร์ และมีความเป็น
ซูเปอร์สตาร์ เหมือนกับซูเปอร์สตาร์คนอื่นๆ และมีความ
เป็นตัวของตัวเอง แตกต่างจากนักร้องญี่ปุ่น เพราะนักร้อง
ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีแบบแผน แต่เขาค่อนข้างแตกต่าง
ออกมา และเขามีความรู้หลายด้าน ไม่ว่าเป็นเรื่องธุรกิจ
เพลงและอื่นๆ
"สาลินี ปันยารชุน" กล่าวถึงเหตุการณ์นักเรียนสาวฆ่า
ตัวตายว่า รู้สึกเสียใจกับน้อง และครอบครัวด้วย มาถึงวัน
นี้โลกเปลี่ยนแปลงไปเร็ว ทางครอบครัวต้องให้คามอบ-
อุ่น และความเข้าใจ เราต้องช่วยกันดูแลเยาวชนให้ดี
เพราะนอกจากจะให้ความอบอุ่นแล้ว พ่อแม่ต้องทำความ
เข้าใจกับโลกของเขาด้วย เพราะตอนนี้ทั้งภาพยนต์ ก็มี
หลายประเภทให้เลือกดู ส่วนดนตรี ก็มีระดับการฟัง ว่า
เพลงแรง และหนักแค่ไหน พ่อแม่ควรจะเอาใจใส่ดูแลอย่าง
ใกล้ชิด เรื่องห้สมคงเป็นไปไม่ได้ แต่ควรคุยกันด้วย
เหตุผล และความเข้าใจ ถ้าเป็นไปได้เปิดอกคุยกันเลนดีที่
สุด
"อยากฝากถึงน้องๆ เยาวชนว่า ในการดูภาพยนต์
หรือดูละคร หรือศิลปินนักร้องต่างๆ เมื่อเราดูแล้ว เราเอา
เยี่ยงได้ แต่เอาอย่างไม่ได้ เพราะทั้งภาพยนต์ และละคร
เป็นโลกบันเทิง แต่ในความเป็นจริง มันไม่ใช่ เพราะว่าไม่ว่า
เราจะทำอะไรก็ตาม ต้องดูวัย สถานภาพ และหลายๆ
อย่างประกอบกัน เช่น เมื่อเราอยู่ในวัยเรียน จะมาทำผมสี
แดง สีฟ้า แบบนี้มันก็ไม่ใช่ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
ต้องให้เหมาะสมกับตัวเรา และเมื่อเรามีความสุข ครอบ
ครัวก็ต้องไม่เดือดร้อนด้วย" สาลินีกล่าว
ส่วน "โจ" มณฑาณี ตัณติสุข นักจัดรายการวิทยุ และ
เป็นผู้ปลุกกระแสวงดนตรีญี่ปุ่นในเมืองไทย แสดงความ
คิดเห็นกรณีนักเรียนกระโดดตึกฆ่าตัวตายซึ่งคลั่งไคล้
"ฮิเดะ" ว่า กรณีของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้อง
กับการชื่นชมฮิเดะ เพราะเหตุการณ์ที่ฮิเดะฆ่าตัวตายเกิด
ขึ้นมา 2 ปี ถือว่านานมาก หากจะฆ่าตัวตายเพราะคลั่ง
ไคล้ก็น่าจะใช้วิธีฆ่าตัวตายแยยเดียวกันคือผูกคอตาย น่า
จะตรวจสอบหาสาเหตูที่ทำให้เด็กคนดังกล่าวฆ่าตัว
ตาย เพราะอาจเกิดปัญหาที่กดดันมากๆ
โจ มณฑาณี กล่าวต่อไปว่า ความโด่งดังของฮิเดะนั้น
เกิดมาจากประเทศญี่ปุ่นเป็นกระแสมาถึงเมืองไทย ใน
ญี่ปุ่นมีเด็กวัยรุ่นฆ่าตัวตายตามฮิเดะไปแล้วถึง 3 คน โดย
เขียนจดหมายลาตายระบุชัดเจน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นกลุ่มวัยรุ่น
จะแตกต่างจากเมืองไทย เพราะวัยรุ่นญี่ปุ่นขาดเครื่องยึด
เหนี่ยวจิตใจและอ่อนไหวง่าย เวลามีฮีโร่ในหัวใจแล้วจะคลั่ง
ไคล้รุนแรง ผิดกับเด็กไทย แต่ก็อยากจะฝากถึงผู้ปกครอง
