|
|
สมเกียรติ
ฟุ้งเกียรติ |
ผมเริ่มใช้ Excel สมัยทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ฝ่ายวิจัยและวางแผน
ส่วนพัฒนาระบบและองค์กร ในเวลานั้น(ประมาณปีพ.ศ.2528)
Excel รุ่นที่ใช้ครั้งแรกเป็น version 2 ซึ่งก่อนจะใช้ Excel ต้อง install โปรแกรม Windows ลงไปคู่กับ DOS
ก่อนเพียงเพื่อจะได้ใช้แค่ Excel เท่านั้น แถมตัว mouse
ยังไม่มีใช้แพร่หลายเหมือนทุกวันนี้ ต้องใช้แป้นพิมพ์แทน เรียกเมนูคำสั่งได้ช้ามาก
เครื่องที่ว่าเร็วแล้วยังทำงานช้าสุดๆ ผมจึงเก็บเจ้า Excel เข้าตู้
แล้วหันกลับมาใช้ Lotus 123 เจ้าเก่าดีกว่า เพราะบน DOS นั้น Lotus
ทำงานได้เร็วมากๆ แม้จะมีหน้าตาไม่สวยหรู ตัวตารางเป็นขีดๆๆๆ มาต่อกันเป็นเส้น
แต่ใครๆต่างใช้ Lotus 123 กันทั้งนั้น แทบไม่เห็นใครใช้ Excel สักเครื่องเดียว
โปรแกรม Lotus 123 แนบแน่นกับผม มาตั้งแต่สมัยเรียน MBA-Finance (ปีการศึกษา
2526) ที่ University of Wisconsin
ตอนนั้นซื้อเครื่อง IBM PCjr มาใช้กับ Lotus 123
release 1.1 ทำ case ส่งอาจารย์ พอกลับมาเมืองไทยจึงใช้ Lotus 123 ต่อสบายๆ
จำคำสั่งย่อของ Lotus 123 ได้ขึ้นใจ ใช้สร้าง macro ง่ายมาก
หนังสือที่หาซื้ออ่านเป็นประจำ หนีไม่พ้นตำราวิธีใช้ Lotus 123 ซื้อมาเต็มตู้ไปหมด
ไม่ว่าจะแพงแสนแพง เล่มหนึ่งราคาเป็นพันๆ ผมก็ซื้อมาศึกษา
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดยังหอบตำรา Lotus 123 ติดตัวไปตลอด ย้อนคิดไปแล้ว
นึกไม่ถึงเลยว่า ผมจะได้ใช้ความรู้เหล่านั้นกับการสอน เป็นวิชาชีพของตนเองในวันนี้
จากประสบการณ์ในฝ่ายวิจัยและวางแผน ต้องใช้ Lotus 123 คำนวณงานแทบทุกประเภท ไล่จากคำนวณธรรมดาๆ ทำงบประมาณ พยากรณ์อนาคต สร้างกราฟ วิจัยตลาด ใช้สร้าง Organization Chart วางแผนโครงสร้างสถาบัน ทำงานเป็น System Analyst พัฒนาระบบงาน หาทางจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศของธนาคาร ต้องติดตามเทคโนโลยี แล้วหาทางใช้เทคโนโลยีนั้นๆในการทำงาน กลายเป็นนิสัยติดตัว ต้องหาทางริเริ่มพัฒนา ต้องคิดอยู่เสมอว่า วิธีการทำงานที่จะใช้ จะต้องเร็วกว่า ดีกว่า เหมาะสมกว่า และได้ผลงานมากกว่า
พอย้ายมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ CP ทำงานเป็น Planning Analyst
มีโอกาสจับธุรกิจลงทุนตั้งแต่ไม่ถึงล้านบาท ไปจนถึงแสนล้าน
อย่างโครงการร้านอาหาร
โครงการร่วมทุนกับต่างชาติ โครงการโทรศัพท์ (ซึ่งเป็นบริษัท TelecomAsia
ในปัจจุบัน) ผมเริ่มใช้ Excel ทำงานเต็มตัวจากที่นี่แหละครับ ต้องใช้ Excel
