Deja Vu? แคลมป์กับการเล่นภาพซํ้าที่เคยมีมาก่อน

 

 

จากการสังเกตุผลงานของแคลมป์เรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าใน X นั้นแคลมป์มักจะมีการใช้สัญลักษณ์รูปภาพต่างๆในการสื่อความหมายกับผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นในรูปของฟันเฟืองที่แทนถึงอนาคตทจะี่หมุนไปข้างหน้าอย่างช้าๆไม่หยุดยั้ง ขนนกที่แทนถึงทั้งพลังในฐานะของผู้ที่ได้รับมอบพลังจากพระเจ้า (เทวฑูต?) และปีกนกที่ภายหลังเป็นสัญลักษณ์แทนถึงคามุอิแห่ง 7 เทวะ (หรือก็คือหนึ่งในเทวทูตทั้ง 7 ที่เป่าแตรนำสู่หายนะของโลกตามคัมภีร์ไบเบิ้ล)

นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่แคลมป์มักจะใช่เล่นในการสื่อความหมายที่เป็นไปในลักษณะของการ"ยํ้าเรื่องที่เคยเกิดขึ้น"หรือรวมทั้งแสดงสิ่งที่ได้เคย"เตือน"คนอ่านถึงเรื่องที่จะเกิดในภายหลังไว้ล่วงหน้า (ซึ่งคนอ่านจะสังเกตุเห็นรึเปล่านั้นเป็นอีกเรื่อง) ก็คือการนำเอาภาพที่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในตอนต้นของเรื่องมาใช้อีกครั้ง ซึ่งใน X นั้นมีภาพที่ถูกนำมาใช้อีกครั้งและมีความหมายสำคัญต่อเนื้อเรื่องดังนี้คือ

 

 

1 ภาพเปิดเรื่องของคามุอิ : คำทำนายของการย้ายข้างและชัยชนะของมังกรธรณี?

 

 

ภาพ: ซากแห่งอวสานโลก อาราชิและซึบารุในผ้าคลุมและคำพูดปริศนาของคามุอิ "มัน...เท่านั้นที่ฉันจะเป็นคนจัดการเอง" (หน้าแรกของเล่ม 1 - หน้าแรกของอาสึกะ 1/2003)

ในหน้าแรกของเล่ม 1 รูปช่องแรกจะเห็นเป็นซากปรักหักพังของโตเกียว โดยที่รูปต่อไปจะเป็นอาราชิและมังกรคนอื่นๆที่ไม่เห็นหน้าในชุดผ้าคลุม อีกช่องเป็นซูบารุซึ่งสวมถุงมือสีดำและไว้ทรงผมที่ตอนแรกจะเข้าใจกันว่าเป็นซูบารุสมัยโตเกียวบาบิโลน (เพราะ X ตอนแรกถูกตีพิมพ์ในปี 1992 ตอนที่เรื่องโตเกียวบาบิโลนยังไม่จบ และจากนั้นซูบารุที่มาปรากฏตัวอีกครั้งใน X จะไว้ผมสั้นและไม่สวมถุงมือ ภาพนี้ในตอนแรกจึงเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นแค่รูปโปรโมทที่จะบอกว่าซูบารุตัวเอกในโตเกียวบาบิโลนจะมาปรากฏตัวในเรื่องนี้ด้วยเท่านั้น) เดิมทีรูปนี้ทำให้คนเข้าใจกันว่าเป็นรูปของทีมมังกรฟ้าเพราะว่านอกจากจะมีซึบารุและอาราชิในรูปแล้ว คนที่พูดคำว่า "มัน...เท่านั้นที่ฉันจะเป็นคนจัดการเอง" ในช่องสุดท้ายยังเป็นหน้าของคามุอิอีก แต่...หลังจาก 10 กว่าปีผ่านไปแคลมป์นำเอาภาพนี้มาเขียนอีกครั้งในอาสึกะฉบับที่ 1 ของปี 2003 คราวนี้ จากเนื้อเรื่องที่ดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ทำให้ทราบว่าซูบารุในรูปนี้ก็คือ ซากุระสึกะโมริ ซูบารุที่กลับมาไว้ผมคล้ายกับสมัยโตเกียวบาบิดลนและสวมถุงมืออีกครั้งและคนที่พูด "มัน...เท่านั้นที่ฉันจะเป็นคนจัดการเอง" กลับเป็นฟูมะ อีกทั้งเรื่องในภายหลังที่มีแนวโน้มว่าอาราชิจะเปลี่ยนไปอยู่ฝ่ายมังกรธรณีด้วย ทำให้เป็นที่แน่นอนแล้วว่านี่คือรูปของทีมมังกรธรณี หรือนี่เป็นสิ่งที่แคลมป์ต้องการจะเตือนเอาไว้แต่แรกแล้วว่าอาราชิและซูบารุจะย้ายข้างรวมทั้งมังกรธรณีจะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะในศึกแห่งอวสานโลกนี้?

