Reincarnation >> Fansection >> Fanfiction >> Brilliant Blue 7

 

 

Brilliant Blue Episode 7

by akuma sama

ถ้ายังไงก็อยากให้ Comment มากันจัง เราอยากรู้ว่า Fic เราเป็นไงมั่งน่ะ^_^ please....


Brilliant Blue Episode 7
เปลือกตาบางลืมขึ้นมาอย่างช้าๆท่ามกลางความเงียบสงัดภายในห้อง ร่างบอบบางดันกายขึ้นมาจากเตียงนุ่มพลางบิดขี้เกียจไปมาด้วยอาการง่วงนอนก่อนจะสะบัดหัวอย่างตกใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นได้ 
เขาเบิกตากว้างพลางส่ายสายตามองไปรอบๆห้อง…แต่ก็เป็นห้องที่เขาคุ้นตาเป็นอย่างดีนี่นา…แล้วเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นมันยังไงกันแน่…ดวงตากลมโตเหลือบมองเห็นร่างสูงที่นั่งข้างอยู่นานซึ่งกำลังเทไวน์องุ่นใส่แก้วทรงสวยแล้วยกขึ้นจิบเบาๆ…มาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน….

“ไง…Hyde…หลับสบายดีไหม…ฉันก็เตือนแล้วเตือนอีก…ทีนี้รู้รึยังล่ะ…” 
ร่างสูงพูดขึ้นก่อนขยับร่างของตนเข้าใกล้ สายตาคมยังคงจ้องมองที่ดวงหน้าสวยราวกับจะให้อีกฝ่ายสรรหาถ้อยคำแก้ตัวมาพูดกับเขาให้ได้
“ก็แล้วไง Sakura…อย่ามากวนประสาทตอนนี้…ฉันอยากรู้ว่าฉันกลับมาที่นี่ได้ยังไง” Hyde ถามพลางชี้นิ้วไปรอบๆห้องกว้างอย่างงงๆ 
เหตุการณ์ที่ถูกตัดตอนไปด้วยอาการหลับจากยาสลบของเขาทำให้เขาคิดไม่ตกเวียนไปวนมาในหัสจนเขาแยกแยะมันไม่ออก… 
แล้วทำไมคนๆนั้นต้องทำแบบนั้นด้วยนะ…
“ก็ฉันพามาน่ะสิ…เห็นนั่งอยู่อย่างนี้นายน่าจะรู้นะ…” 
ใบหน้าคมพูดด้วยอารมณ์กรุ่นที่แฝงอยู่ภายในแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดืมขณะที่ลำแขนอีกข้างก็เกี่ยวอยู่ที่คอดเอวบางของอีกฝ่าย ร่างบอบบางดูเหมือนจะยังดื้อดึงไม่ยอมลดละความพยายามถามเรื่องที่คั่งค้างในสมองเขาออกมาให้หมด

“ฉันอยากรู้!….ฉันว่านายต้องรู้แน่ๆ…ฉันไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่ ตั้งใจจะปั่นหัวฉันเล่นหรือว่าอะไร 
พวกนายน่ะ!!!…. ตอบฉันมาได้ไหมล่ะ Saku!?! 
ทำไมนายเหมือนจะกำความลับอะไรบางอย่างไว้อย่างกับว่าไม่ให้ฉันรู้เรื่องราวอะไรเลย แล้วทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นด้วย! ทำไม Ki….!!!!!” ริมฝีปากอิ่มที่อ้าเผยอออกพูดถ้อยจำต่างๆออกไปด้วยความสงสัยถูกหยุดไว้ด้วยริมฝีปากบางที่เข้าประกบจูบในทันทีไม่รอให้พูดอะไรต่อได้อีก 
พร้อมกับไวน์องุ่นในริมฝีปากผ่านเข้าสู่ปากอิ่มอย่างช้าๆให้ได้รู้รสบวกไปกับปลายลิ้นที่ซอกซอนเข้าไปภายในโดยทั่วถึง กระนั้นก็ยังมีบางหยดที่ไหลเลอะออกมาจากริมฝีปากบ้าง 
หยดน้ำรสเลิศไหลไล่เลื่อนลงมาสู่ลำคอขาวเนียน ร่างสูงค่อยๆถอนริมฝีปากออกพลางจ้องมองร่างบอบบางในอ้อมแขนของตนที่ไอลำสักรสไวน์นั้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ 
ก่อนจะโน้มหน้าเข้าใกล้ดวงหน้าสวย

