Thai Student Association of South Florida ????????????????????????????? | Home | South Florida | Thai Student Associations | Royal Thai Embassy | ภาษาไทย 

Thailand Main Menu

 Mission

 Members

 Photos

 Events

 Message Board

 Guest Book

 Job Posting

 Bookmark This Site

USA ??????? Studying In USA

 Studying in USA

 Study Tips

 South Florida

 Florida Colleges

 Thai Schools

 Thai Embassy

 Thai Consular in USA

 Thai Restaurants

 Thai Business Listing 

 TSA Links

 Export Guide

 Free Scholarships

 U-Promise Funds

What's New Links

 Useful Links

 Thai Grocer

 Cooking Thai

 Thai Recipe

 DV-2009New

 Affiliate Program

 

Personal Effects Export Guide (U.S.-Thailand)

วิธีการส่งของใช้ส่วนตัวจากสหรัฐอเมริกากลับประเทศไทย

  1. คำนำ
  2. พิกัดอัตราศุลกากร-สินค้ายกเว้นภาษีอากร
  3. ใบประกอบการขนส่ง BILL OF LADING
  4. การทำประกันภัย INSURANCE
  5. พิธีการศุลกากร
  6. หลักการส่งของ
  7. อัตราค่าขนส่ง
  8. สัดส่วนของตู้ CONTAINER
  9. สถานีรับของปลีกย่อย
  10. ขั้นตอนเตรียมการขนส่ง
  11. ตัวอย่างใบประกอบการขนส่ง Bill of Lading
  12. สิ่งของต้องห้ามนำกลับ

กลับขึ้นด้านบน

พิกัดอัตราศุลกากรสินค้ายกเว้นภาษีอากร

     ของใช้ในบ้านเรือนที่ใช้แล้วทีเจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตน เนื่องใน การย้ายภูมิลำเนา และมีจำนวนพอสมควรแก่ฐานะ

หมายเหตุ :ของส่วนตัวและของใช้ในบ้านเรือน จะต้องนำเข้ามาถึง ประเทศไทยไม่เกินหนึ่งเดือน ก่อนที่ผู้นำของเข้าเข้ามาถึง หรือไม่เกิน 6 เดือนนับแต่ วันที่ผู้นำของเข้า เข้ามาถึง อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจขยายกำหนดเวลาดังกล่าว ข้างต้นได้ เมื่อเห็นว่ามีพฤติการณ์พิเศษ

     ข้อความข้างต้นคือข้อกฏหมายที่คัดออกมาจากพิกัดอัตราศุลกากร เพื่อ ที่จะให้นักศึกษารับทราบไว้เป็นแนวทางปฏิบัติ และเข้าใจในระเบียบที่ระบุ ไว้จึงขออธิบายเพิ่มเติม

ของใช้ในบ้านที่ใช้แล้ว

     คือสิ่งของทุกๆ อย่าง ที่อยู่ในความครอบครองของนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องมือประกอบการเรียน เครื่องเสียง เครื่องครัว และ ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนของที่ใช้แล้ว ตามความเข้าใจและอาจจะยึดถือเป็นข้อปฏิบัติ คือสิ่ง ของทุกอย่างที่นักศึกษาได้จัดหาซื้อมาและได้ถูกนำมาใช้งานแล้ว แต่ในกรณีที่เป็นของ ใหม่แต่ยังไม่ได้ใช้งาน ก็ควรจะเปิดและแกะออกจากหีบห่อ และใส่กลับเข้าไปใหม่ หรืออาจจะนำออกมาใช้งานชั่วคราวก่อนที่จะใส่กลับไปในหีบห่อเดิม

จำนวนสมควรต่อฐานะ

     หมายความว่า สิ่งของใช้และภาชนะต่างๆ จะต้องไม่มากกว่าหรือเกินความ จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุด COMPUTER, HOME ENTERTAINMENT หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไม่ควรจะเกิน 1 ชุดต่อคน แต่ในกรณีที่มี จำนวนมากกว่า จะอยู่ในดุลยพินิจของอธิบดีกรมศุลกากร จะรับพิจารณาตามแต่จะเห็น สมควร นักศักษามืสิทธิที่จะส่งของกลับได้เกินกว่า 1 ครั้ง ครั้งแรกของจะต้อง ถึงกรุงเทพฯไม่เกินหนึ่งเดือนก่อนที่ตัวเองจะมาถึง ครั้งต่อไปหรือครั้งสุดท้ายจะต้อง ไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันที่ผู้นำของเข้ามาถึง ในกรณีนี้นักศึกษาจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรรับทราบ และประทับตรา บนหนังสือเดินทางว่าจะมีสิ่งของตามมาภายหลัง

