|
|
|
|
|
Thai Poet by Seni Pramoj |
|
เสนี ปราโมช |
1. There 's hope for beloved
Ayuthya |
๑. อยุธยานี่นี้
มีหวัง ตราบเท่าที่คนยัง เทิดไว้ คำกวีเก่าแก่ฟัง กำหนด เพราะนั่นแลจิตไซร้ แห่งเชื้อเนื้อสยาม |
|
|
|
|
2. Fathoms deep though the seas
may be, |
|
๒. พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา กำหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้ หยั่งถึง |
|
|
|
3. Born men are we all
and one, |
|
๓. ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง ห่อนแก้ ฤาไหว |
|
|
|
4. So little yet so much
one knows, |
|
๔.
รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน สระจ้อย ไป่เห็นชแลไกล กลางสมุทร ชมว่าน้ำบ่อน้อย มากล้ำลึกเหลือ |
|
|
|
5. Mountains bear on earth
and seas. |
|
๕.
ภูเขาอเนกล้ำ มากมี บ่มิหนักแผ่นธรณี หน่อยไซร้ หนักนักแต่กระลี ลวงโลก อันจักทรงทานได้ แต่พื้นนรกานต์ |
|
|
|
6. All sentient beings pass
away. |
|
๖.
ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้ คือเราติดตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา |
|
|
|
7.
Millions though the stars combine, |
|
๗.
ดารามีมากน้อย ถึงพัน บ่เปรียบกับดวงจันทร์ หนึ่งได้ คนพาลมากอนันต์ ในโลก จะเทียบเท่าปราชญ์ไซร้ ยากแท้ ฤาถึง |
|
|
|
8. Mountains give only bare stones. |
|
๘.
ภูเขาเหลือแหล่ล้วน ศิลา หามณีจินดา ยากได้ ฝูงชนเกิดนานา ในโลก หานักปราชญ์ นั้นไซร้ เลือกแล้ว ฤามี |
|
|
|
9. Hot chilies generate heat and health. |
|
๙.
พริกเผ็ดใครให้เผ็ด ฉันใด หนามย่อมแหลมเองใคร เซี่ยมให้ จันทน์กฤษณาไฉน ใครอบ หอมฤา วงศ์แห่งนักปราชญ์ได้ เพราะด้วย ฉลาดเอง |
|
|
|
10. Wise men bite not back a dog, |
|
๑๐.
หมาใดตัวร้ายขบ บาทา อย่าขบตอบต่อหมา อย่าขึ้ง ทรชนชาติทา รุณโทษ อย่าโกรธ อย่าหน้าบึ้ง ตอบถ้อย ถือความ |
|
|
|
11. Naga surpasses in venom. |
|
๑๑.
นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย เลื้อยบ่ทำเดโช แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งโยโส แมลงป่อง ชูแต่หางเองอ้า อวดอ้าง ฤทธี |
|
|
|
12.Penniless live on salt preferably |
|
๑๒.
ถึงจนทนสู้กัด กินเกลือ อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถือ พวกพ้อง อดอยากเยี่ยงอย่างเสือ สงวนศักดิ์ โซก็เสาะใส่ท้อง จับเนื้อกินเอง |
|
|
|
13. Robbed of wealth, your pride maintain. |
|
๑๓.
เสียสินสงวนศักดิ์ไว้ วงศ์หงส์ เสียศักดิ์สู้ประสงค์ สิ่งรู้ เสียรู้เร่งดำรง ความสัตย์ ไว้นา เสียสัตย์อย่าเสียสู้ ชีพม้วยมรณา |
|
|
|
14. In a neighbour's house to dine. |
|
๑๔.
ข้าท้าวเอาจิตท้าว แม่นหมาย บ่าวท่านเอาใจนาย แม่นหมั้น ศิษย์ท่านผ่อนผันผาย โดยจิต ครูนา อยู่ที่เรือนตัวนั้น แต่น้ำใจเอง |
|
|
|
15. Test a servnt, in pressing service. |
|
๑๕.
ดูข้าดูเมื่อใช้ การหนัก ดูมิตรพงศารัก เมื่อไร้ ดูเมียเมื่อไข้หนัก จวนชีพ อาจจักรู้จิตไว้ ว่าร้าย ฤาดี |
|
|
|
16. Tell fire not to smoke, do try! |
|
๑๖.
ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ มีควัน ห้ามสุริยแสงจันทร์ ส่องไซร้ ห้ามอายุให้หัน คืนเล่า ห้ามดั่งนี้ไว้ได้ จึ่งห้ามนินทา |
|
|
|
17. Though divided by sky and sea, |
|
๑๗.
รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว เสมออยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง ชังกันบ่แลเหลียว ตาต่อ กันนา เหมือนขอบฟ้ามาป้อง ป่าไม้ มาบัง |
|
|
|
18. Oh, pain! This mundane sad love |
|
๑๘.
โอ้ว่าอนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ดังสายน้ำไหล มีแต่ไหลเชี่ยวเป็นเกลียวไป ไหนเลยจะไหลกลับคืนมา |
|
|
|
19. Though the earth may end and the sea, |
|
๑๙.
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน |
|
|
|
20. My lord, even my life my sire , |
|
๒๐.
พระแก้วพระอยู่เกล้า ยาไฉน เผือจักตายฤาไคล คลาสไท้ พระเอยอย่าอาลัย เยียวอยู่ พระนา ตายเมื่อใดจะได้ ดั่งนี้ ฤามี |
|
|
|
21. Should Siam live on so long |
|
๒๑.
หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง เราก็เหมือนอยู่คง ชีพด้วย หากสยามพินาศลง ไทยอยู่ ได้ฤา เราก็เหมือนมอดม้วย หมดสิ้น สกุลไทย |
|
|
|
22. Should freedom be lost to the free, |
|
๒๒.
เทศใดทัพต่างด้าว ดูแคลน มาสู่อยู่ยึดแดน เดชกร้าว เทศนั้นสบั้นแบน บั่นสิทธิ์ ดุจดั่งราหูห้าว ห่อห้มอมจันทร์ |
|
|
|
23. I heard man's voice mixed with dog's bark. |
|
๒๓. ได้ยินเสียงคนปนเสียงหมา ไม่รู้จะจ๋าเสียงไหน |
|
|
|
24. Oh se, how did ye be named? |
|
๒๔.
รังศรีพระเจ้าฮื่อ ปางใด ปางเมื่อพระเสด็จไป ป่าแก้ว รังศรีบ่สดใส สักหยาด คำแต่นอกในแผ้ว ผ่องเนื้อนพคุณ |
|
|
|
25. Oh, se how did ye be ringed? |
|
๒๕.
แหวนนี้ท่านได้แต่ ใดมา เจ้าพิภพโลกา ท่านให้ ทำชอบสิ่งใดนา วานบอก เราแต่งโคลกถวายไท้ ท่านให้รางวัล |
|
|
|
26. Who blemished thy chaste cheeks, do tell. |
|
๒๖.
อันใดย้ำแก้มแม่ หมองหมาย ยุงเหลือบฤาริ้นพราย ลอบกล้ำ |
|
|
|
27. Such liberties love itself wouldn't take! |
|
๒๗.
ผิวชนแต่จักกราย ยังยาก ใครจักอาจให้ช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน |
|
|
|
28. Make not such naughty eye so far. |
|
๒๘.
เจ้าอย่าย้ายคิ้วช่ำ เมลืองมา อย่าม่ายเมียงหางตา ล่อเหล้น จะมาก็มารา อย่าเหนื่ยว นานเลย ครั้นพี่มาอย่าเร้น เรียกเจ้าจงมา |
|
|
|
29. Grieve me not with such sad brow, |
|
๒๙.
เจ้าอย่าย้ายคิ้วให้ เรียมเหงา ดูดุจนายพรานเขา ล่อเนื้อ จะยิงก็ยิงเอา อกพี่ ราแม่ เจ็บไป่ปานเจ้าเงื้อ เงือดแล้วราถอย |
|
|
|
30. Boom, boom! not heaven's wrath, i moan. |
|
๓๐.