ด้วยว่าน่าจะสอดส่องดูแลบุตรหลานเอาไว้ด้วย เพราะเด็ก
ไทยสมัยนี้มักจะมีปัญหา แต่ก็ไม่มีที่ระบายออก พ่อแม่ผู้
ปกครองจึงควรเข้าไปทำความเข้าใจ และเป็นที่พึ่งของ
เด็กๆ
ที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี นายวิทยา บริบูรณ์ทรัพย์ ผู้
อำนวยการโรงเรียน แถลงข่าวการเสียชีวิตของน.ส.วชิ-
ราพร แก้วศรีนนท์ นักเรียนชั้นม.4/8 ที่โดดตึกฆ่าตัวตาย
ว่า หลังเกิดเหตุตนมอบหมายให้อาจารย์ฝ่ายปกครอง
อาจารย์ที่ปรึกษา และอาจารย์แนะแนว ช่วยกันสัมภาษณ์
นักเรียนในห้องและเพื่อนสนิท เพื่อนำข้อมูลมาประมวล
และวิเคราะห์ถึงสาเหตุการฆ่าตัวตายครั้งนี้ เนื่องจากก่อน
ที่เด็กจะฆ่าตัวตาย ไม่ได้พูดหรือสั่งเสียอะไรกับใครไว้เลย
ทำให้ครูกับนักเรียนข้องใจกับการเสียชีวิตครั้งนี้ ขณะเดียว-
กันทางอธิบดีกรมสามัญศึกษา ก็มีคำสั่งให้ทางโรงเรียนนำ
ข้อมูลที่ได้จากการสอบถามเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิท
ของน.ส.วชิราพร มาสรุปเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง จะได้หา
แนวทสงแก้ไขปัญหาของนักเรียนรายอื่นๆ ต่อไป อย่างไร
ก็ตาม ข้อมูลที่ได้ในขณะนี้ยังไม่ชัดเจน คาดว่าภายในวัย
ศุกร์นี้จะสามารถสรุปข้อมูลทั้งหมดส่งอธิบดีกรมสามัญ
ศึกษาได้
นายวิทธยา กล่าวว่า เท่าที่สอบถามอาจารย์ประจำ
ชั้นและอาจารย์ฝ่ายปกครอง ทราบว่า น.ส.วชิราพรเป็น
เด็กที่มีผลการเรียนปานกลางค่อนข้างดี ความประพฤติ
เรียบร้อย ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการทำความผิด หรือถูกว่า
กล่าวโทษใดๆ ให้เป็นที่อับอายเลย แต่บางครั้งอาจมี
ปัญหาเรื่องการมาสายบ้าง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความผิดร้าย
แรง เพราะโรงเรียนของเรามีปัญหาเรื่องรถติดค่อนข้าง
มาก ทำให้นักเรียนหลายคนมาสาย อย่างไรก็ตาม กรณีดัง
กล่าวถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักเรียนที่นี่ สำหรับนิสัยนั้น
จะเป็นที่เก็บตัว เวลาอยู่ในห้องเรียนจะเงียบ ไม่ค่อยพูกจา
กับใคร อารมณ์อ่อนไหว และที่สำคัญเป็นเด็กที่เก็บความรู้
สึกมาก เวลามีปัญหาก็ไม่เล่าให้ใครฟัง แต่จะพูดว่า "ช่าง
เถอะ ไม่เป็นไร" ซึ่งนิสัยดังกล่าวเลยทำให้เราไม่ทราบสา-
เหตุที่เขฆ่าตัวตาย ส่วนปัญหาอื่น เช่น การใช้ยา หรือ
ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ขอยืนยันว่าไม่มี
ผอ.ร.ร.สุรศักดิ์มนตรี กล่าวต่อว่า กรณีที่ตนตั้ง
ข้อสังเกตุว่าสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเด็กเกิดความเครียด