     หมายเหตุ : ของใช้ส่วนตัวภายในครัวเรือน ได้แก่ รถยนต์ อาวุธปืน และกระสุน และสิ่งของที่เกินความจำเป็น อันอาจจะนำมาขายต่อในตลาดหรือในรูป ของพัสดุสินค้า จะไม่ได้รับการยกเว้นการเสียภาษีอากรนำเข้า


กลับขึ้นด้านบน

ใบประกอบการขนส่ง (BILL OF LADING)

     BILL OF LADING ตามตัวอย่างที่แนบอยู่ในสมุดคู่มือ เป็น STANDARD สากลที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก การขนส่งสินค้าไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใด รวมถึงของใช้ส่วนตัว (PERSONAL EFFECT) จะต้องมีใบ BILL OF LADING ซึ่งทางบริษัท FREIGHT FORWARDER จะต้องออกให้กับผู้ส่งของออก (นักศึกษา) ทุกครั้งไปโดยไมีมีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่า BILL OF LADING เป็นหลักฐานการรับของและจัดส่งฉบับเดียว ที่ระบุชื่อของผู้ส่งและผู้รับ ประกอบกับรายการสั่งของ ส่งของ ชื่อสายการเดินเรือ และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของ ไม่สามารถจะนําไปใช้ได้ ตามหลักปฏิบัติสากล บริษัท FREIGHT FORWARDER จะต้องทํา BILL OF LADING ซึ่งประกอบด้วย 3 ORIGINAL และ 3 NON- NEGOTIABLE ให้กับผู้ส่งไว้เป็นหลักฐานในวันที่เรือออกจากท่าเรือ เมื่อได้รับ BILL OF LADING แล้ว ผู้ส่งจะต้องตรวจดูรายละเอียดต่างๆ ที่ระบุไว้ใน BILL OF LADING

ข้อสําคัญที่จะต้องตรวจดูเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

  1. ฃื่อและที่อยู่ของผู้ส่งออก
  2. ชื่อและที่อยู่ของผู้รับของ (ประเทศไทย)
  3. รายการสิ่งของ DESCRIPTION OF GOODS
  4. จํานวนชิ้นหรือหีบห่อ
  5. สัดส่วนของที่ส่ง MEASUREMENT
  6. ปริมาตรของ VOLUME IN CUBIC FEET/ CUBIC METRE
  7. อัตราค่าขนส่งที่ได้ตกลงกันไว้
  8. หลักฐานการจ่าย อัตราค่าขนส่งที่ต้นทางหรือปลายทาง
  9. สายการเดินเรือและกําหนดวันเรือออกจากท่า
     ทุกครั้งที่ติดต่อหรือได้รับการติดต่อจากบริษัท FREIGHT FORWARDER สิ่งแรกสุดจะต้องถามให้แน่ชัดว่า ทางบริษัทนั้นมี BILL OF LADING ออกให้หรือเปล่า เพราะการออก BILL OF LADING เป็นข้อพิสูจน์ว่า บริษัท FREIGHT FORWARDER นั้นไม่มีเจตนาที่จะลักลอบนําสินค้าของใช้ของบุคคลอื่นเข้ามา ปะปนกับของของผู้ซื้อหรือนำเข้า

      การที่บริษัท FREIGHT FORWARDER ไม่มีหรือไม่ยอมออก BILL OF LADING ให้ถือว่าเป็นการกระทําที่ผิดต่อกฏหมายว่าด้วยการขนส่งระหว่าง ประเทศ และมีการกระทําที่ส่อไปในทางทุจริต BILL OF LADING เป็นหนังสือ รับรองฉบับเดียวที่ผู้รับจะนํามาใช้ประกอบพิธีการศุลกากร