ครื้นครื้นใช่ฟ้าร้อง เรียมครวญ หึ่งหึ่งใช่ลมหวล พี่ไห้ ฝนตกใช่ฝนนวล พี่ทอด ใจนา ร้อนใช่ร้อนไฟไหม้ พี่ร้อนรนกาม |
|
|
|
31. Tears, tears, i pour out heaven's high, |
|
๓๑.
เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม ถึงพรหม พาหมู่สัตว์จ่อมจม ชีพม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว ลงนา หากอักนิฏฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง |
|
|
|
32. Oho! Bunny sights high moon. |
|
๓๒.
หะหายกระต่ายเต้น ชมจันทร์ มันบ่เจียมตัวมัน ต่ำต้อย นกยูงหากกระศัลย์ ถึงเมฆ มันบ่เจียมตัวน้อย ต่ำต้อยเดียรัจฉาน |
|
|
|
33. Aha! how foolish such flare, |
|
๓๓.
หะหายกระต่ายเต้น ชมแข สูงส่งสุดตาแล สู่ฟ้า ฤดูฤดีแด สัตว์สู่ กันนา อย่าว่าเราเจ้าข้า อยู่พื้นดินเดียว |
|
|
|
34. What thy breast bears will not fall. |
|
๓๔.
ไยแม่หิ้วนั้นใช่ จะตก เอาพระกรมาปก ดอกไม้ สองมือถาบตีอก ครวญใคร่ เห็นนา หัวยะยิ้มรอยให้ พี่เต้าไปหา |
|
|
|
35. Be ye my witness, oh sand, |
|
๓๕.
ธรณีนี่นี้ เป็นพะยาน เราก็ศิษย์อาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง |
|
|
|
36. Silence reigns since bell tolled the hour last. |
|
๓๖. สงัดเสียงคนดังระฆังเงียบ เย็บยะเบียบยามนอนริมเนินผา เมื่อยามแกนแสนทุเรศเวทนา ต้องไสยาอยู่กลางน้ำค้างพราว ดังต้องน้ำอำมฤกเมื่อดึกเงียบ แสนยะเยียบเนื้อเย็นเป็นเหน็บหนาว ทั้งหนาวลมหนาวพรมน้ำค้างพราว ไหนจะหนาวซากผาศิลาเย็น โอ้หนาวอื่นพอขืนอารมณ์ได้ แต่หนาวใจ ยากแค้นนี้แสนเข็ญ ทั้งหนาวนอนไกลนุชสุดจะเย็น ใครปะเป็นเสมือนข้าจะว่าจริง |
|
|
|
37. What karma does us past |
|
๓๗.
กรรมใดให้จำจาก เป็นวิบากพรากกันจร ไกลข้างร้างแรมอร ให้พี่คร่ำร่ำโศกา |
|
|
|
38. Sad are these lines on ladies, |
|
๓๘. โคลงครวญกลอนกล่าวอ้าง นารี โศกสร้อยถึงสาวศรี เสกหว้า แต่งตามประเพณี ธิรภาคย์ เมียมิ่งพรั่งพร้อมหน้า ห่อนได้ จากกัน |
|
|
|
39. One court love moves to another in distress. |
|
๓๙. คบชาววังครั้งใดก็ได้ทุกข์ |
|
|
|
40. Oh, this land lying large on this earth, |
|
๔๐.
โอ้พสุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร เมื่อเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้ ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย ล้วนหนามเหน็บเจ็บช้ำระกำใจ เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา |
|
|
|
41. While you pay, they'll give you service. |
|
๔๑.
อันข้าไทยได้พึ่งเขาจึงรัก แม้ถอยศักดิ์สิ้นอำนาจวาสนา เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา แต่วิชาติดกายจนวายปราณ |
|
|
|
42. To Bang Brahma, Brahma has but four faces. Thus known to all races near and far. |
|
๔๒.
ถึงบางพรหมพรหมมีอยู่สี่พักตร์ คนรู้จักแจ้งจิตทุกทิศา ทุกวันนี้มีมนุษย์อยุธยา เป็นร้อยหน้าพันหน้ายิ่งกว่าพรหม |
|
|
|
43. Even a pillar of rocks can rock-side |
|
๔๓. อันเสาหินอย่าทะนงว่าคงหลัก ถ้าถูกผลักบ่อยเข้าเสาก็ไหว |
|
|
|
44. A woman is sought for being chaste, |
|
๔๔.