ในโรงเรียนนั้น จากการที่ตนประเมิรสถานการณ์ขณะนี้
เชื่อว่าไม่น่าจะใช่ เพราะเด็กเรียนกับเรามาตั้งแต่ม.1 และมี
ผลการเรียนค่อนข้างดีมาตลอด จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องการ
ปรับตัว อีกอย่างทางโรงเรียนก็ไม่เคยลงโทษเด็กด้วย ดัง
นั้นสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องอื่นมากกว่า โดยเด็กอาจมี
ปัญหากับกลุ่มเพื่อนสนิท จนเกิดความกดดัน หรือไม่ก็
อาจผิดหวังกับสิ่งที่ผูกพันมากๆ เลยทำให้เกิดความคิดชั่ว
วูบก็เป็นได้ แต่เท่าที่ทราบจากครอบครัวของเด็ก ตอนเช้า
ก่อนจะฆ่าตัวตาย เขาก็ปกติดี ไม่มีปัญหา ก็เลยทำให้เรา
งงจนทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นคลั่งไคล้ "ฮิเดะ" ศิลปินร็อกชื่อ
ดังของญี่ปุ่นน นายวิทธยากล่าวว่า ดูจากพฤติกรรมของเด็ก
แล้ว คงมีความชื่นชมศิลปินคนนี้มากทีเดียว เพราะพ่อแม่
เด็กเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวชอบเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาก
เช่น ชอบอ่านหนังสือญี่ปุ่น ชอบการ์ตูนญี่ปุ่น ชอบฟัง
เพลงญี่ปุ่น และล่าสุดยังฝึกเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วย แม้จะ
เป็นนักเรียนสายวิทย์ก็ตาม ถ้าสาเหตุการเสียชีวิตเป็น
เพราะประเด็นนี้ ก็น่าสงสารมากที่ไปคลั่งไคล้ศรัทธา
นักร้องคนนี้มากเกินไป จนเป็นอันตรายแก่ชีวิต อย่างไรก็
ตาม ทางโรงเรียน จะให้เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่าง และจะ
ศึกษาหาแนวทางแก้ไขต่อไป
ด้าน น.ส.จีรพันธ์ กาสา อาจารย์ประจำชั้นม.4/8
กล่าวว่า ในชั้นเรียนแต่ละห้องจะมีอาจารย์ที่ปรึกษา 2 คน
เพื่อให้ดูแลลูกศิษย์ได้อย่างทั่วถึง แต่ที่ผ่านมาน.ส.วชิราพร
ไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟังเลย บอกอย่างเดียวว่า ไม่มีปัญหา
อะไรค่ะอาจารย์ ตนเคยถามว่าทำไมเป็นคนเงียบ คุย
กับเพื่อนบ้างไหม เขาก็บอกว่าคุย แล้วก็ยิ้ม ซึ่งการยิ้มของ
เขา ทำให้รู้สึกว่า เรายังไม่เข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของลูก-
ศิษย์คนนี้ ซึ่งตนก็พยายามอยู่ แต่แล้วเขาก็ฆ่าตัวตายในที่
สุด ตนในฐานะอาจารย์ที่ใกล้ชิดรู้สึกเสียใจมากๆ
ขณะที่นายอรุณ ดุลยกุล อาจารย์ประจำชั้นอีกคน
กล่าวว่า วันนี้ทางโรงเรียนเป็นเจ้าภาพสวดงานศพให้กับ
น.ส.วชิราพร โดยเพื่อนๆ ในชั้นเรียนพร้อมใจกันนำพวง
หรีดเดินทางไปร่วมงานศพ รวมทั้งเรียรายเงิน
ช่วยเผาศพเป็นเงิน 2,800 บาท และในวันเผา ครูและ
เพื่อนๆ จะไปร่วมงานอีกครั้งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว คณะผู้บริหาร