ตลอดเวลา และต้องหาทางดัดแปลงใช้งานให้ยืดหยุ่น เพราะเจ้านายชอบสั่งเปลี่ยนงาน
สั่งให้ศึกษาโครงการใหม่ๆ ต่างไปจากเดิมเสมอ แถมมีโอกาสศึกษางานที่ใช้ Excel
ของฝรั่ง ได้เรียนรู้วิธีคำนวณแปลกๆแบบที่ไม่มีในตำรา จนสามารถคิดค้นวิธีใช้ Excel
ในแบบของผมเอง เช่น ทำให้ Data Table ทำงานได้ไม่จำกัด เป็นต้น
ช่วงทำงานที่ CP ต้นตอแห่งความสนใจใน Excel อย่างลงลึกถึงแก่นได้เริ่มขึ้น
เนื่องจากทำงานร่วมกับทีมที่ปรึกษาจาก 5 สถาบันการเงินชั้นนำ
เพื่อร่วมกันวิเคราะห์โครงการโทรศัพท์ ผมมีโอกาสเรียนรู้วิธีใช้ Lotus 123
ของเจ้าหน้าที่ธนาคารแต่ละคน โดยเฉพาะ Salomon Brothers ซึ่งใช้ Excel
สร้างสูตรลัดๆน่าทึ่ง สูตรหลายๆสูตรของเขาใช้สูตรไม่กี่บรรทัด
ในขณะที่สูตรของผมยาวเป็นหน้าๆ ต้องแกะสูตรที่เขาใช้เซลล์ต่อเซลล์
กลายเป็นที่มาของความรู้ ซึ่งหาไม่ได้จากตำราเล่มใด
และแล้ว..... ความเบื่อเริ่มบังเกิดขึ้น เบื่อและเสียดายเหลือเกิน เมื่อต้องทิ้ง file ซึ่งสร้างมากับมือ เพราะ CP ผุดโครงการใหม่อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวเดียวต้องเริ่มสร้างงานใหม่อีกแล้วตามที่เจ้านายต้องการ ไม่อยากทิ้งก็ต้องทิ้งครับ แม้ว่าตอนนั้นจะรู้วิธีแยกส่วนของ file ซึ่งผมตั้งชื่อว่า วิธีถอดหัวใจออกจากร่าง แล้วสามารถนำหัวใจมาประกอบเป็นร่างใหม่ เป็น file ใหม่แล้วก็ตาม
วันหนึ่ง ขณะอยู่ในร้านหนังสือ ผมหยิบตำราโหราศาสตร์ขึ้นมาดู เจอประโยคว่า ดาวพุธทำมุมคู่ดาวศุกร์ส่งแรงให้เกิดผลอย่างนั้นอย่างนี้ สมัยนั้นผมไม่เชื่อเรื่องดูดวงอะไรนี่เลยนะ แต่พออ่านเงื่อนไขของตำแหน่งดาวที่ว่าแล้ว ใจผมก็แปลออกมาเป็นสูตร IF ทันที เกิดความคิดท้าทายขึ้นในใจ เอาล่ะทีนี้ผมจะเอาเงื่อนไขในตำราโหราศาสตร์นี่แหละ มาฝึกใช้ Excel แถมสร้างไปได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องทิ้ง
ผมใช้เงื่อนไขในตำราโหราศาสตร์นี่แหละครับ ฝึกปรือวิธีใช้ Excel อย่างที่คนอื่นๆเขาไม่ใช้กัน แทนที่จะใช้สูตรบวกลบธรรมดาๆ กลับต้องเรียนรู้สูตรทางวิทยาศาสตร์ ใช้สูตร Sin Cos Tan คำนวณตำแหน่งดาวทุกดวงในสุริยจักรวาล บางสูตรต้องซ้อนสูตรให้ได้เกินกว่า 7 ชั้นจึงจะคำนวณได้ ต้องแม่นยำในสูตรคำนวณวันเดือนปีและเวลา ต้องหาทางจัดตารางเก็บข้อมูล หาทางสร้างสูตรดึงข้อมูลออกมาใช้ พอคำนวณเสร็จแล้วนำมาสร้างกราฟ ตัวกราฟเองก็ใช่ง่ายเสียเมื่อไหร่ล่ะ ต้องหาทางสร้างกราฟให้ dynamic ทั้งเส้นกราฟ ทั้งคำอธิบายบนกราฟ ทั้งค่าตัวเลขบนกราฟ ต้องสามารถเปลี่ยนแปลงได้เองทันทีเมื่อกำหนดเวลาเปลี่ยนไป เทคนิคหลายๆอย่างที่ใช้ จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นใครใช้มาก่อน