กลับขึ้นด้านบน

ตัวอย่าง Bill of Lading


Bill of Lading

กลับขึ้นด้านบน

การทำประกันภัย (INSURANCE)

     บริษัทประกันภัย INSURANCE ไม่มีหลักการที่จะกำหนดหรือประเมินราคา ที่แท้จริงของของใช้ส่วนตัวเป็นที่แน่นอน จึงตั้งอัตราค่าประกันภัยหรือสูญเสียไว้สูงมาก ทางบริษัทสยามฯ จึงเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำใบประกันภัยเพราะว่าในกรณีที่ เกิดการเสียหายหรือสูญหายในช่วงระยะของการขนส่ง บริษัท FREIGHT FORWARDER จะต้องรับผิดชอบตามข้อสัญญาที่ระบุไว้ด้านหลังของ BILL OF LANDING

     อนึ่ง การประกันภัย ทางบริษัท FREIGHT FORWARDER จะต้องออก ใบประกันภัย โดยใช้แบบฟอร์มของบริษัทประกันภัยเป็นหลักฐานไม่ใช้ข้อเขียนหรือ สัญญาในแผ่นกระดาษที่บริษัทเป็นผู้ออกให้
     ฉะนั้น จึงขอให้นักศักษาเพิ่มความระมัด ระวังเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยนี้ด้วย

กลับขึ้นด้านบน

พิธีการศุลกากร

     ที่ท่าเรือคลองเตยหรือสถานีที่เก็บของเอกชนต่างๆ บริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ จะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรแผนกขาเข้าประจําอยู่ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับผู้รับ (นักศึกษา) ที่นําของใช้ส่วนตัวเข้า ฉะนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการออก ของจากบริษัท SHIPPING ที่ท่าเรือ ซึ่งเป็นการเสียเงินค่าบริการโดยเปล่าประโยชน์

หลักฐานการทำพิธีการออกของที่ผู้รับจะต้องนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย

  1. หนังสือเดินทาง
  2. ใบ D.O. (DELIVERY ORDER) รับได้จากบริษัทตัวแทนที่กรุงเทพฯ
  3. ใบ BILL OF LADING
  4. PACKING LIST, หนังสือแจ้งรายการของใช้ส่วนตัว
     ในกรณีที่ผู้รับคิดว่ามีของต้องภาษี ซึ่งไม่ได้อยู่ในพิกัดยกเว้นอากร ดังที่ กล่าวไว้แล้วตอนต้น หรือไม่มีเวลาที่จะดำเนินพิธีการด้วยตัวเอง และจำเป็นต้อง การใช้บริการของบริษัท SHIPPINING เป็นตัวแทนออกของให้

กลับขึ้นด้านบน

ขอแนะนำแนวทางปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. ให้บริษัท SHIPPING เขียนแจ้งค่าบริการออกของเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนดำเนินพิธีการ
  2. ยื่นรายการของใช้ที่นำมาทั้งหมด (PACKING LIST) ให้บริษัท SHIPPING ตรวจสอบว่ารายการใดจะต้อง หรือคิดว่าอยู่ในเครือข่ายต้องเสียภาษี และจะอยู่ในอัตราประเมินเท่าไร ทั้งนี้พื่อป้องกันการผิดพลาดในภายหลัง อาจทำให้ นักศึกษาจะไม่มีทางเลือก นอกจากชำระเงินให้กับ SHIPPING ตามจำนวนที่เรียกร้อง
  3. หลักจากพิธีการแล้วเสร็จ ผู้รับสามารถนำรถส่วนตัวเข้ามารับของที่กรม ศุลกากรได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้บริการขนส่งอื่นๆ