“ต้องเก็บให้หมด…รู้ไหม…ว่าไวน์นี้รสชาติดีมากๆเลยนะ” ปลายลิ้นอุ่นของเจ้าของถ้อยคำลามเลียตรงลำคอบริเวณที่หยดไวน์ไหลริน 
กระชับร่างแนบชิดไม่ให้ลำแขนเรียวเล็กของฝ่ายร่างเล็กได้ป้องปัดอะไรได้

“Sakura!!!….อย่าทำอย่างนี้นะ!!!” เสียงทุ้มเจือหวานร้องห้ามให้หยุด ลำแขนเรียวเล็กนั้นพยายามปัดป่ายร่างสูงทีตอนนี้เริ่มโอบรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ 
แต่ยังคงไม่ละความพยายามของใบหน้าคม ลำแขนแข็งแรงยกแก้วไวน์ขึ้น เทน้ำสีม่วงแดงให้ไหลรินเรื่อยตาซอกคอแล้วกระหวัดปลายลิ้นของตนลามเลียอย่างช้าๆแต่หนักหน่วงก่อนจะกดร่างบอบบางลงกับเตียงนุ่มในทันทีจนผู้ถูกกระทำรู้สึกเวียนหัวจากแรงกดนั้น 
Hyde ค่อยๆฝืนเงยหน้าขึ้นแต่ก็ถูกร่างสูงรุกเร้าอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวติด ลำแขนแข็งแรงของฝ่ายรุกไม่รอช้าเลื่อนแกะกระดุมเสื้อตัวบางขาวทั้งชุดออกในทันนที แม้ Hyde จะต่อต้านแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงอีกฝ่ายได้ 
ที่ทำได้ในขณะนี้คือเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบกับดวงตาคมกร้าวแฝงแววโทสะนั้น

“ปลายลิ้นอุ่นยังคงลามเลียหยดน้ำสีม่วงแดงที่ยังคงค้างอยู่ตามซอกคอและบริเวณหน้าอกเนียน ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนหน้าคมเข้าประชิดติดดวงหน้าสวยแล้วจ้องมองดวงตาคู่งามกลมของฝ่ายเบื้องล่างซึ่งหลบสายตาอยู่แล้วค่อยโน้มหน้าคมกระซิบแผ่วที่ข้างหู

“นายจะต่อต้านฉันไปทำไม…รับไม่ได้? หรือว่าเพราะนายไม่ชอบฉัน…” ไม่มีคำตอบใดๆหลุดจากปากอิ่มนั้น ดวงหน้าหวานยังคงไม่กล้าที่จะสบตากับเขาอยู่ 
ด้วยสาเหตุใด…ด้วยอารมณ์ไหน…โกรธ…เกลียด…รับไม่ได้…หรือว่าเพราะอะไร เขาไม่เคยรู้มาก่อน การกระทำอย่างนี้ผิดงั้นหรือ ถ้าการกระทำนั้นเนื่องมาจากเขารักคนๆนี้จริง ปรารถนาจริงๆ 
ไม่เพียงแค่เรือนร่างที่สวยงามบอบบางนี้เพียงเท่านั้น ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้น แต่ทุกอย่าง…ทุกอย่างที่เป็น Hyde…เขาต้องการทั้งหมด…ต้องการให้มาอยู่กับเขา 
ไม่อยากยกให้ใครอื่นไป…ทั้งๆที่ Hyde ก็ดูเหมือนจะคิดเหมือนกับเขา…แต่ทำไมถึงไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยซักคำ เพราะคนๆนั้นงั้นหรือไง… เมื่อไม่ได้คำตอบอะไรจากร่างเบื้องล่าง Sakura 
จึงตัดสินใจสานต่อการกระทำในตอนนี้ ลำแขนของฝ่ายรุกเร้าตวัดรัดร่างบอบบางให้แนบชิดกับร่างตัวเองมากยิ่งขึ้นจนสัมผัสได้ถึงความร้อนในกายของอีกฝ่ายได้ทุกจุด 
ดวงหน้าหวานทำท่ามุ่นคิ้วราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