 

 

2. ภาพทำนายความตายของคาโนเอะ

 

 

 

 

ภาพ: คาโนเอะที่นั่งบนบัลลังก์ของตัวเองที่ใต้ถุนตึกที่ว่าการเขตโตเกียวถูกใครบางคนจับไหล่จากข้างหลัง (X 9 - อาสึกะ 3/2003)

ในกรณีนี้จะเรียกว่าเป็นภาพต่อเนื่องจะเหมาะสมกว่าค่ะ ภาพของคาโนเอะในเล่ม 9 ที่ฮิโนโตะและคาเคียวมองเห็นว่าเธอถูกมือของใครคนหนึ่งจับไหล่จากข้างหลังซึ่งตอนนี้เท่าที่คาดกันไว้คิดว่าน่าจะเป็นฟูมะ ตอนแรกที่ดูในเล่ม 9 อาจจะไม่มีใครฉุกคิดว่ามันจะเป็นภาพทำนายอนาคต (สตาฟฟ์เองก็คิดว่าเป็นภาพเหตุการณ์ตอนที่ฟูมะไปพบคาโนเอะครั้งแรกที่ฐานของมังกรธรณีเหมือนกัน) จนกระทั่งในอาสึกะเล่ม 3/2003 ที่จะอยู่ในรวมเล่ม 19 ฉากที่ต่อเนื่องจากตอนนั้นก็ปรากฎขึ้นในมโนภาพของคามุอิ ที่เเห็นคาโนเอะที่กำลังนั่งหลับตาอยู่บนบัลลังก์ใต้ตึกที่ว่าการเมือง มีมือของใครคนหนึ่งซึ่งแอบอยู่ในมุมมืดก็ยื่นออกมาจากหลังบัลลังก์และจับไหล่ของเธอที่เพิ่งจะลืมตาขึ้น จากนั้นมือข้างนั้นก็จับคอของคาโนเอะจากด้านหลังและยกตัวเธอขึ้นพร้อมกับบีบคอ เห็นภาพขาของคาโนเอะที่กำลังขยับดิ้นรนอยู่พักหนึ่งก็นิ่งไป จากนั้นคามุอิก็มองเห็นภาพเจ้าของมือข้างนั้นเป็นฟูมะ...ในจุดนี้จริงๆแล้วจะมีประเด็นน่าสงสัยให้ถกกันต่อว่าตกลงคนที่ฆ่าคาโนเอะคือฟูมะ...แน่หรือ? หรือว่าจริงๆแล้วคือ...ซากุระสึกะโมริคนที่สองของฝ่ายมังกรธรณี? ซึ่งจุดนี้คงจะไม่พูดในหน้านี้ค่ะเพราะจะหลุดประเด็นไปมาก แต่ถ้าสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมลองไปดู note ด้านล่างที่ใส่ไว้ในหน้าแปล อาสึกะ 3/2003 ได้ค่ะ


 

3. ความทรงจำ SM แต่ปางก่อน

 

 

ภาพ: ฟูมะเตะซูบารุใน X 12 และเซย์ชิโร่เตะซูบารุใน Tokyo Babylon 7

ในเล่ม 12 เราจะเห็นว่าซูบารุมองเห็นฟูมะเป็นเซย์ชิโร่ด้วยความสามารถพิเศษของคามุอิแห่งมังกรธรณีที่จะปรากฏร่างตัวเองเป็นคนที่ฝ่ายตรงข้ามคิดถึงมากที่สุด ซึบารุถึงจะตกใจกับความคล้ายคลึงดังกล่าวแต่ก็พยายามต่อสู้กับนาทาคุและฟูมะเพื่อช่วยคามุอิ หลังจากที่นาทาคุเสียท่าไปฟูมะจึงเป้นคนที่มาต่อสู้แทน ซึบารุได้วางข่ายมนต์กับดักล้อมรอบตัวฟูมะไว้ได้ ฟูมะเริ่มเรียกพลังเพื่อทำลายข่ายมนต์ในขณะที่ซูบารุเองก็ท่องคาถาเพิ่มความแข็งแกร่ง (ละมั้ง?) ให้กับข่ายมนต์ดังกล่าว จนกระทั่งฟูมะเรียกชื่อของเขาว่า "ซูบารุคุง" แบบเดียวกับเซย์ชิโร่เคยเรียกเมื่อก่อน ซูบารุตกใจจนเผลอคลายมนต์และฟูมะก็ใช้พลังทำลายข่ายมนต์ดังกล่าวทำให้ซูบารุได้รับบาดเจ็บ แต่จุดที่แคลมป์ต้องการจะเน้นว่าคามุอิแห่งมังกรธรณีนั้น "เหมือน"เซย์ชิโร่แค่ไหนก็ตรงต่อจากนี้แหละค่ะ สังเกตุภาพเปรียบเทียบทั้งสองภาพจะเห็นได้ว่าฟูมะทำร้ายซูบารุแบบเดียวกันกับที่เซย์ชิโร่เคยทำในโตเกียวบาบิโลนไม่มีผิดนี่จึงเป็นการย้อนภาพแห่งความ SM แต่เก่าก่อนของซีรีย์ก่อนหน้านี้มาใส่ใน X อีกครั้ง ทั้งนี้น่าจะเพื่อจะตอกยํ้าความคล้ายคลึงกับของบุคลิกภาพของตัวละครฟูมะและเซย์ชิโร่ และแสดงให้เห็นว่าฟูมะหรือคามุอิแห่งมังกรธรณีมีความสามารถที่จะล่วงรู้ถึงความปรารถนาของคนอื่นได้อย่างลึกซึ้งแค่ไหน และสามารถจะทำตัวให้เหมือนกับคนที่ฝ่ายตรงข้ามคิดถึงได้ขนาดไหน

 

 

4. ชะตากรรมคู่ขนาน?