กลับขึ้นด้านบน

หลักการส่งของ

ที่ใช้อยู่ในวงการ FORWARDERS จะแยกออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
  1. ส่งปลีกย่อย (LESS THAN CONTAINER LOAD -LCL) สำหรับ จำนวนของที่มีไม่มากพอที่จะบรรจุให้เต็มตู้ ู CONTAINER ของที่นักศึกษาจัดส่ง ไปยังสถานีที่รับของ (RECEIVING TERMINAL) ในจุดต่างๆ จะต้องบรรจุในกล่อง กระดาษที่แข็งแรงหรือกล่องเดิมของภาชนะหรืออยู่ในลังไม้เท่านั้น บริษัทฯ จะไม่รับ ของต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในหีบห่อ ดังเช่น โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน ทีวี หรือภาชนะอื่นๆ ทั้งนี้ เพราะบริษัทฯไม่สามารถรับรองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  2. ส่งเต็มตู้ (FULL CONTAINER LOAD -FCL) ในกรณีที่นักศึกษา ครอบครัวของนักศึกษา หรือครอบครัวของคนไทยทั่วไป ต้องการขนย้ายสิ่งของทุก อย่างในครัวเรือน ซึ่งมีจำนวนมากพอที่จะบรรจุให้เต็มตู้ CONTAINER ได้ การส่ง เต็มตู้ คือการเหมาตู้ CONTAINER เป็นของตนเอง บริษัท FORWARDERS ไม่มีสิทธิ ใดๆ ที่จะนำสิ่งของผู้อื่นเข้ามาปะปนหรือรวมส่งด้วย
     การเหมาตู้ คือบริษัท FORWARDERS จะจัดส่งตู้ตามขนาด CONTAINER ที่ต้องการไปให้ยังที่พักอาศัย หรือสถานที่เก็บของ แต่ก่อนที่จะนำตู้ CONTAINER ส่งไปให้ยังสถานที่นั้นๆ นักศึกษาจะต้องปฏิบัติตามกฏของแต่ละ สถานที่นั้น เช่น
  • ก. มีป้ายห้ามรถบรรทุกหนักเกินพิกัดเข้าไปในถนนนั้น มีป้ายห้ามจอด (NO PARKING) ของท้องถนน หรือบริเวณที่พักจะต้องจอดตู้ CONTAINER หรือเปล่า
  • ข. ควรจะแจ้งกับเพื่อนบ้าน (NEXT DOOR NEIGHBOR) ว่าเรา จะมีการย้ายกลับและมีความจำเป็นต้องนำตู้ CONTAINER มาตั้งทิ้งไว้ชั่วคราว
  • ค. แจ้งให้หรือปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือ LOCAL SHERIFF STATION ถึงความจำนงที่จะนำตู้ CONTAINER มาตั้งชั่วคราว
  • ง. ถ้าเป็นไปได้ควรจะให้ตู้ CONTAINER ตั้งใน DRIVEWAY ของสถานที่จัดเก็บสิ่งของเพื่อที่จะได้ไม่ให้กีดขวางทางจราจรบนพื้นถนนสาธารณะ

    หมายเหตุ ในกรณีที่ตู้ CONTAINER ถูก CITATION นักศึกษาจะ ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง
  • จ. จะต้องจดจำนวนของทุกชิ้น ที่บรรจุใส่ในตู้ CONTAINER ไม่ว่า ของเหล่านั้น จะเป็นอะไร ขนาดไหน กฎหมายของกรมศุลกากรต้องการจำนวนชิ้น ทั้งหมดลงไว้เป็นหลักฐานใน BILL OF LADING
  • ฉ. บริษัทรถ TRUCK ที่นำตู้ CONTAINER มา จะมี SEAL มา ด้วย นักศึกษาจะต้องใช้ SEAL นี้ปิดประตูตู้ CONTAINER เมื่อทำการบรรจุสิ่ง ของทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่บริษัท จะลากตู้ออกไปให้จดเบอร์ SEAL ไว้เป็น หลักฐาน เพราะว่าเบอร์ SEAL จะต้องถูกระบุไว้ในใบ BILL OF LADING
  • ช. ตู้ CONTAINER ทุกตู้จะมีเลขหมายทะเบียนของตู้เขียนติดไว้ ในกรณีที่ไม่เห็นเลขทะเบียนของตู้ให้ถามได้จากพนักงานขับรถนั้นๆ เข่นกัน จดหมาย- เลขทะเบียนตู้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อระบุไว้ใน BILL OF LADING เช่นเดียวกัน
  • ซ. เป็นหน้าที่รับผิดชอบของนักศึกษาในการบรรจุสิ่งของต่างๆ เข้าไป ในตู้ CONTAINER ว่าจะจัดระวางอย่างไร สิ่งใดควรจะอยู่ล่างหรือบน ทุกอย่างขึ้น อยู่กับดุลยพินิจของนักศึกษาเอง อย่าลืมว่าของทุกอย่างภายในตู้ CONTAINER จะต้องมีการเคลื่อนไหวในขณะขนถ่ายจากบ้านไปจนถึงท่าเรือที่กรุงเทพฯ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ อันเนื่องมาจากการบรรจุ เข้าตู้ไม่ถูกต้อง ยกเว้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ซั่งผู้รับงานของบริษัท FORWARDERS ก่อขึ้นเอง