“ที่ทำอย่างนี้…เพราะนายรักฉัน…งั้นเหรอ?” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นผะแผ่วปะปนมากับเสียงกระเส่าเมื่อร่างสูงผู้ถามยังคงรุกต่อไป 
ดวงหน้าคมเงยขึ้นพูดกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนให้ผู้ถามได้ยินอย่างถนัดหู

“รักสิ…รักนายมาก…ไม่อยากให้ไปไหน…ไม่ให้ใครมายุ่งไม่ยกนายให้ใคร…รวมถึงไอ้หมอนั่นด้วย…” ร่างสูงพูดพลางซุกไซร้ตามหน้าอกเนียน 
ลำแขนแข็งแรงค่อยปลดอาภรณ์ชิ้นที่เหลือของร่างเบื้องล่างและตนออกอย่างช้าๆ ฝ่ามืออุ่นหนาเลื่อนลูบไล้ผิวกายเนียนไปทั่วปลุกแรงอารมณ์ให้ยิ่งมากขึ้น 
เรียวขาเนียนเล็กค่อยๆขยับแยกออกก่อนลำแขนจะโอบโน้มรอบลำคอของ Sakura ให้ใบหน้าคมใกล้ชิดกับตามากขึ้นจนร่างสูงรู้สึกแปลกใจแต่แล้วน้ำเสียงทุ้มเจือหวานที่หอบหายใจคลอเคล้าจึงเอ่ยขึ้นเพื่อให้คลายความสงสัย

“ก็บอกฉันตั้งแต่แรกสิ…บอกให้ฟัง…ทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกที่นายมีต่อฉัน…ทั้งหมด ฉันก็จะได้บอกว่ารักนายเหมือนกัน…จากใจจริงๆนะ…” Hyde 
พูดขึ้นเสียงแผ่วช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองยังดวงตาคมกร้าวซึ่งก็จ้องมองมาเช่นกัน ร่างสูงนิ่งซักครู่ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยเจือใบหน้า 
ฝ่ามืออุ่นหนาเลื่อนขึ้นลูบไล้ดวงหน้าหวานเบาๆก่อนจะเชยคางขึ้นประกบจูบแล้วค่อยๆถอนริมฝีปากออกอย่างช้าๆก่อนจะไล่เลียตามซอกคอเนียน 
ดวงหน้าหวานค่อยสะบัดเงยขึ้นไม่ขัดขืนใดๆ เปิดทางให้ร่างเบื้องบนได้ทำตามปรารถนาเมื่อรู้ว่าร่างเบื้องล่างไม่ได้ขัดขืนอะไรต่อ ร่างสูงจึงเริ่มรุกเร้าอย่างต่อเนื่อง 
กอดรัดร่างบอบบางแน่นขึ้นเร่งเสียงครางหวานหูให้เปล่งออกจากริมฝีปากอิ่มชื้นสีชมพูเจือจางสวยของดวงหน้าหวาน 
ริมฝีปากบางสวยใสเลื่อนลงต่ำพร้อมกับปลายลิ้นอุ่นที่หยอกเย้าไปเรื่อยๆในขณะที่เรียวขาเล็กนั้นเลื่อนไปมาลูบไล้เรียวขาของร่างเบื้องบนพร้อมกับเสียงครางหวานที่มีมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากแรกรุกเร้า 
นิ้วสวยจากมือเรียวเล็กไล่เลื่อนกรีดแผ่นหลังระบายอารมณ์ที่เกิดขึ้น ดวงหน้าสวยแหวกสะบัดเงยตามปลายลิ้นอุ่นที่ไล่เลื่อนจากปลายคอจนถึงคางและสันคาง ลำแขนแกร่งยกเรียวขานั้นขึ้นลูบไล้แผ่วเบาก่อนจะประกบจูบกับริมฝีปากอิ่มใช้ปลายลิ้นสอดแทรกซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบรับกลับมาเช่นเดียวกัน 
เสียงกระซิบแผ่วหอบหายใจของทั้งสองฝ่ายยังดำเนินต่อไปเนิ่นนานจนถึงที่สุดสิ้น ดวงหน้าสวยขมวดคิ้วเรียวแน่นด้วยความเจ็บที่ก่อเกิดจากการกระทำของร่างสูง 
ฝ่ามืออุ่นหนาลูบไล้ดวงหน้าเนียนที่ปริ่มน้ำตาก่อนเสียงทุ้มกังวาลที่ฟังดูอ่อนโยนจะเอ่ยขึ้นเป็นเชิงถาม