 


ภาพ: คามุอิหน้าห้องผ่าตัดหลังซูบารุเสียตาขวา ใน X 12 และซูบารุหน้าห้องผ่าตัดของเซย์ชิโร่ใน Tokyo Babylon 5

ในเล่ม 12 หลังจากเหตุการณ์ที่ตึกซันไชน์ 60 ซูบารุที่ถูกฟูมะทำให้ตาข้างขวาบอดก็ถูกนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่พยาบาลกำลังเข็นเตียงของซูบารุไปยังห้องผ่าตัดคามุอิที่วิ่งตามมาตลอดก็เอ่ยปากขอโทษซูบารุไม่หยุด แล้วก็มีฉากแอบซึ้งที่ซูบารุกอดคามุอิและพูดว่าไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ก็ซึ้งได้พักเดียวซูบารุก็สลบไปและถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดทิ้งไว้แต่คามุอิที่ยืนพิงประตูห้องผ่าตัดเรียกชื่อซูบารุและร้องให้ไม่หยุด รูปนี้...ดูคุ้นๆอีกแล้ว

เมื่อหยิบโตเกียวบาบิโลนเล่ม 5 หน้าสุดท้ายออกมาดูก็จะเห็นว่ารูปนี้เคยมีมาก่อนจริงๆ แต่ตอนนั้นเป็นซูบารุที่ยืนร้องไห้พิงประตูห้องผ่าตัดและเรียกชื่อเซย์ชิโร่แทน สิ่งที่คล้ายคลึงกันของเหตุการณ์ทั้งสองอีกอย่างคือทั้งเซย์ชิโร่และซูบารุต่างเสียตาข้างขวาไปด้วยเหตุผลคล้ายกัน เซย์ชิโร่เข้ามากันซูบารุจากแม่ที่เสียสติและจะแทงเขาเพื่อเอาไตไปให้ลูกชายจนต้องเสียตาขวา และ ซูบารุที่เสียตาขวาเพราะเข้าต่อสู้กับฟูมะเพื่อปกป้องคามุอิถึงแม้ว่าการเสียตาข้างนั้นจะเป็นความต้องการลึกๆของซูบารุเองก็ตาม จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือจากเหตุการณ์ในโตเกียวบาบิโลนเล่ม 5 ซูบารุเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมองเซย์ชิโร่ "พิเศษ" ไปกว่าคนอื่น แล้วถ้าอย่างนั้นคามุอิล่ะ? ความสัมพันธ์ของคามุอิกับซูบารุหลังจากเหตุการณ์นี้ดูจะแน่นแฟ้นมากขึ้น (อะแฮ่ม...ฉากข้างเตียงและฉากเนคไทอันแสนจะส่อในเล่ม 14 นี่คงเป็นตัวอย่างที่ดี) ถึงแม้ว่าสำหรับคามุอิแล้วไม่ได้มีการแสดงออกชัดเจนว่าเขารู้สึกว่าซูบารุเป็น "คนพิเศษ" อย่างชัดเจนเหมือนกับของซูบารุในโตเกียวบาบิโลน แต่เป็นไปได้ไหมว่าแคลมป์ต้องการจะบอกใบ้ว่าความสัมพันธ์ของคู่นี้อาจจะมีอะไรพิเศษที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องภายหลังก็เป็นได้ ? (เข้าข้างคู่โปรดของตัวเองจริงจริ๊ง แต่...พฤติกรรมคามุอิช่วงหลังๆมันน่าสงสัยนี่นะ) เพราะคิดว่าการที่แคลมป์นำเอาภาพจากเรื่องโตเกียวบาบิโลนมาใช้ใหม่อีกครั้งใน X โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่คล้ายกันระหว่างของซูบารุ - เซย์ชิโร่ และ ของคามุอิ - ซูบารุ น่าจะมีความหมายอะไรอื่นนอกจาก fan service ซ่อนอยู่แน่ๆ

นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกันระหว่างคามุอิ - ฟูมะ และซูบารุ - เซย์ชิโร่อีก ซึ่งเรื่องความคล้ายคลึงของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้ง 4 จะถูกนำมาวิเคราะห์อีกทีภายหลังค่ะ ^^

 

 

 

~~~~~~~~~~~~~~~~~~

 

 

เอาละค่ะ นี่เป็นจุดสังเกตุหลักที่พวกเราค้นพบในตอนนี้ อาจจะมีจุดไหนตกหล่นไปบ้างก็แนะนำกันเข้ามาได้นะคะ จะนำมาเพิ่มเติมให้ทีหลังค่ะ ^^