กลับขึ้นด้านบน

อัตราค่าขนส่งและวิธีคำนวณ

กำหนดอัตราค่าขนส่งที่นักศึกษาต้องชำระมีดังนี้ 
  1. ค่าขนส่งจากสถานีรับของต้นทาง จนกระทั่งถึงท่าเรือกรุงเทพฯ ที่ระบุไว้ใน BILL OF LADING
  2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องชำระให้กับตัวแทนรับของที่กรุงเทพฯ
- ค่า D.O. (DELIVERY ORDER) = BAHT 600.00 ต่อ BILL OF LADING
- ค่า TERMINAL CHARGE = BAHT 100.00 ต่อ CUBIC METER
- ค่า CFS = BAHT 235.00 ต่อ CUBIC METER

     หมายเหตุ กรมศุลกากร อนุญาติให้เก็บของไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน หลังจากนั้น ผู้ส่ง/ผู้รับของ จะต้องจ่ายค่าเก็บของเกินเวลา (DEMURAGE CHARGE) ให้กับ กรมศุลกากร

กลับขึ้นด้านบน

วิธีคำนวนลูกบาศก์ฟุต

1. ลูกบาศก์ฟุต เท่ากับ 1,728 ลูกบาศก์นิ้ว
1. ลูกบาศก์เมตร เท่ากับ 35,314 ลูกบาศก์ฟุต

      ตัวอย่าง
      ส่วนสัดของของบน SKID ไม้
      สูง 60 นิ้ว, กว้าง 48 นิ้ว, ยาว 40 นิ้ว =       60 X 48 X 40 = 11520 ลูกบาศก์นิ้ว

      หรือเท่ากับ 11520/1728 = 67 ลูกบาศก์ฟุต

      หรือเท่ากับ 67/35.314 = 2 ลูกบาศก์เมตร

     นักศึกษาอาจจะใช้สูตรนี้คำนวณปริมาตรของของที่จะส่งโดยจากการวัด สัดส่วนของแต่ละกล่อง และนำมาบวกกันเข้าทั้งหมด แต่ทุกครั้งผู้ส่งจะต้องบวกอัตรา ค่าขนส่ง เพิ่มเข้าไปอีก 15 เพราะเนื้อที่ส่วนสัดของสิ่งของจะใช้เนื้อที่เพิ่มขึ้น เมื่อต้องนํา สิ่งของแต่ละกล่องขึ้นจัดวางบนไม้ เพื่อความเหมาะสมในการขนส่งแต่ละครั้ง

  1. ส่งแบบปลีกย่อย อัตราค่าขนส่งจากแต่ละสถานีรับของจะไม่เหมือนกัน (ดูอัตราค่าขนส่งหน้า 14-15) และคำนวณจากลูกบาศก์ฟุต (CUBIC FOOT) ที่วัดได้หลังจากที่นำของ ใช้ต่างๆ วางบน PALLET หรือ SKID ไม้ ส่วนสัดจากการวัด คือ ความสูง, ความกว้าง, และความยาว จะถูกระบุไว้ใน BILL OF LADING เป็นหลักฐาน

          ตัวอย่าง

    ของทั้งหมดหลังจากการวางเรียงซ้อนกันบน SKID ไม้วัดได้ ส่วนสูง 60 นิ้ว X กว้าง 48 นิ้ว X ยาว 40 นิ้ว หารด้วย 1728 ผลลัพธ์ คือ 67 ลูกบาศก์ฟุต (CUBIC METER/CBF)