“ขอโทษนะ…ที่ไม่ได้ถามก่อน…เจ็บมากไหม…” Sakura เอ่ยถามขึ้นก่อนจูบซับน้ำตาที่คลอคลั่งที่หางตาของดวงตากลมสวย Hyde ส่ายหน้าแม้ตอนนี้ความเจ็บปวดจะมีมากมาย 
ลำแขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคออีกฝ่ายให้หน้าคมโน้มเข้าใกล้พร้อมกับรอยยยิ้มบางละมุนเจือดวงหน้าหวาน

“ไม่เจ็บก็บ้าสิ….คนอะไร…แรงเยอะชะมัด…บ้า!” Hyde พูดเป็นเชิงว่าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ…บ้าชะมัด…ไม่น่าปล่อยตัวปล่อยใจให้เจ้านี่เลยจริงๆ…คิดแล้วเจ็บใจจริงๆ!!! 
แต่ช่างเถอะ…ก็เผลอรักไปแล้วนี่นาจะให้ทำไงได้…แล้วต่อไปฉันจะเป็นยังไงเนี่ย… ตั้งแต่เจ้าคนๆนี้เข้ามาในชีวิตก็ดูเหมือนจะพลิกผันไปซะทุกอย่าง… 
เรื่องประหลาดที่เขาได้เจอมันยังคงเป็นปมในหัวของเขาอยู่ยังไม่ซาไป… ส่วนคนๆนี้ก็ใช่จะเปิดเผย…กลับยิ่งดูปิดบังลึกลับจนเขาอยากจะล้วงลึกลงถึงแก่นกลางของเบื้องหลัง 
ดวงตาคู่คมกร้าวที่ดูมีมนตร์ขลังราวกับแรงสะกดให้ต้องหยุดนิ่ง…แล้วนิสัยที่ยังคล้ายกับคนๆนั้นอีกต่างหาก…Hyde เหลือบตามองร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆเขา 
หลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นลง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจให้แก่ผู้นั้นได้ยิน

“รู้ไหม…Sakura…นายคล้ายๆกับ Boss ของฉันมากๆเลยนะ” ผู้ถูกทักนั้นเลิ่กคิ้วขึ้นก่อนจะหันมามองร่างเล็กผู้พูดนั้นอย่างแปลกใจ ร่างสูงเขยือบเข้าใกล้ร่างบอบบางแล้วพูดโต้ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มกังวาลคุ้นหู

“งั้นเหรอ…แล้ว…เออ…นายทำงานอะไรล่ะ” Sakura เอ่ยถามขึ้นก่อนจะพลิกตัวใช้ลำแขนแกร่งท้าวศรีษะของตนให้ดวงหน้าคมหันมาทางใบหน้าของอีกฝ่ายที่นอนตะแคงมาทางเขาด้วยความเอ็นดูซึ่งสังเกตได้จากริมฝีปากบางที่เจือยิ้มนิดๆ 
Hyde ค่อยเงยหน้าขึ้นให้พอทัดเทียมกับอีกฝ่าย

“ทำงานอยู่ที่บาร์ในตัวเมือง Tokyo นู้น… เป็นนักร้องของบาร์….แล้วที่บาร์ก็มี Boss เป็นเจ้าของกิจการทั้งหมด” 
ร่างเล็กเริ่มขยับเขยื้อนตัวขึ้นเพื่อที่จะได้พูดถึงบุคคลที่เขาดูจะนับถือเป็นพิเศษได้ถนัด