เป็นสาวแส้แร่รวยสวยสะอาด ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า แม้นแตกร้าวรายร่อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง |
|
|
|
45. What can be th use of music? |
|
๔๕.
ดนตรีมีคุณที่ข้อไหน หรือใช้ได้แต่ข้างเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์ ถึงมนุษย์ครุฑาเทวาราช จตุบาทกลางป่าพนาสิน แม้นปี่เราเป่าไปให้ได้ยิน ก็สุดสิ้นโทโสที่โกรธา |
|
|
|
46. Amidst friends, I'm strangely friendless, |
|
๔๖.
ถึงมีเพื่อนก็เหมือนพี่ไม่มีเพื่อน เพราะไม่เหมือนนุชนาฎที่มาดหมาย มีเพื่อนเล่นก็ไม่เหมือนกับเพื่อนตาย มีเพื่อนชายก็ไม่เหมือนกับเพื่อนชม |
|
|
|
47. As the bee pairsoff with the flower, |
|
๔๗. แมลงภู่เป็นคู่ของบุปผา บุราณว่าเห็นจริงทุกสิ่งสม หญิงกับชายก็เป็นคู่ชูอารมณ์ ชั่วปฐมกัปป์กัลป์พุทธันดร |
|
|
|
48. Even sober, I'm drunk with love's drink! |
|
๔๘. ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน อันเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี่ประจำทุกค่ำคืน |
|
|
|
49. Pierced with spears so thick, it matters least. |
|
๔๙.
ถึงต้องง้าวหลาวแหลนสักแสนเล่ม ให้ติดเต็มตัวฉุดพอหลุดถอน แต่ต้องตาพาใจอาลัยวอน สุดจะถอนทิ้งขว้างเสียกลางคัน |
|
|
|
50. Pupils down grading masters, |
|
๕๐. ลูกศิษย์คิดล้างครู ลูกไม่รู้คุณพ่อมัน |
|
|
|
51. Of all sorrows suffered by humnity. |
|
๕๑. จะว่าโศกโศกอะไรที่ในโลก ไม่เท่าโศกใจหนักเหมือนรักสมร จะว่าหนักหนักอะไรในดินดอน ถึงสิงขรก็ไม่หนักเหมือนรักกัน จะว่าเจ็บเจ็บแผลพอแก้หาย ถ้าเจ็บกายวายชีวาจะอาสัญ แต่เจ็บแค้นนี่แลแสนจะเจ็บครัน สุดจะกลั้นสุดจะกลืนขืนอารมณ์ จะว่าขมขมอะไรในพิภพ ไม่อาจลบบอระเพ็ดที่เข็ดขม ถึงดาบคมก็ไม่สู้คารมคม จะว่าลมลมปากนี้มากแรง จะว่าเมาเมาอะไรก็ไม่หนัก อันเมารักเช่นนี้มีทุกแห่ง เกิดยุ่งยิ่งชิงกันถึงฟันแทง ใครพลาดแพลงล้มตายวายชีวา |
|
|
|
52. Man makes paddy, woman makes rice, |
|
๕๒. ชายข้าวเปลือก หญิงข้าวสารโบราณว่า น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าอัชฌาศัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ คิดปลูกไมตรีถูกกว่าปลูกพาล ผู้ใดดีดีต่ออย่าก่อก้าว เป็นข้าเจ้าเขาไม่เรียกแล้วอย่าขาน วิสัยศึกตรึกตราช้าเป็นการ เป็นชายชาญอย่าเพ่อคาดประมาทชาย รักสั้นนี้ดีอยู่แต่รู้สั้น รักยาวนั้นอย่ายาวเยิ่นเกินกฎหมาย มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย แหงนดูฟ้าอย่าให้วายแก่เทวา อย่าดูถูกบุญกรรมว่าทำน้อย น้ำตาลย้อยมากเมื่อไรได้หนักหนา เมื่อจะนอนเอากระจกยกออกมา ส่องดูหน้าเสียดครั้งหนึ่งแล้วจึงนอน เห็นตอหลักปักขวางหนทางอยู่ พิเคราะห์ดูควรทึ้งแล้วพึงถอน เห็นเต็มตาแล้วอย่าอยากทำปากบอน ตรองเสียก่อนจึงค่อยทำกรรมทั้งมวญ เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ ต่อคนดูรู้ค่าจึงหารือ ให้เขาลือว่าชายนี้ชายเพชร ของไม่ดีเจ้าว่างามต้องตามเจ้า ผู้ใดเล่าจะไม่งามตามเสด็จ จงจำไว้ทุกสิ่งจริงและเท็จ พริกไทยเม็ดนิดเดียวเคี้ยวยังร้อน เกิดเป็นคนในเชิงดูให้รู้เท่า ใจของเราไม่สอนใครจะสอน อยากใช้เขาเราต้องกัมประณมกร ใครเลยห่อนจะว่าตัวเป็นวัวมอ เป็นบ้าจี้ที่นิยมชมว่าเอก คนโหยกเหยกรักษายากลำบากหมอ อันยศศักดิ์หนักว่าเหล้าเมาแต่พอ มันคันก็เกาตะกายพอคลายคัน |
|
|
|
53. Oh, sweetie pie, oh, my orchid! |
|
๕๓.