สิ่งที่ไม่เคยใช้ก็ได้ใช้ สิ่งที่ไม่เคยคิดก็ต้องคิด แถมคิดต่างจากแนวคิดเดิมๆ ลูกเล่นมากมายครับเกิดขึ้นในงานส่วนตัว ในงานโหราศาสตร์นี่เอง พอเลิกงานกลับมาถึงบ้าน แทนที่จะพักผ่อน กลับเปิดคอมพิวเตอร์สร้างโปรแกรมโหราศาสตร์ต่อไปจนดึกดื่น สูตรยากๆยาวเป็นหน้า ซ้อนกันเสียจนแทบจะแกะสูตรไม่ออก เดี๋ยวนี้ผมยังงงเลยว่า เราสร้างสูตรยากๆอย่างนี้ได้ยังไง
พอออกมาทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้ตำแหน่งเป็นใหญ่เป็นโตขึ้น แทนที่จะทิ้ง
Excel แล้วสั่งลูกน้องทำแทน ผมกลับปล่อย Excel ไม่ได้
เพราะยังใช้ Excel
กับงานอดิเรกโหราศาสตร์ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ Excel กับผมแนบแน่นต่างจากคนอื่นๆ
แล้วยังส่งผลกลับไปที่งานประจำ สามารถใช้ Excel คำนวณการลงทุนในธุรกิจบ้านจัดสรร
ผูกความสัมพันธ์ทั้งด้านผลิต ขาย ก่อสร้าง บัญชี การเงิน และภาษีอากร
ออกมาเป็นโปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนครบวงจร แบบที่เจ้าหน้าที่ธนาคารเห็นเข้า
ต้องรีบเอ่ยปากขอโปรแกรมเอาไปใช้เอง
ส่วนความเชื่อด้านโหราศาสตร์ เริ่มปรับตัวไปสู่เรื่องของธรรมะ ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะเริ่มปลงครับ ดูดวงแล้วเห็นว่า คนเรานี่มีขึ้นก้อมีลง คนที่ดวงดีสุดๆ ก็ดีไปพักหนึ่งแล้วต้องตกลงมา คนที่ดวงตก เดี๋ยวดวงก็ขึ้น ล้วนเปลี่ยนแปลง ผันแปรเป็นธรรมดา เกิดความรู้สึกว่า ตนไม่อยากดูดวงให้กับใครอีกแล้ว เกรงจะกลายเป็นการพูดเรื่องไม่จริง ไม่ถูกต้องทั้งหมด ใครจะมี อดีต อนาคต ปัจจุบัน เป็นอย่างไรนั้น ไม่ได้ขึ้นกับดวงชะตาเพียงอย่างเดียว ขอให้มีสติ แล้วใช้ปัจจุบันให้มีประโยชน์ที่สุดดีกว่า
ด้วยใจที่แสวงหาความสงบ ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนงานอีกครั้ง ตั้งใจจะทำงานเพื่อสังคม อยากทำงานกับ Non-profit Organization อะไรทำนองนั้น อยากทำงานส่วนตัวซึ่งไม่ผูกมัด ไม่เป็นงานประจำ ไม่รัดตัวเหมือนเมื่อก่อน จะได้ฝึกปฏิบัติธรรมไปพร้อมๆกัน และนับเป็นโชคดีของผมอย่างยิ่ง เมื่อได้เป็นวิทยากรของสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นสถาบันไม่แสวงหากำไร ช่วยสนับสนุนให้ผมได้ทำงานตามที่หวังไว้โดยไม่นึกฝันมาก่อน
เดี๋ยวนี้ผมหันมาทำงานเป็นวิทยากรเต็มตัวแล้วครับ ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์ทั้งหมด ตั้งหลักว่า ลูกศิษย์ต้องเก่งกว่าครูให้ได้ ใจมีแต่ให้ อยากช่วย อยากหาทางแก้ปัญหา มีความสุขเมื่อได้ให้ความรู้แก่คนอื่น