ครูอาจารย์ และนักเรียนกว่า 50 คน ได้ขึ้นรถบัสเพื่อเดิน
ทางไปร่วมงานศพน.ส.วชิราพร ที่จ.สระบุรี ทันที ส่วน
บรรยากาศภายในร.ร.สุรศักดิ์มนตรีนั้น ตั้งแต่เช้าปรากฏ
ว่าบรรดาครูอาจารย์และนักเรียนทุกระดับชั้น ต่างจับกลุ่ม
วิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน.ส.วชิราพรกัน
ไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะเพื่อนๆ ร่วมห้อง วิเคราะห์กัน
ว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัวมากกว่า แต่ก็ไม่มี
ใครทราบ เพราะ น.ส.วชิราพรไม่เคยเล่าปัญหาให้ใครฟัง
ด้านด.ช.นฤดล แซ่ปั้น อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.3/3
กล่าวว่า ตอนนี้ที่ห้องพูดถึงการเสียชีวิตของรุ่นพี่คนนี้
มาก แต่คิดว่าสาเหตุไม่น่าจะใช่เรื่องคลั่งนักร้องญี่ปุ่น
เพราะตายมาตั้ง 2 ปีแล้ว ไม่น่าเพิ่งมาเลลียนแบบตอนนี้
ส่วนเรื่องเรียนก็ไม่น่าใช่ เพราะเขามีผลการเรียนดีตลอด
ดังนั้นน่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวมากกว่า ส่วนการป้องกัน
ไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก หากเห็นว่า
ใครมีอาการซึมหรือปัญหา เพื่อนๆ ควรเข้าไปพูดคุย
ส่วนโรงเรียนก็ควรมีกิจกรรมให้เด็กทำเพื่อคลายเครียด
และอาจารย์เวลาจะดุเด็ก ไม่ควรใช้คำพูดที่รุนแรง เพราะ
อาจทำให้เด็กคิดมากได้ ขณะที่พ่อแม่เองบางครั้งก็ควรให้
อิสระกับลูก ให้เขาได้คิดเองทำเองบ้าง ไม่ควรไปจู้จี้จุกจิก
มากจนเกินไป
ขณะที่เพื่อนสนิทของน.ส.วชิราพร ประกอบด้วย
น.ส.วาสินี เจริญพัฒนากูล, น.ส.ศิรินันท์ กิจชัยยง และ
น.ส.ศศิธร ชัยอำพล ซึ่งชื่นชอบวงเอ็กซ์เจแปนเหมือนกัน
เปิดเผยว่า ไม่คิดว่าเพื่อนตาย คิดว่าหยุดเรียนไปเทา
นั้นเอง เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนที่อยู่ด้วยกัน
ในกลุ่ม พวกเราจะเรียกเขาว่า "วาชิ" ซึ่งเขาจะร่าเริงมาก
เป็นคนชอบวาดรูป และวาดเก่งด้วย เขาเคยบอกว่าโตขึ้น
อยากเป็นสถาปนิก แต่เวลาอยู่กับคนอื่นไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม นิสัยของเขาไม่ค่อยพูด ออกจะเป็นคนคิด
ไปเอง อ่อนไหวง่าย บางครั้งแค่อ่านการ์ตูกญี่ปุ่นก็ร้องไห้
แล้ว ถ้ามีอะไรมากระทบจิตใจหน่อย อาจจะคิดสั้นได้
"ส่วนเรื่องดนตรี พวกเราก็แค่ชอบ ไม่ได้ตั้งเป็นกลุ่ม
เป็นแก๊ง เพียงแต่พวกเราชอบ ชื่นชมฮิเดะมาก และคิดว่า
การตายของเพื่อนคงไม่เกี่ยวกับิเดะอย่างแน่นอน เพราะ
เขาตายมาหลายปีแล้ว ถ้าจะฆ่าตัวตายเพราะเรื่องนี้ น่าจะ
ฆ่ามาหลายปีแล้ว" กลุ่มเพื่อนสนิทกล่าว