    อัตราค่าขนส่ง $4.00 ต่อลูกบาศก์ฟุต

    ฉะนั้น อัตราค่าขนส่งทั้งหมด คือ 67 X 4.00 = $ 268.00

    นี่คือราคาค่าขนส่งทั้งหมดจากสถานีรับของนั้นถึงท่าเรือกรุงเทพฯ และ เป็นราคาที่ระบุไว้ใน BILL OF LADING

     

  2. ส่งแบบเต็มตู้       อัตราค่าขนส่งเต็มตู้จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดของตู้ CONTAINER และสถานที่ใช้บริการ (LOADING SITE) นักศึกษาจะต้องสอบถามราคาตู้ CONTAINER กับบริษัทก่อนที่จะใช้บริการทุกครั้งไป โดยทั่วๆไป ราคาค่า ตู้ CONTAINER ที่ตกลงกันไวัจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นในกรณีที่ผู้ส่งเก็บตู้ CONTAINER ไว้เกินวันที่กำหนดไว้

กลับขึ้นด้านบน

สัดส่วนของตู้ CONTAINER

ตู้ ขนาด 20 ฟุต สัดส่วน : ยาว 20 ฟุต สูง 8 ฟุต กว้าง 8 ฟุต
นํ้าหนักบรรจุ : 34,000 LBS
ปริมาตรบรรจุ : 900 ลูกบาศก์ ฟุต
สูงจากพื้นดิน : 52 นิ้ว
ตู้ ขนาด 40 ฟุต สัดส่วน : ยาว 40 ฟุต สูง 8 ฟุต กว้าง 8 ฟุต
นํ้าหนักบรรทุก : 45,000 LBS
ปริมาตรบรรจุ : 1,800 ลูกบาศก์ ฟุต
สูงจากพื้นดิน : 52 นิ้ว

** คํานวณจากพื้นของ CONTAINER ตั้งอยู่บน CHASIS สัดส่วนของ Skid ไม้มาตรฐานที่ใช้กันทั่วๆ ไป
skid

 


กลับขึ้นด้านบน

สถานีรับของปลีกย่อย LCL RECEIVING TERMINAL)

STATE T/T SHIPPING CITIES (TERMINAL)
ALABAMA 32 BIRMINGHAM, MOBILE, MONGOMERY
ARIZONA 27 PHOENIX, TUESON
ARKANSAS 31 LITTLEROCK
CALIFORNIA 21 LOS ANGELES, SAN FRANCISCO, SAN DIEGO
COLORADO 27 DENVER
CONNECTICUT 33 PROVIDENCE, HARTFORD, BRIDGEPORT
FLORIDA 32 MIAMI, ORLANDO, TAMPA, JACKSONVILLE, TALLAHASEE
GEORGIA 31 ATLANTA, SAVANNAH, AUGUSTA
IDAHO 31 BOISE
ILLINOIS 30 CHICAGO, URBANA, ST. LOUIS (MO.)
INDIANA 31 INDIANAPOLIS
IOWA 31 DES MOINES, CEDAR RAPIDS
KANSAS 30 WICHITA, KANSAS CITY, MANHATTAN
KENTUCKY 32 LOUISVILLE, LEXINGTON
LOUISIANA 31 NEW ORLEANS, BATON ROUGE
MAIN 33 PORTLAND
MARYLAND 33 BALTIMORE, WASHINGTON
DELAWARE 33  
MASSACHUSETTS 32 BOSTON
MICHIGAN 31 BETROIT, GRAND RAPIDS, KALAMAZOO
MINNESSOTA 31 MINNEAPOLIS, DULTUTH
MISSOURI 31 ST. LOUIS, KANSAS CITY
MISSISIPPI 31 JACKSON
MONTANA 30 GREATFALLS, BILLINGS
NEBRASKA 31 OMAHA
NEW HAMSHIRE 33 CONCORD
VERMONT 33  
NEW JERSEY 31 NEWARK
NEW YORK 31 NEWARK, ROCHESTER
NEW MEXICO 29 ALBUGUERQUE
NORTH DAKOTA 30  
NORTH CAROLINA 31 RALEIGH, CHARLOTTE, GREENBORO
OHIO 31 CLEVELAND, COMLUMBUS, CINCINNATI, DATON
OKLAHOMA 29 OKLAHOMA CITY
OREGON 28 PORTLAND, EUGENE, SALEM
PENNSLYVANIA 32 PITTSBURGH, WILLIMASPORT, PHILADELPHIA
SOUTH CAROLINA 31 GREEN VILLE, SAVANNAH, CHARLESTON, COLUMBIA
SOUTH DAKOTA    
TENNESSEE 31 NASHVILLE, MEMPHIS, KNOXVILLE
TEXAS 29 DALLAS, HOUSTON, AUSTIN, LUBBOCK
VIRGINIA 31 RICHMOND, CHARLESTON, WASHINGTON D.C.
WASHINGTON 29 SEATTLE, SPOKANE
WISCONSIN 30 MADISON, MILWAUKEE
หมายเหตุ วันปิดรับประจำอาทิตย์ คือวันสุดท้ายที่จะรับของอาทิตย์นั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พลาดตารางเรือในวันดังกล่าว นักศึกษาควรจะนำ ของมาส่ง ๑ วันล่วงหน้า
T/T หมายถึงระยะเวลาเดินทางจากวันปิดรับจากแต่ละสถานีรับของ จนถึงกรุงเทพฯ
อัตราค่าขนส่ง

