:: ท. เที่ยว ::

» ซำบายดี…ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม
วัน พฤหัสบดี ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2546

เราจะต้องอำลาวังเวียงในเช้านี้แล้ว ตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะได้ทันรถเที่ยวที่จะไป หลวงพระบาง ก่อนอื่นต้องหาอะไรใส่ท้องเสียก่อนเพราะจะต้องเดินทาง 7 ชม. ฟังดูมาราธอนเหลือเกิน นี่ขนาดมาวังเวียง 4 ชม. ยังเกือบ จะอ้วกแล้ว และถ้าหากไปหลวงพระบางมันจะเหลือเร้อ.... ผมให้ปานปอกแอปเปิลให้ลูกนึง เดินเคี้ยวมาที่ท่ารถ พอดีรถเมล์ที่จะไปหลวงพระบางกะลังจอดอยู่ เลยเข้าไปซื้อตั๋ว ในราคา 40,000 กีบต่อคน จนเลยล่ะ..... ผู้โดยสารส่วนมากจะเป็นฝรั่ง มีบ้างที่เป็นคนลาว เราได้ที่นั่งคู่ ( คู่ทุกที่ )เกือบจะท้ายรถ ว่าถึงสภาพรถแล้วดีพอสมควร เบาะนั่งก็พอดี ขนาดรถก็กระทัดรัดพอดี ที่นั่งไม่มากจนเกินไปอย่างในไทยเรา หน้าต่างเป็นแบบเลื่อนไปมา แบบเดียวกับรถตู้ ก่อนออกรถก็จะมีการมาเช็คจำนวนคนเสมอ เพื่อป้องกันการตกรถ พนักงานขึ้นมาเช็คแล้วทำหน้างง... ต่างชาติหายไปหนึ่ง...รออยู่ 10 นาทีไม่เห็นมาเลยขึ้นมาเช็คใหม่ คราวนี้ขอดูตั๋ว จะได้รู้ว่าใครหายกันแน่ ปรากฎว่าฝรั่งที่หายน่ะ อยู่ข้าง ๆ ผมเอง..ก็คุณเธอนอนแอ้งแม้ง อยู่บนตักแฟนหนุ่ม ตอนที่พนักงานนับคน รถออก 9 โมงหรือ 9 โมงครึ่งอันนี้ไม่แน่ใจ วิ่งออกไป.... นึกว่าจะไม่มีวิวแบบวังเวียงเสียแล้ว แต่ที่ไหนได้ กลับมีแต่วิวที่เป็นภูเขา... อลังการมาก ภูเขาที่นี่ สูงชัน จนต้องแหงนหน้าทำมุมเกือบจะตั้งฉากกะท้องฟ้า โอ้......สวย คัก ๆ.... แม้จะเป็นหน้าร้อนแต่ยังมีหมอกปกคลุม แล้วหากเป็นหน้าหนาว มันจะขนาดไหนกันล่ะเนี่ย ความอลังการไม่มีสิ้นสุด....เมื่อมีแต่ภูเขา ก็เริ่ม..เฉย ๆ ผมเริ่มออกอาการง่วงอีกแล้ว....จึงหลับแหมะ คอพับข้าง ๆ กระจก ฝรั่งสาวด้านหน้าก็เหมือนกัน เธอแง้มกระจกรับลม ผมก็เย็นสะบาย.... ถนนหนทางเริ่มโค้ง ขึ้นเขา พอรถเข้าโค้งที แตงโมของชาวลาวที่วางอยู่บนชั้นวางของก็ วิ่งไปวิ่งมาเป็นลุกโบว์ลิ่ง หากว่าไม่เอาเสื่อมาดัน ๆ ไว้มีหวังแตกแน่ ๆ แต่อนิจจา ในที่สุดก็เกิดแจ๊กพอต เมื่อมีการเข้าโค้งอีกครั้ง ผ้าที่กันไว้เอาไม่อยู่ แตงโมกลิ้งตามรางมาท้ายรถ แล้วก็หล่นปุ๊ก....... หล่นลง !!!! คิดดูว่าเกิดอะไรขึ้น ตกไม่แตกครับ ๆ.... จะแตกที่ไหนล่ะก็มันตกลงตรง เป้ากางเกงของคุณฝรั่งวัยทองน่ะสิ แกออกอาการ อู้ววววววว..... แล้วท้ายรถก็ได้ หัวเราะเล็ก ๆ.... ดีนะที่ไม่เป็นอะไรทั้ง 3 ลูก แม่หญิงลาวหันมาดูข้างหลังแล้วก็ เอาแตงโมจินตหรา คืนไป แล้วเอาวงไว้ที่เดิม แต่ป้องกันหนาแน่นมากขึ้น แต่อย่างว่าล่ะครับ อนิจจาไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน........ ไม่นานนัก หลังจากผ่านโค้ง ได้สัก 10 โค้งเห็นจะได้ ไอ้แตงโมอีกลูกก็หล่นลงกระแทกพื้น ของแท้ตกต้องแตก......!!!! คุณภาพพิสูจน์กันตอนนี้ล่ะครับ มันไม่ใช่แตงโมจินตหราเนื้อน้ำผึ้ง แต่เป็นเนื้อแดง...