ที่ศาลาธรรมสังเวช วัดวังม่วง ต.คำพราน อ.วังม่วง
จ.สระบุรี สถานที่ตั้งศพน.ส.วชิราพร นักเรียนชั้นม.4 ที่
กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพ น.ส.วชิรา
พรถูกบรรจุอยู่ในโลงสีขาว ลายเทพนมสีทอง มีพวง
หรีดวางประกอบหน้าศพ ประกอบด้วยพวงหรีดของนาย
สมศักดิ์ ปรศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ น.ส.กัญจนา
ศิลปอาชา รมช.ศึกษาธิการ นายสุวัฒน์ เงนฉ่ำ อธิบดี
กรมสามัญศึกษา โดยมีนายวสันต์ แก้วศรีนนท์ อายุ 43 ปี
บิดา และ น.ส.วรารัตน์ แก้วศรีนนท์ อายุ 17 ปี พี่สาว
นั่งเฝ้าอยู่หน้าศพอย่างเศร้าสลด
นายวสันต์ กล่าวว่า รู้ข่าวขณะกำลังเดินทางไปซื้อ
ของที่กรุงเทพฯ ได้รับโทรศัพท์จากพ่อค้าแถวนั้นว่า ลูก
สาวกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ขณะนั้นทำอะไรไม่ถูกต้อง ขับ
รถเองยังไม่ได้เลย ต้องให้คนอื่นขับให้ ก่อนรีบเดินทาง
มารับศพที่กรุงเทพฯ ส่วนฮิเดะนักร้องดังชาวญี่ปุ่นนั้น ลูก
สาวเป็นอย่างนี้มาหลายปี วัยรุ่นก็ชอบกันทั้งนั้น แต่ใน
ส่วนลึกๆ จะมีทางออกอย่างไรกัน หากไม่มีเหตุจูงใจจะ
ต้องให้กระโดด เด็กคงไม่ทำ อยู่ดีๆ จะกระโดดได้อย่างไร
ต้องมีภาวะอีกอย่างหนึ่งมากดดัน หาทางออกไม่ได้
นายวสันต์กล่าวต่อว่า เหตุจากนักร้องญี่ปุ่นจะมาสัก
20-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องมีเรื่องกดดันอย่างอื่นมากกว่า
ทุกเช้า เวลาประมาณ 05.00 น. จะโทร.ไปปลุกลูกให้ไป
โรงเรียน เดี๋ยวจะไปโรงเรียนไม่ทัน เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้ว
ให้โทร.กลับมาบ้าน บอกว่าถึงโรงเรียนแล้ว ก็แค่นั้น ลูก
สาวเป็นคนทำอะไรช้า แต่เรื่องออกนอกลู่นอกทาง ขอเอา
หัวเป็นประกันเลยว่าไม่มี แม้แต่เรื่องยาเสพติดก็ไม่มี มีแต่
เรื่องเรียน ชอบเข้าห้องน้ำนาน อาบน้ำนาน เสื้อผ้าก็ซัก
สะอาด ละเอียด เมื่อประมาณเดือนกว่าๆ ลูกสาวไปโรง-
เรียนสาย อาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกให้ไปพบพูดคุยกัน ลูก
สาวก็นั่งร้องไห้เขาบอกว่าไปโรงเรียนสายเพราะอาบน้ำ
ช้า ตื่นช้า อาบน้ำช้า แต่เป็นคนสะอาด พอไไปสายจึงถูก
ทำทัณฑ์บน ยังสอบซ่อมวิชาเคมีกับฟิสิกส์ และก่อนฆ่า
ตัวตายทราบว่า ลูกสาวไม่ไปโรงเรียนในวันจันทร์ที่ผ่าน
มา เมื่อทราบว่าสอบไม่ผ่านวิชาคณิตศาสตร์
"ส่วนที่ว่าผมไมรักลูกนั้น ไม่ถูกต้อง ผมจะโทร. หาลูก
ทุกวัน ทั้งเช้า และเย็น ก่อนนอนก็ไม่เคยเล่าความหนัก
อกหรักใจอะไรที่โรงเรียนให้ฟัง เป็นคนไม่ชอบพูด ผม
ห่วงเขามากที่สุด เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ที่บ้านจ.