“ฉันน่ะ…ไม่เคยเห็น Boss หรอก…รู้จักก็แค่ทางโทรศัพท์กับจดหมาย เหลือเชื่อใช่ไหม?” ดวงหน้าหวานพูดพลางยิ้มเจือใบหน้าใสราวกับเด็กๆ 
แต่มันก็เหมือนจะแฝงไปด้วยความเศร้าโศกเช่นกัน…. ดวงตาคมกร้าวมองทะลุเข้าไปยังความรู้สึกนั้นได้ดี…คงเสียใจมากสินะ…ที่ต้องจากทั้งงาน 
ทั้งเพื่อนสนิทและก็ทั้งเจ้านายที่รักด้วยอย่างนี้… ลำแขนแกร่งโอบกอดกระชับร่างเล็กหลังจากที่ความคิดนั้นก่อเกิดขึ้น… Hyde …. 
ถ้านายรู้เรื่องทั้งหมด ความรู้สึกนายจะเปลี่ยนไปขนาดไหนนะ…จะคงที่หรือแปรผันเปลี่ยนจากที่เคยเป็น…ไม่ช้าหรอก Hyde…แล้วนายจะได้รู้ว่าสาเหตุที่เจ้านั่นต้องทำอย่างนั้นเพราะอะไร… 
แล้วฉันที่เป็นใครกันแน่ที่นายสงสัยอยู่ บางที… นายอาจจะรู้สึกเหลือเชื่อก็ได้ถ้านายได้รู้ความจริงทั้งหมด!

“ว่าแต่…ฉันอยากถามอะไรนายซักหน่อย 
Hyde…นี่นายไม่รู้จริงๆเหรอว่าโดนจับมาขายตั้งแต่เมื่อไร?” ดวงหน้าสวยของผู้ถูกถามหันควับมาพร้อมกับเรียวคิ้วที่มุ่นขมวดเป็นปมยิ่งกว่าเงื่อน 
2 ชั้นเสียอีก Hyde พยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างลำบาก… แย่ชะมัด!… 
ถ้าเขาเป็นคนช่างจำอะไรให้มากกว่านี้ก็คงจะดีนะเนี่ย…จะได้ไม่ต้องมาลำบากทีหลังอย่างนี้ ราวกับว่ามีอะไรซักอย่างผุดขึ้นมาในความคิดของเขา 
ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันทีก่อนจะหันมาทางร่างสูงด้วยหน้าตาตื่นตระหนกเนื่องจากการฉุกคิดขึ้นมาได้ของเขา…อะไรบางสิ่ง…ที่ทำให้เขาอยู่ที่นี่…

“ใช่แล้ว!!!….ฉันหลับ!…หลับอยู่ที่หน้า Mansion เพราะเมา…แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย… พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็เป็นบ้านนายนี่หล่ะ!!!” 
Hyde พูดขึ้นอย่างตกใจ…ใช่แล้ว…ใครสักคน…ที่ขายเขาให้กับคนๆนี้…ใครนะ? ใบหน้าคมทำท่าขบคิดอยู่นานก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงเบาสร้างความแปลกใจให้กับร่างเล็กที่นิ่งอึ้ง แต่ก่อนที่ความสงสัยในตัวของ Hyde 
จะได้เอ่ยผ่านริมฝีปากอิ่มออกมาเป็นคำพูดถามอีกฝ่าย ร่างสูงก็พูดเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

“เจ้าหมอนั่นท่าทางจะเอาจริง…Hyde… จะว่าไปแล้วนายก็เสน่ห์แรงใช่เล่นนะ…” Sakura พูดพลางหัวเราะหยอกๆ แทนที่ความสงสัยในหัวสมองของร่างบอบบางจะคลายไปบ้างกลับยิ่งขมวดปมแน่นขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินประโยคที่ฝ่ายตรงข้ามพูด

“หมายความว่ายังไง…ฉันไม่เห็นเข้าในเลย Saku…” ดวงหน้าหวานพูดขึ้นพลางทำหน้าเบ้ไม่พอใจ…คนกำลังจริงจังกับชีวิต… เจ้านี่ก็ดูเหมือนจะพูดอะไรที่เข้าใจยากให้เขาสงสัย… 
แต่ก็ดูเหมือนจะไม่จริงจังราวกับล้อเล่นเสียทุกที Hyde เขยือบตัวเข้าใกล้ขึ้นไปอีกพลางเขย่าร่างสูงให้ตอบตำถามเขา