กรุณาโทรติดต่อบริษัทสยามฯ หมายเลข
โทร 310-338-1284 หรือ Toll free : 1 866 338 1284 หรือ EMAIL: SIAMINT@AOL.COM


กลับขึ้นด้านบน

ขั้นตอนเตรียมการขนส่ง

     ก่อนอื่นขอให้นักศึกษาทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่งกับสิทธิต่างๆ ตามกฏหมาย ที่ระบุไว้ในตอนต้นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะนำของใช้ส่วนตัวอะไรกลับ หรือจะซื้อของ ใช้เพิ่มเติม ดังเช่น เครื่องสุขภัณฑ์ เสื้อผ้า ตำราหนังสือเรียน เครื่องเสียง เครื่องกีฬา เครื่องใช้ในครัว และอื่นๆ แต่เนื่องจากระบบไฟฟ้าในสหรัฐฯ และประเทศไทยแตกต่างกัน นักศึกษาต้อง ไตร่ตรองให้รอบคอบ

ก่อนที่จะนำเครื่องใช้ที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้ากลับ

  1. SMALL KITCHEN APPLICANE ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ถึงแม้ว่า เป็นระบบ 110w/60HZ ก็สามารถนำไปใช้งานต่อที่เมืองไทย โดยใช้ TRANS-FORMER เป็นตัวแปลงไฟฟ้า
  2. VACUUM CLEANER ใช้ในเมืองไทยได้โดยใช้ TRANSFORMER การแปลงไฟ แต่แรงดูดจะไม่ดีเท่าที่ควร หมายเหตุ ถ้าจะนำกลับควรจะซื้อ SPARE VACUUM BAG ไว้เผื่อ ให้มาก ในกรณีที่รุ่นนี้ไม่มีขายในเมืองไทย
  3. TELEVISION ที่ใช้ในสหรัฐฯ เป็นระบบ NTSC แต่แตกต่าง กับระบบ PAL ที่ใช้อยู่ในเมืองไทย ฉะนั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะนำกลับ
  4. เครื่องเสียงทุกชนิด AUDIO/VIDEO ใช้ TRANSFOR เปลื่ยน ระบบไฟฟ้าเป็น 220w ได้ โดยจะไม่ EFFECT SOUND SYSTEMS
  5. COMPUTER ที่มีอยู่แล้วนำไปใช้งานที่เมืองไทยได้ โดยการใช้ TRANSFORMER แต่ถ้าคิดจะซื้อใหม่ ควรสอบถามราคาในเมืองไทยก่อน เพราะ อาจจะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า
  6. WASHER/DRYER/REFRIGERATOR ตัว TRANSFORMER ทำหน้าที่แปลงไฟอย่างเดียว แต่ไม่สามารถเปลี่ยนระบบ HZ หรือ CYCLE ของไฟฟ้าได้ ฉะนั้น จะทำให้เครื่องดังกล่าวทำงานไม่ครบวงจร และเกิด การเสียหายขึ้นได้ภายหลัง ฉะนั้น จึงไม่ควรนำกลับ
  7. ข้อคิดทั่วไป สำหรับนักศึกษา เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้พิจารณาถึงยี่ห้อหรือรุ่นที่เป็นนิยมในเมืองไทย กรณีที่เกิดปัญหากับเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าว และต้องหาศูนย์บริการหลังการขาย (หรืออะไหล่)
     ของทุกอย่างที่จะนำกลับ จะต้องบรรจุลงในหีบห่อหรือกล่องที่เหมาะสมกับ สภาพของของ และควรใช้กล่องเดิมที่มีอยู่ถ้าเป็นไปได้ หาซื้อกล่องกระดาษได้จาก บริษัท PACKING COMPANY ทั่วๆไป หรือจากบริษัท U-HAUL