สระบุรีก็ไม่มีรูป หรืออะไรที่เกี่ยวกับนักร้องฮิเดะ ผมตอบ
ไม่ถูก ต้องคนมีลูก และลูกเสียชีวิตไปถึงจะรู้ว่าความรู้สึก
ตรงนั้นเป็นอย่างไร ตลอดทั้งชีวิตไม่เคยนึกว่าจะมาเกิดกับ
ครอบครัวของเรา นึกเสียว่าอาจจะเป็นเพราะความผิดของ
เรา ที่ส่งลูกสาวไปเรียนที่กรุงเทพฯ แล้วต้องรับศพกลับ
บ้าน" นายวสันต์ กล่าวอย่างเศร้าสลด
น.ส.วรารัตน์ พี่สาว กล่าวว่า ถ้าหาทางออกไม่ได้ก็ให้
ติดปีกบิน เป็นบางช่วงที่ฮิเดะเขียนเอาไว้ เป็นหนังสือ
เกี่ญวกับฮิเดะ นักร้องดังของญี่ปุ่น สำหรับตนพักอยู่กับ
น้องสาวด้วย แต่เรียนคนละโรงเรียน น้องสาวเป็นคนไม่
ชอบพูด เหมือนไม่มีอะไร เวลาคุยกันก็ยิ้มปกติธรรมดา
วันเกิดเหตุไปโรงเรียนก่อน ทราบข่าวจากวิทยุในรถแท็ก
ซี่
เวลา 16.30 น. นางจินตนา แก้วศรีนนท์ มารดา เดิน
ทางกลับมายังวัดวังม่วง และกล่าวว่า ลูกสาวเป็นเด็กเรียบ
ร้อย พูดเพราะ แต่ไม่ชอบคุย มีอะไรก็จะเก็บไว้ในใจ ไม่
ค่อยพูดให้ใครฟัง ถามคำตอบคำ เหตุการณที่เกิดขึ้นไม่
ติดใจ สงสัยว่าเป็นการฆาตกรรม คาดว่าสาเหตุเกิด
จากลูกสาวมีความเครียดจาการเล่าเรียนมากกว่า ส่วนเรื่อง
ดาราอาจจะมีบ้างตามประสาวัยรุ่นทั่วไป แต่คงไม่ถึงกับทำ
ให้ฆ่าตัวตาย ตามปกติถ้ามีวันหยุดเกิน 3 วัน ลูกถึงจะ
กลับบ้าน แต่ถ้าหยุด 2 วัน จะไม้ให้ลูกกลับ เพราะต้อง
เรียนพิเศษ ส่วนผลการเรียนของลูกสาวนั้น ตอนเรียนป.
