หลักสูตร "เทคนิคการเป็น"ผู้ช่วยดำเนินการ" (Facilitation Skill) 0613



รายละเอียดของหลักสูตร "เทคนิคการเป็น"ผู้ช่วยดำเนินการ" (Facilitators) 0613

(หมายเหตุ นี่เป็นตัวอย่างที่ออกแบบสอนให้ระดับหัวหน้างานบริษัทหนึ่งเท่านั้น - จะอบรมต้อง
กำหนดผลที่ต้องการให้ชัดเจน แล้วจะออกแบบหลักสูตรให้ใหม่ทุกแห่งไป)

* * *
การฝึกอบรมเชิงจำลองสถานการณ์
หลักสูตร "เทคนิคการเป็น"ผู้ช่วยดำเนินการ"(Facilitator) สำหรับหัวหน้างาน"
(HOW TO ENHANCE FACILITATION SKILL)

(หลักสูตรนี้จัดให้กับบริษัทจากเยอรมันที่นิคมอมตนคร)
ก. หลักการและเหตุผล

ในการเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะนำทีมให้เกิดการประชุมที่มีประสิทธิภาพ เกิดการปรับปรุงงาน การให้คำปรึกษาหารือ การแก้ไขปัญหา ไปจนถึงขั้นการวางแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ปฏิบัติงานนั้น ผู้บังคับบัญชาต้องมีทักษะประการหนึ่งที่จำเป็นมากนั่นก็คือทักษะ"การเป็นผู้ช่วยดำเนินการ"(Facilitation Skill) เพราะเป็นทักษะที่ต้องใช้ตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน

การพัฒนาทักษะทางด้านนี้คงต้องเริ่มให้ตระหนักในหลักการบริหารโดยมีส่วนร่วม (Parcipate Management) ว่าผู้ปฏิบัติงานต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการคิดการหาแนวทางการแก้ไข ปัญหาต่างๆโดยตัวของเขาเอง ขอให้ผู้บังคับบัญชาช่วยอำนวยการ(Facilitate) ให้เท่านั้นหลังจากนั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาก็สามารถระดมสมอง หรือช่วยกันคิดค้น หาทางแก้ไขปัญหาได้เองโดยกลุ่มหรือกระบวนการของกลุ่ม(Group Dynamic) ต่อไปเองได้ ทักษะการช่วยอำนวยการ (Facilitation Skill)ที่สำคัญก็คือดำเนินการให้การประชุมต่างๆเกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Most Effective Meeting) และใช้การประชุมนั้นเพื่อประโยชน์ทางการ บริหารได้หลายประการดังกล่าวแล้ว

ในการสอนทักษะการเป็นผู้ช่วยอำนวยการนี้ เพื่อให้เกิดผลที่ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้ ทักษะจากเนื้อหาการสอนแล้ว วิธีที่วิทยากรจะสอนก็จะใช้วิธีการของการเป็น"ผู้ช่วยดำเนินการ" (Facilitator) ด้วย นั่นคือผู้เข้ารับการอบรมจะเห็นวิธีการปฏิบัติด้วย

ข. วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ตระหนักในเรื่องการบริหารโดยมีส่วนร่วม อันประกอบ ไปด้วยเทคนิคย่อยต่างๆมากมายที่จะให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอยากทำงานโดยตัวของเขาเองและเกิด ความภาคภูมิใจในการทำงานนั้นๆให้สำเร็จ
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำการประชุมเพื่อการบริหารด้านต่างๆได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยที่ตัวผู้บังคับบัญชาเองทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ช่วยดำเนินการ (Facilitator)เท่านั้น อันจะส่งผลให้มติใดๆที่ออกจากที่ประชุมได้รับการยอมรับมากขึ้น เพราะมติดังกล่าวเกิดจาก กระบวนการของกลุ่มอย่างแท้จริง
3. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้การใช้เทคนิคการเป็นผู้ช่วยดำเนินการในการ ทำงานประจำวันอื่นๆด้วย เช่นเรื่องของการมอบหมายงาน การวางแผนงาน การบริหารข้อขัดแย้ง การแก้ไขปัญหา ฯลฯ ด้วย
4. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเห็นจากประสบการณ์จริงที่วิทยากรจะใช้เทคนิคนี้มาสอน ก็คือการที่วิทยากรจะเป็นเพียงผู้ช่วยดำเนินการ แต่ก็สามารถก่อเกิดการเรียนรู้ขึ้นได้

ค. โครงสร้างหลักสูตร (2 วัน)