ก่อนที่จะบรรจุหีบห่อให้นักศึกษาปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
  1. ทำรายการของที่บรรจุลงไปในแต่ละกล่อง พร้อมกับเขียนหมายเลข กำกับไว้บนกล่อง

    ตัวอย่าง เช่น จำนวนทั้งหมด 20 กล่อง
    หมายเลขกล่องแรก 1/20 เสื้อผ้า
    หมายเลขกล่องที่สอง 2/20 หนังสือเรียน
    หมายเลขกล่องที่สาม 3/20 ของใช้ส่วนตัว

    ทำรายการดังกล่าวจนกระทั่งครบ 20 กล่อง 

  2. เขียนรายการของไว้ในแผ่นกระดาษ เพื่อเก็บไว้ใช้ในขั้นตอนพิธี ศุลกากรที่กรุงเทพฯ
  3. เขียนชื่อและนามสกุล พร้อมกับที่อยู่ในเมืองไทยเป็นภาษาอังกฤษ บนทุกกล่อง
  4. คำนวณปริมาตรของหีบห่อทั้งหมด และแจ้งให้กับบริษัทสยามฯ เพื่อที่จะทำ BOOKING กับบริษัทเดินเรือ
  5. ให้เขียนเบอร์ BOOKING NUMBER ที่ได้รับจากบริษัทสยามฯ ลงไปทุกกล่อง
  6. เมื่อนำของไปส่งสถานีรับของที่กำหนดไว้ ทางสถานีรับของจะออก ใบเสร็จรับของให้ไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบดูว่าจำนวนหีบห่อครบตามจำนวนที่นำมา ส่ง
     ในวันที่ทำ BOOKING เรือ บริษัทจะบอกกำหนดวันเรือออกจาก ท่าเรือ LOS ANGELES และวันถึงท่าเรือกรุงเทพฯ บริษัทจะออก BILL OF LADING ในวันที่เรือออกจาก LOS ANGELES และจัดส่งให้นักศึกษาถ้ายัง อยู่ที่สหรัฐฯ หรือส่งเอกสารเข้ากรุงเทพฯถ้าต้องการ

     ในขณะอยู่ที่กรุงเทพฯ และอย่างน้อย ๗ วันก่อนกำหนดเรือเข้าท่าเรือ กรุงเทพฯ ให้ติดต่อกับตัวแทนของบริษัทที่กรุงเทพฯ เพื่อสอบถามกำหนด วันเรือเข้าที่แน่นอน และขั้นตอนของพิธีการต่างๆ ที่จะต้องปฏิบัติต่อไป


กลับขึ้นด้านบน

สิ่งของต้องห้ามนำกลับ

  1. อาวุธปืน กระสุนปืน และดินปืน
  2. สารเคมีทุกชนิด ที่มีฉลากติดอยู่ หรือป้ายกํากับ
  3. นํ้ามันเชื้อเพลิงทุกชนิด
  4. แบตเตอรี่ (Battery (wet))
  5. ภาชนะหรือสินค้าที่มีฉลากหรือข้อความ ระบุคําว่า “U.N.” หรือ “CLASS”
Please send mail to with questions or comments about this site.
© 2001-2006 Thai Student Association of South Florida.  All Rights Reserved.