มี่เริ่มเล่นดนตรีมาตั้งแต่
ป.6 เล่นกีต้าร์ คือเป็นกีต้าร์แบบ มือกีต้าร์ของโรงเรียน แต่ว่าไม่ได้เก่งนะ
ก็จะมีครูแบบมาช่วยสอน ตีคอร์ดเพิ่ม มีโซโล่ นิดหน่อย เล่น 3
เพลงต่อปีอะไรอย่างนี้นะ (หัวเราะ) ที่มาที่ไปที่ มี่เริ่มไปเล่น
นี่คือ เขาจะมี คือ ที่โรงเรียนพระแม่มารี ตอนแรกจะมีแต่วงดุริยางค์
พอตอนหลังก็จะเริ่มมีวงสตริงขึ้นมา เพื่อไม่ให้มีการเบื่อ ก็จะมีครูมาติดป้ายประกาศในโรงเรียนว่า
เออ ใครเล่นดนตรีเป็นก็มาสมัคร พอมี่เข้ามา เขาก็บอกว่า เฮ้ย
ไหวเหรอเนี่ย! เพราะแต่ก่อนผอมมากค่ะ ก็ลองเล่นดู ก็อยู่ได้
2 ปี วงก็ยุบ เพราะว่าครูออกไป ไม่มีใครสอนต่อ ต่อจากนั้น เอ่อ
พอมี่จบ ม.2 ตอนนั้น ที่เล่นดนตรี ถึงม.1 เล่น 2 ปี พอ ม.2 ไม่ได้เล่นอะไร
ก็ จบ ม.2 ไปเรียนต่อที่ซิดนีย์ออสเตรเลีย ก็รู้สึกว่าไม่มีกีต้าร์แล้ว
ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเปิดเพลงฟังธรรมดานี่แหละ มันต้องมีการฟังเพลงเกิดขึ้นนะสักวันหนึ่ง
เราก็เลยรู้สึกว่าเออ คนนี้ร้องเพลงเพราะ ก็เลยอยากร้องตาม ร้องตามก็เลยชอบที่จะร้องเพลง
แล้วก็ฝึกที่จะแกะเพลงคนโน้นคนนี้มาร้อง จนมันกลายเป็นความฝันของเรา
ในที่สุดก็เดินเข้ามาแกรมมี่ มาสมัครร้องเพลง แต่กว่าจะได้ร้องเพลง
ก็รออยู่นาน ความรู้สึกในระหว่างที่รอ ก็ใช้เวลาเป็นเดือนนะคะ
ก็ทุกวัน ทุกวันในเดือนที่มี่รออยู่ ก่อนที่มี่จะได้มาทำเพลงมันก็มีค่า
มันรู้สึกว่าทุกวันของมี่มันต้อง อย่างน้อยมี่ ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรว่า
พี่คะได้ฟังไหมคะหรืออะไรแบบนี้ ถ้าใครที่เป็นเหมือนมี่ ตอนนี้จะเข้าใจไงว่ามันรู้สึกไง
แบบ คือมี่ต้องกลับไปเรียนต่อค่ะ ถ้ามี่ไม่ได้ทำเพลง แต่เผอิญมี่ได้ทำ
นอกจากกีต้าร์แล้วกลองมี่ก็เคยตี ที่มี่ตีกลองเพราะมี่เคยจับแล้ว
มี่ก็อยากจะต่อเนื่องให้มันได้ พอได้นะ มีเรื่องเกี่ยวกับกลอง
อย่างเมื่อวันก่อนนี้ มี่ไปหาซื้อวีดีโอสอนกลอง คนขายเขาก็หยิบเอามือกลองของ
Dream Theater มาให้ โอ้โห กลองมีแบบ 20 ชุด (หัวเราะ) มีแบบเปิดมางงเลย
เฮ้ย บอกว่าเอาเบสิคนะ เอ๊ะ ทำไมมันกลอง 20 กว่าตัว (หัวเราะ)
แบบมีเยอะมากเลยนะ ขำดี แต่ก็ไม่ได้อยากจะตีกลองให้มันเก่งอะไรขนาดนั้น
เอาเรื่องร้องให้มันดีที่สุดดีกว่า มี่ว่า ร้องเพลงนี่ร้องอยู่กับบ้าน
ตอนนี้มี่ต้องมาร้องบนเวที ต้องมาเจอผู้คนหลายๆเรื่อง มี่ต้องปรับความรู้สึก
ของมี่ ทั้งกับใจของมี่ด้วย แล้วก็ความกล้าความอะไรทั้งหลายแหล่
คงต้องมีการฝึกซ้อมให้เยอะขึ้นกว่าเดิม
เรื่องของฮีโร่ที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้มี่ชอบร้องเพลงนั้นก็มีหลายคน
อย่าง Finona Apple,Cranberries จริงๆแล้วก็มีหลายคนนะ แบบ
Input มันเยอะ พ่อแม่ด้วย เป็นเหมือนกำลังใจที่แบบว่า ทำให้มี่รู้สึกว่าตัวเองดีนะ
แบบ เวลาจะเหมือนเราเล่นกีต้าร์ดีอย่างนี้ พ่อแม่ชมแล้ว เรารู้สึกว่าเราเก่งในสายตาของเขาแล้วล่ะ
แล้วเราจะแบบ พรุ่งนี้เราจะเล่นเก่งกว่านี้ เราจะไปโชว์ เผื่อเขาจะพูดอะไรให้มันเพิ่มกว่านี้
แล้วเรารู้สึกสบายใจที่เราได้ยินคือถ้าเขาไม่ให้กำลังใจมี่ก็คงจะไม่มีวันนี้
|