“เฮ้ย!ตอบมาเด้!… พูดอะไรไม่เห็นเข้าในเลยซักกะนิด… ฉันไม่ได้ฉลาดอย่างที่นายคิดนะเว้ย…”

“โธ่เอ๊ย… Hyde… ฉันก็แค่พูดล้อเล่นไปอย่างนั้นเอง… นายก็คิดมากไปได้…” Sakura พยายามพูดบ่ายเบี่ยงเสไปแต่ก็ดูเหมือนว่า Hyde 
จะไม่มีทีท่ายอมความเลยซักนิด ยังคงป้อนคำถามต่อไปบีบให้ร่างสูงตอบ Sakura ได้แต่หัวเราะร่วนอย่างขบขันในความเอาแต่ใจของร่างบอบบางข้างเขา 
แต่ก็ไม่ได้มีมาให้ได้ฟังแม้แต่คำตอบเดียว

“Sakura…ถ้านายไม่ตอบนะ!… ฉันจะไม่ยุ่งกับนาย ไม่คุยกับนาย จะไม่กินข้าวด้วยกัน จะไม่เลี้ยงไอ้สิงโตน้อยให้ตอนนายไม่อยู่…จะไม่…!!!” ยังไม่ทันที่เสียงต่อรองแบบเด็กๆนั้นจะได้เอ่ยอะไรต่างๆนานาสารพัดขึ้นมาขู่ต่อให้ร่างสูงยอมจำนนก็ถูก Sakura ประกบจูบในทันที หยุดทุกอย่างไว้ซะก่อน จากนั้นจึงค่อยๆถอนริมฝีปากออก จ้องมองดวงตากลมโตของใบหน้าหวานใสราวกับหญิงสาวแล้วพูดกระซิบแผ่วข้างๆหูกลั้วเสียงหัวเราะ

“ถ้านายต่อรองกับฉันได้…งั้นฉันก็เหมือนกัน..ถ้านายไม่หยุดพูด…นายกับฉันได้อีกรอบแน่ๆ…” ทันตาเห็น…ทันทีที่เสียงทุ้มกังวาลผ่านเข้าโสตประสาท 
ริมฝีปากอิ่มสวยที่อ้าปากจะโต้เถียงก็หยุดตีฝีปากทันที ดวงหน้าหวานตีสีหน้ายุ่งพลางจะอ้าปากบ่น แต่ทันทีที่อ้าปากก็ถูกลำแขนแกร่งกดลงกับเตียงนุ่มในทันที Hyde 
ได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อทำได้เพียงแค่จ้องมองร่างสูงนั้น

“อย่าถามอะไรฉันเยอะนะ…เพราะอีกไม่นานนายก็จะได้รู้…เข้าใจไหม?” ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแค่การพยักเพยิดดวงหน้าสวยแทน 
เพราะเกรงว่าถ้าพูดแล้วจะเป็นอย่างที่อีกฝ่ายเตือนแหงๆ ร่างสูงค่อยลุกขึ้น ใส่อาภรณ์ของตนก่อนจะหันมาทางร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียง

“จะไปเอาอะไรมาให้กิน…นี่ก็ตกค่ำแล้ว…แล้วก็เดี๋ยวจะพาไปอาบน้ำนะ 
ดูสิ…ไวน์เลอะเตียงไปหมด… นายคงลุกไม่ไหวหรอก อยู่ที่นี่ไปก่อนนะ…ที่รัก…” 
คำพูดเชิงยียวนเอ่ยขึ้นก่อนเจ้าของถ้อยคำจะออกจากห้องไป 
ร่างเล็กยังคงมองด้วยแววตาค้อนเคืองอยู่อย่างไม่ลดละ…ที่รักงั้นเหรอ…บ้าที่สุดเลย!!ก…ไอ้ Sakura!!!!!