1-6 สอบได้ที่ 1 มาตลอด และได้โควต้าของอำเภอเข้ามา
เรียนที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ในช่วงเรียนม. 1-3 ยังได้
เกรดดี แต่พออยู่ม.4 เกรดตกไป โดยเฉพาะวิชาคณิต-
ศาสตร์ ถึงกับสอบตก อาจทำให้คิดมากก็เป็นได้
"ขอยืนยันอีกครั้งว่า ครอบครัวของเราไม่มีปัญหาเรื่อง
ภายในครอบครัว เราอยู่กันอย่างอบอุ่น สาเหตุที่ลูกสาว
โดดตึกตาย คงเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดจากผลการเรียน
ตกต่ำ ในจุดนี้ขอฝากไปถึงลูกๆ ของทุกคน อย่าทำแบบ
น้องกวาง เพราะคนที่เสียใจข้างหลังนั้นมีมาก" นางจินต
นา กล่าวทั้งน้ำตา
นายถวน แซ่ลิ่ว อายุ 70 ปี ปู่ของงน.ส.วชิราพร
กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าหลายจะทำอย่างนี้ ตามปกติเป็นเด็ก
เรียบร้อย แต่ไม่ค่อยพูด เวลากลับถึงบ้านตนจะเรียกมา
พูดคุยประจำ จึงมีความสนิทกับหลานมาก ทุกครั้งที่
พูดกันจะบอกอยู่เสมอว่า ให้สนใจศึกษาเล่าเรียน และถ้า
เรียนดีจะมีรางวัลให้ หลานก็เชื่อฟังด้วยดี
เวลา 19.00 น. นายปรีชา จิตรสิงห์ ผอ.สามัญศึกษาจ.
สระบุรี เป็นตัวแทนกรมสามัญศึกษา พร้อมคณะ เดินทาง
มาเป็นประธานในพิธีสวดอภิธรรมศพ และมอบเงินช่วย
เหลือจำนวน 2,000 บาท ให้กับนางจินตนา โดยมีญาติพี่
น้อง และเพื่อนบ้านพากันมาร่วมพิธีศพประมาณ 100
คน และจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันที่ 23 มค. เวลา 15.00
น.
วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลเปิดเผยการสำรวจความคิด-
เห็นกรณีนักเรียนฆ่าตัวตาย จากครู อาจารย์ ผู้ปกครอง
นักเรียน นักศึกษา จำนวน 1,217 คน พบว่า หัวข้อความ
เห็นต่อข่าวการฆ่าตัวตายของนักเรียน อันดับ 1 เกิดจาก
ขาดสติ ขาดความยับยั้งชั่งใจ แก้ไขปัญหาในทางที่ผิด คิด
เป็น 41.67 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 เกิดจากสาเหตุอื่น โดย
เฉพาะขาดความรัก ความอบอุ่น 23.30 เปอร์เซ็นต์ อัน-
ดับ 3 ข่าวเศร้า น่าสงสาร 17.96 เปอร์เว็นต์ อันดับ 4 ให้
ความสำคัญ หลงใหลดารา และนักร้องมากเกินไป 10.34
้เปร์เซ็น และการเลียนแบบ การคลั่งไคล้ของวัยรุ่นที่
มากเกินไป 6.73 เปอร์เซ็นต์
สำหรับแนวทางป้องกัน การแก้ไขปัญหาการฆ่า
ตัวตายของนักเรียน พบว่า 42.32 เปอร์เซ็นต์ ครอบครัว
โดยเฉพาะพ่อแม่ควรดูแลเอาใจใส่ให้มากขึ้น ตามด้วย
19.24 เปอร์เซ็นต์ ต้องเร่งปลูกจิตสำนึกที่ดี ไม่ให้ยึดหลง
ใหลจนขาดสติ 16.44 เปอร์เซ็นต์ สื่อมวลชนไม่ควรนำ
เสนอข่าวละเอียดมากเกินไป 12.97 เปอร์เซ็นต์ ครู
อาจารย์ควรช่วยกันดูแล กวดขัน ให้คำแนะนำมากขึ้น และ
9.03 เปอร์เซ็นต์ ครูควรสอดแทรกจริยธรรมในการเรียน
ให้มากขึ้น
back