เจ้าช่อมะกอก เจ้าดอกมะไฟ เจ้าเห็นเขางาม เจ้าตามเขาไป เขาทำเจ้ายับ เจ้ากลับมาไย เขาสิ้นอาลัย เจ้าแล้วหรือเอย |
|
|
|
54. In freedom without supplement, |
|
๕๔.
เสรีมีเมื่อไร้ ปัญญา ปทีปถ่องส่องทางพา เพ่งก้าว อำนาจปราศวิชชา ชูชัก รังแต่จักหักร้าว เห่อรั้งพังทลาย |
|
|
|
55. Some, whose deeds have been proclaimed |
|
๕๕. บางคนกมลมุ่งฉ้อ โฉงเฉง ประกาศอาตมเอง อาจเอื้อม เสรีบ่มีเพลง พลัดเพลิด วางใหญ่ไว้แง่เงื้อม เงื่อนโค้งโกงกล |
|
|
|
56. Oratories do bend affairs |
|
๕๖.
ไขหลักชักเชิดชี้ ชวนใจ พวกมากลากกันไป ปลุกป้อน น้อยผู้จะรู้นัย ความคิด ช่วยชาติเพื่อกวาดต้อน ประโยชน์ไว้ในตน |
|
|
|
57. Office filled by the most unfit, |
|
๕๗.
ใช้แยบแอบอ้างชื่อ ชนหลาย ยื้อแย่งตำแหน่งนาย หนีบเน้น จำโนษโฆษณสาย สนจมูก หมู่มหิงส์วิ่งเต้น ไต่เต้าตีนตาม |
|
|
|
58. Ere long thyranny's tide will turn. |
|
๕๘.
เสรีไม่มีช้า ชิมรส แปรธาติฝาดเฝื่อนกรด กัดลิ้น โอษฐ์หุบอุบอิบหด หัวหู่ อ่อนจิตอิสระสิ้น สุดแล้วเสรี |
|
|
|
59. What's a diamond to an ape, Do you think? It's nothing to be eaten by a monkey. |
|
๕๙. เพชรอย่างดีมีค่าราคายิ่ง ส่งให้ลิงจะรู้ค่าราคาหรือ |
|
|
|
60. To firefly, its own little light. |
|
๖๐.
หิงห้อยฤาจักสู้ ราศี บังบดอุทัยกวี เจิดจ้า ใต้ฟ้าร่มบารมี เป็นสุข หากอาจเอื้อมถึงฟ้า มอดม้วยาสัญ |
|
|
|
61. Life's but a breath borrowed from time. |
|
๖๑.
ชีวิตอันสั้นนี้ ยืมมา จากกาลปาวสาน์ ไม่สิ้น แต่มนุษย์ยังสา มารถสร้าง สัจธรรมอมตชิ้น อยู่ล้ำโลกา |
|
|
|
62. Thy graces count beyond |
|
๖๒.
