-
หน้าหาดเกาะไข่ เก่าเบ้องหน้าคือเกาะกลาง
- หาดทรายขาวของเกาะหลีเป๊ะ
ตะรุเตา
เกาะงามของคนรักทะเล
..........เมื่อฤดูกาลท่องเที่ยวเกาะตะรุเตา
มาถึงในเดือนธันวาคมจนถึงสิ้นเดือน
เมษายน ที่นี้จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่มาแสวง
หาอิสรภาพใน การดื่มด่ำความงดงามของ
ธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มความสดชื่นให้ชีวิต
ซึ่งนับว่าตรงกันข้ามกับอดีตของตะรุเตา
อย่างสิ้นเชิง
..............ตะรุเตาถูกทิ้งร้างยาวนานถึง
24 ปี.. ไม่มีใครอยากเดินทาง
ไปที่นั่น ชื่อของตะรุเตายังคงเป็นที่น่าสะพรึงกลัวของผู้คนขณะเดียว
กันก็เป็นการดีสำหรับธรรมชาติบนเกาะ .....ที่จะได้เริ่มฟื้น
ตัวอย่าง
เงียบ ๆ จนในปี พ.ศ. 2515 ....กรมป่าไม้ได้เสนอจัดตั้งเกาะตะรุเตา
เกาะราวี เกาะอาดังและเกาะอื่น
ๆ ...โดยมอบหมายให้คณะสำรวจ
เดินทางมาสำรวจ............. หนึ่งในคณะมีอาจารย์เต็ม...สมิตินันท์
ผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์ป่าไม้อยู่ด้วย
............ ในที่สุดกรมป่าไม้ได้มีพระราชกฤษฏีกาประกาศจัดตั้งเกาะ
น้อยใหญ่ 51 เกาะ.....ได้แก่เกาะตะรุเตา
....เกาะอาดัง..... เกาะราวี
เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง เกาะบิสสีและเกาะอื่น ๆ...
ใน
ท้องที่ตำบลเกาะสาหร่าย .......อำเภอเมืองสตูล......จังหวัดสตูลเป็น
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
............ ด้วยความงดงามบริสุทธิ์ของหาดทรายทะเล......และผืนป่า
บนเกาะอันอุดมสมบูรณ์... ทำให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้รับการ
ยกย่องจากองค์การอูเนสโก... ในปี
..พ.ศ. 2525.. ให้เป็นมรดกแห่ง
อาเซียน (ASEAN Heritage Parks andReserves)
............ ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ประเทศไทยได้คัดเลือก
สถานที่ 5 แห่ง........ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล
เพื่อป้องกันมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของโลกพิจารณา
เป็นมรดกโลก ........โดยเป็นแหล่งทางประวัติศาสตร์......โบราณคดี
วัฒนธรรม 3 แห่ง และแหล่งธรรมชาติ 2 แห่ง ได้แก่ ตะรุเตาและ
ห้วยขาแข้ง
............ แม้ตะรุเตาจะไม่ผ่านการพิจารณาแต่หลายต่อหลายคน
ที่มาเยี่ยมเยือนต่างก็เก็บความประทับใจกลับไปมากมาย
............ เรื่องราวความโหดร้ายของทัณฑสถานถูกกาลเวลาทำให้
ลางเลือน ที่แจ่มชัดในวันนี้คือภาพของตะรุเตาที่มีหาดทรายขาว
ละเอียดและน้ำทะเลสีคราม รวมทั้งผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์