น่ากินมาก ชาวลาวก็แกะแล้วแบ่งกันกิน ยื่นมาด้านหลังแต่ฝรั่งก็ เซย์ โนว์... เสียดายที่เขาไม่เห็นสีหน้า อยากสุดขีดของผมกับโนริโอะ " แตงโม ๆ จินตหรา..... ผ่าออกมาเนื้อเหลืองงาม.." หนทางยังอีกยาวไกล...ผ่านเมืองกาสี รถก็จอด ผ่านไปอีกทีรถก็จอดแต่ก็เป็นการจอดให้ลงไปฉี่ ฝรั่งแห่กันลง แต่ผมไม่ปวดนี่หว่า....รถแสวงบุวิ่งต่อไป โนริโอะเกิดเปลี่ยนใจอยากเปลี่ยนที่นั่ง ผมเลยต้องยอม เป้าหมายของโนริโอะคือการเก็บภาพ 2 ข้างทาง เอ้า...หมุนไปหมุนมา ไอ้ที่สวยไม่ถ่าย พอจะถ่ายดันไปติดยอดหญ้า ข้างทาง... ฮ่า ๆๆๆๆ ดีจริง ๆ ตลอด 2 ข้างทางบนเขาจะเห็นหมู่บ้านชาวเขา (?) ริมถนน หลังบ้านก็เป็นเหว...หวือ...กล้าอญุ่ได้ยังไง แล้วอย่างงี้น้ำท่า เขาเอามาจากไหน..งง?? ลักษณะแบบเดียวกับนั่งรถไปแถว ๆ เพชรบูรณ์ ทำนองนั้นแต่ว่า ที่นี่อลังกว่า สูงกว่า หวาดเสียวกว่า และ ธรรมชาติกว่าเยอะ... บ้านเราแถว ๆ นั้นมีแต่เขาหัวโล้น อัปลักษณ์ แต่ที่นี่ กะลังจะโล้น..... รถมาจอดอีกทีที่เมืองอะไรไม่รู้ จอดให้ผู้โดยสารกินข้าวเที่ยง มีข้าวราดแกงขาย....โนริโอะ สั่งมากินผมก็เลยขอชิม 3 ช้อน อร่อยเหมือนกัน แต่ว่าโนริโอะบอกว่าไม่อร่อยเลย ก็เลยวางช้อนแล้ว เดินไปอีกร้าน มีขายเฝ๋อ ....สั่งมากิน 1 ชาม เป็น เฝ๋อ ยักย์ชามเดียวกินได้ 3 คนเลยล่ะสำหรับผม แต่โนริโอะ ฟาดคนเดียเกลี้ยง ...อร่อยแท้ ๆ ในราคา 5,000 กีบ โครตผักหาได้ที่เฝ๋อทุกชามของลาว....ซอบบบบบบ ที่ร้านนี้ยังมีกลุ่มคน หน้าตาคล้ายชาวเวียตแต่เว้าลาว ดูลักษณะการกินแล้ว สยองกว่าโนริโออีก ยัด ๆ คาย ๆ บ้วน ๆ ถ่ม ๆ......โห....หากเป็นที่บ้านเราน่ะ แขกลุกหมดแล้ว ผมเห็นแล้ว..หวื๋ย...ไม่กล้าชี้ชวนให้โนริโอะดู เพราะเกรงว่า น้องท่านจะคายของเดิม ออก........ ขณะที่รอโนริโอะ ก็เกรงว่ารถจะอกก่อน เพราะเฝ๋อเยอะมากจนคิดว่ากินคนเดียว 30 นาทีถึงจะหมด แต่โนริโอะ ยกซด ไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ ผมคิดว่าจะส่งเพื่อนเข้าแข่งกินวิบากในโอกาสอันใกล้นี้ ผมซื้อแอปเปิลกินเป็นข้าวเที่ยง เพราะคิดว่ากินอย่างอื่นไม่ได้ ขณะเดินทางผมมักจะทานอะไรไม่ลงเป็นปกติ และไม่หิวด้วย เพราะฉนั้นหากใคร อยากไดเอท ก็ลองเดินทางดูแล้วกันนะ คราวนี้ผมเลิกสนกับวิวแล้ว นอนอย่างเดียว หลับเรื่อยจนรถวิ่งเข้าสู่หลวงพระบาง โอ้.........เหนื่อยแต้ ๆ........ เหนื่อยเกินวัย หอบหิ้วเป้ เดินโซเซ ลงจากรถแล้วเปิดคู่มือ (ปี้ที่พัก) จะไปไหนดี ผมก็ไม่มีแผนที่ โนริโอะก็ไม่มี ...ฝรั่งทุกคนต่างเปิด Lonely Planet แต่เรา... ปี้น้อยแพลเนท ที่จดมาจากเวป ข้อความว่า...ที่พักแถว ๆ โรงพยาบาล ราคาถูกและเงียบ ผมก็เลยย่อง ๆ เข้าไปถาม 3 ล้อ ราคาก็แพงแต่คันอื่นก็เต็ม เลยจำใจ ..นอกจากนี้ก็กำชับให้แกพาไปส่งแถว ๆ ตลาด ไม่รู้ตลาดไหน ตลาดใกล้ ๆ โรงพยาบาลนั่นล่ะ เอ้า...ไปโลด

กลับไปหน้า...รวมวัน

วันที่ 8 พราก