บารมีพระมากพ้น รำพัน พระพิทักษ์ยิติธรรม์ ถ่องแท้ บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องโลก ไซร้แฮ ทวยราษฎร์รักบาทแม้ ยิ่งด้วยบิตุรงค์ |
|
|
|
63. Known the world o'er with |
|
๖๓. โลกยลพระสิริล้ำ ราชินี ไทยเอย ยอพระลักษณราศี เสนาะหล้า สยามราษฎร์สิหากมี บุญญฤทธิ์ ยิ่งแฮ ร่มรื่นพระทัยอ้า อุ้นเอื้ออวยเกษม |
|
|
|
64. Hundred years though our days may saan, |
|
๖๔.
ชีพเรายืนอยู่ร้อย เรียงฉนำ ไฉนนอ ทุกข์สุขสืบบุญกรรม ก่อไว้ ศกหนึ่งขวบหนึ่งนำ ทุกข์เนื่อง กันนา แบบฉบับปุถุชนไร้ เรื่องร้อน ฤามี ปีใหม่ศุภฤกษ์พ้อง พรรษกาล ผงมสุขทุกวันวาร ห่อนเว้น สรรพสวัสดิ์ขจัดพาล ภัยสยบ สิ้นแฮ ทุกข์โศกสร่างโรคเร้น เรื่องร้ายมลายสูญ โสตดิ์เทอญ |
|
|
|
65. Pray, siam guardian angle protect all thais. |
|
๖๕. ขอสยามเทวราชคุ้ม ครองไทย ชื่นประชาธิปไตย แต่งหล้า ราษฎร์รอดชีพปลอดภัย พาลสยบ สิ้นเทอญ วโรกาสศกใหม่อ้า โอษฐ์เอื้ออวยเกษม |
|
|
|
66. Sag Gra Wa, at a pinch, prince phuwanet. |
|
๖๖. สักวาน่าจะโห่ให้เรือล่ม นี่หรือกรมภูวเนตรเศษสวรรค์ เอานายทิมเข้ามาทวนพอควรกัน เหมือนอย่าง หั่นใบขี้เหล็กให้เด็กยำ |
|
|
|
67. Rama third, my beloved lord of life. |
|
๖๗. พระนั่งเกล้าเจ้าจังหวัดชัชวาลย์ ทรงโปรดปรานเป็นพระแสงตำแหน่งใน ก็ล่วงละพระชนม์กมลหมาย ช่างไม่ตายตามเขตพระเดชได้ ยังเหลืออยู่คู่คี่ไม่มีใคร ท่านผู้ใหญ่ต่างกรมก็ล้มตาย ล่วงแผ่นดินปิ่นเกษจอมมงกุฎ กลับจนสุดเกินริบที่ฉิบหาย เหลือกลอนกับชีวิตอยู่ติดกาย จึงพากเพียรเขียนขายถวายปัญญา |
|
|
|
68. Lookink at the moon on high. |
|
๖๘. ชมแขคิดใช่หน้า นวลนาง เดือนตำหนิวงกลาง ต่ายแต้ม พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง จักเปรียบ ใดเลย ขำกว่าแขไขแย้ม ยิ่งยิ้มอับษร |
|
|
|
69. My love, my beauty divine; |
|
๖๙. โอ้ศรีเสาวลักษณ์ล้ำ แลโลม โลกเอย แม้ว่ามีกิ่งพโยม ยื่นหล้า แขวนขวัญนุชชูโฉม แมกเมฆ ไว้แม่ กีดบ่มีกิ่งฟ้า ฝากน้องนางเดียว |
|
|
|
70. Turned I to nether world's custody, |
|
๗๐. โฉมควรจักฝากฟ้า ฤาดิน ดีฤา เกรงเทพไท้ธรณินทร์ ลอบกล้ำ ฝากลมเลื่อนโฉมบิน บนเล่า นะแม่ ลมจะชายชักช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน |
|
|
|
71. Turned i to indr's lof. Ty kind. |
|
๗๑. ฝากอุมาสมรแม่แจ้ ลักษมี เล่านา ทราบสวยมภูวจักรี เกลือกใกล้ เรียมคิดจบจนตรี โลกล่วง แล้วแม่ โฉมฝากใจแม่ได้ ยิ่งด้วยใครครอง |
|
|
|
|