(หัวข้อเหล่านี้วิทยากรจะใช้เทคนิคการช่วยอำนวยการ [Facilitation Skill] มาสอน)
1. (กรณีศึกษา) การบริหารโดยมีส่วนร่วม
2. (แบบฝึกหัด) การจัดลำดับของการมีส่วนร่วมต่อการสร้างขวัญกำลังใจ
3. (ระดมสมอง)ความสำคัญของการประชุมในการทำงานประจำวันของผู้บังคับบัญชา
4. (ระดมสมอง) ปัญหาของการประชุมที่เกิดขึ้น [1] ก่อนการประชุม, ระหว่างการ ประชุม และหลังการประชุม [2] ที่เกิดจากผู้นำประชุม, สมาชิกของการประชุมและ ที่เกิดจากผู้เตรียมการประชุม
5. (จำลองสถานการณ์ [Simulation]) การประชุมที่มีเหตุให้ทุกคนต้องพูด เพราะต่าง มีข้อมูลต่างกันที่ต้องนำมาผสมผสานกันจึงจะหาคำตอบได้
6. (จำลองสถานการณ์)การนำประชุมที่มีข้อขัดแย้ง
7. (ระดมสมอง) สาเหตุของการมีข้อขัดแย้งในที่ประชุม และการแก้ไข
8. (ฝึกปฏิบัติ[Practice]) การประชุมที่มีการตัดสินใจด้วยหลักเกณฑ์ในเชิงปริมาณ
9. (ระดมสมอง) การกำหนดบทบาทในฐานะการเป็นผู้ช่วยดำเนินการ (Facilitator) ในการประชุม เพื่อการนำไปใช้

ง. วิธีดำเนินการ

วิทยากรจะใช้เทคนิคของการเป็นผู้ช่วยดำเนินการ (Facilitator) มาสอนประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ของเวลาทั้งหมด (2 วัน) เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ช่วยดำเนินการ ได้อย่างแท้จริงทั้งจากเนื้อหาของการอบรม และจากวิธีการที่วิทยากรใช้ตลอดเวลาของการอบรม ด้วย อันจะได้ประสบการณ์ตรงอีกประการหนึ่ง

 

แบบสอบถามความเข้าใจและแนวทางปฏิบัติของการอบรมเรื่อง
"TOPIC : HOW TO ENHANCE FACILITATION SKILL"

สอบถามในเชิงความเชื่อเกี่ยวกับ Facilitation Skill เพราะความเชื่อจะสร้างพฤติกรรม (Belief forms Behavior) แบบสอบถามต่อไปนี้มีคำตอให้ท่านเลือก 2 คำตอบคือ : -

  • ถ้าท่านเห็นด้วยกับว่าคำกล่าวต่อไปนี้ก็ให้วงเล็บตัวอักษร A (Agreement)
  • ถ้าท่านไม่เห็นด้วยว่าคำกล่าวต่อไปนี้ก็ให้วงเล็บอักษร D (Disagreement)

    1. ผู้บังคับบัญชาสามารถดำเนินการต่างๆให้สำเร็จได้ดีกว่าถ้าหัวหน้างานสั่งลงไปเลย A D
    2. การที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกสะดวกในการทำงานก็คือการบอกให้ทำตามที่หัวหน้าสั่ง A D
    3. ในการประชุมหารือหัวหน้างานต้องขายความคิดของตนในที่ประชุมเป็นส่วนใหญ่ A D
    4. การประชุมที่หัวหน้างานสามารถทำให้เกิดผลสรุปที่ดี คือทักษะด้าน Facilitation A D

    5. ลูกน้องจะพอใจมากกว่าถ้าเขาได้ร่วมหารือ และได้ร่วมกันให้ข้อคิดเห็น A D
    6. ทักษะในการเป็น Facilitator ก็คือการประคับประคองกลุ่มให้ประชุมกันอย่างได้ผล A D
    7. การเป็น Facilitator ที่ดีจะสร้างให้เกิดการบริหารโดยมีส่วนร่วม A D
    8. การเป็น Facilitator ที่ดีในการประชุม คือการรับฟังจากสมาชิกกว่าการชี้นำ A D
    9. ทักษะการเป็น Facilitation ที่ดีใช้ได้เฉพาะในการประชุมเท่านั้น A D
    10. ทักษะการเป็น Facilitator ที่ดีจะสร้างความเป็นผู้นำให้กับหัวหน้างานด้วย A D
    11. งานของ Facilitator ก็คือจัดงานออกมาให้สำเร็จให้ได้ โดยให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม A D
    12. Facilitation Skill ของหัวหน้างานจะทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การสื่อสารใน การประชุมดีขึ้น และทำให้ทุกคนมีทัศนคติต่อการประชุมดีขึ้น A D
    13. ถ้าผู้นำประชุมเป็น Facilitator ที่ดีจะไม่ปล่อยให้การประชุมถกกันด้วยอารมณ์ แต่จะช่วย กันหาทางออกที่ดีร่วมกัน A D
    14. การทำงานตามปรกติ หัวหน้างานก็สามารถประยุกต์ใช้ทักษะของการเป็น Facilitator ได้เช่น เดียวกัน A D
    15. หากจะสอน Facilitation Skill นั้นผู้สอนต้องพูดและต้องบรรยายเป็นส่วนใหญ่ A D
    17. การที่จะเป็น Facilitator ที่ดีต้องการอาศัยการฝึกฝน การทดลองนำมาใช้อยู่ตลอดเวลา A D
    18. Facilitation Skill เท่าที่ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องความสามารถเฉพาะตัวมากกว่าได้จากการฝึกหัด A D
    19. การเป็น Facilitator ที่ดีเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับหัวหน้างานระดับต้นเท่านั้น A D
    20. การเป็น Facilitator ที่ดีต้องถือปฏิบัติตามที่ลูกน้องว่ามาทั้งหมด เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว A D

     

    กลับไปหน้าแรก Menu 6
    กลับไปหน้าแรของ Web site