สิงโตที่เชิดอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันแม้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนก็ตาม แต่ทว่าที่แพร่หลายเข้ามาอยู่ในประเทศไทยทุกวันนี้ มิได้เป็นการนำเข้ามาของชาวจีน แต่คนไทยรับเอารูปแบบการเชิดสิงโตผ่านมาทางญวณ หรือ เวียดนาม โดยญวนได้รับแบบอย่างมาจากจีนอีกทอดหนึ่ง ก่อนนำเข้ามาแพร่หลายในประเทศไทย ดังที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในพระราชพงศาวดาร ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ว่า องเชียงสือ (เจ้าญวน) ได้ฝึกหัดคนญวนให้เล่นสิงห์โตล่อแก้ว และสิงห์โตคาบแก้ว เพื่อใช้ในการเล่นถวายตัวแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา-โลก(รัชกาลที่ 1) ซึ่งพระองค์ได้ทรงโปรดให้มีการเล่นถวายหน้าพลับพลาที่ประทับ ในเวลาที่มีมหรสพแบบแผน ทำให้การเล่นสิงโตมีการเล่นเป็นประเพณีสืบจนถึงรัชกาลต่อ ๆ มา ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นได้ว่า การเชิดสิงโตในประเทศไทยมีมานานนับร้อยปี สิงโตที่คนไทยรู้จัก และได้เห็นการเชิดสืบมาถึงปัจจุบันนั้น เป็นสิงโตทางตอนใต้ ของประเทศจีน อันเป็นศิลปวัฒนธรรมของชาวจีนที่ฝึกฝนศิลปะกังฟู การเชิดสิงโตของประเทศไทยอาจแตกต่าง กับประเทศจีน ตรงที่คนจีนจะเชิดสิงโตเฉพาะในช่วงตรุษจีนเป็นสำคัญ ขณะที่คนไทยกลับนำสิงโตมาใช้เชิดกัน เกือบทุกเทศกาล และวันมงคลต่าง ๆ อาทิ วันสงกรานต์ วันเข้าพรรษา วันแต่งงาน วันเกิด งานฉลองต่าง ๆ เป็นต้น