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ไอ้สิงโตน้อย…วันนี้เจ้านายแกออกไปจากบ้านแต่เช้าเลย รู้ไหมไปไหน” 
Hyde เดินมาพลางนั่งยองๆข้างเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักแสนหวงของผู้เลี้ยงที่เขาถามถึง มือเรียวเล็กลูบหัวเจ้าสิงโต้น้อยช้าๆ 
เจ้าสัตว์เลี้ยงที่ถูกถามพยักศรีษะฟูฟ่องของตนหงึกหงักราวกับเข้าใจความก่อนจะชูหัวเชิดหน้าไปทิศทางที่ตัวเมือง 
Tokyo ตั้งตระหง่านไกลสุดลูกหูลูกตา ดวงตากลมโตทอดสายตามองไปทางเดียวกับไอ้สิงโต้น้อยอย่างครุ่นคิด 
…รู้สึกว่าเจ้านั่นจะเขข้าเมืองบ่อยมาก… อยากรู้จริงๆว่าทำงานอะไร แล้วทำไมต้องมาตั้งบ้านอยู่ซะไกลลิบลิ่ว… อ้าก!!! ทำไมไอ้ ‘คนรัก’ 
ฉันมันถึงมีความลับเยอะอย่างนี้นะ… ถามก็ไม่ได้อีก… แล้วที่บอกว่าอีกไม่นานก็จะได้รู้ ต้องนานแค่ไหนนะ… จนกว่าน้ำแข็งขั้วโลกละลายมารวมกันเลยหรือไงถึงจะบอกฉันได้… โอ้ย! 
ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ไม่เอาแล้ว… ร่างเล็กยืนขึ้นเหยีอดตัวบิดขี้เกียจไปมาก่อนที่ Idea แก้เซ็งจะจุดประกายขึ้นมาให้หัวสมอง 
เรียวปากอิ่มสวยเหยียดยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ

“ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่…ก็เข้าออกแทบทุกห้องแล้ว เหลือแค่ห้อง Saku นี่หล่ะ…จะเข้าทีไรหมอนั่นต้องบอกห้ามเสียงแข็งทุกที…ปิดบังอะไรไว้นักรึไง”ว่าพลางก็รีบสาวเท้าเล็กๆของตนเดินไปยังห้องผู้นั้นในทันที 
โดยที่มี 4 เท้าของเจ้าสิงโตเดินตามต้อยๆไปด้วย Hyde หยุดกึกก่อนจะหางตามองเจ้าสัตว์เลี้ยงที่เดินตามด้วยแววที่ไม่พึงพอใจเท่าไรนัก

“จะตามฉันมาทำไมเล่า…ฉันไม่ได้จะรื้อห้องเจ้านายแกซะหน่อย” แววตากลมใสฉายแววนักล่าจ้องมองยังร่างบอบบางก่อนจะหยุดนั่งลงกระดิกหางราวกับสุนัขแสนเชื่อง 
…ท่าทางเจ้าเล่ห์ไม่น้อยเลยนะ… เจ้าสิงโตตัวนี้…ไม่ต่างกับเจ้าของเท่าไรเลยจริงๆ… พอขาเรียวเล็กจะก้าวต่อ 
ขาหนัก 1 ใน 4 ของเจ้าสิงโตก็ก้าวตามในทันที ดวงหน้าหวานหันควับกลับมามองหน้าที่พยายามทำให้เหมือนไร้เดียงสาของเจ้าสิงโตน้อยก่อนจะพูดออกไปอย่างรำคาญเต็มทน

“โว้ย!!!…นี่! ฉันไม่ใช่โจรนะเฟ้ย…อีกอย่างฉันกะเจ้านายแกเป็นยังไงก็น่าจะรู้…ฉันเป็นคนให้อาหารแกนะ ถ้ากลัวฉันจะปทุสร้ายห้องเจ้านายแกก็นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไปสิ 
แล้วถ้าเห็นไม่ชอบมาพากลก็พังประตูเข้าไป… ฉันแค่อยากดูห้องก็เท่านั้นเอง…” ว่าพลางก็ปิดประตูห้องใส่โดยที่เจ้าสิงโตก็ทำตามคำบอกจริงๆ Hyde 
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินสำรวจห้องกว้างขวางจนไม่หมดสายตา ทุกสิ่งทุกอย่างดูดีลงตัวในแบบของศิลปะที่แตกต่างกันออกไป ทั้งแจกันจีน 
รูปภาพราคาแพง นาฬิกาแขวน เตียงหรือแม้แต่ผ้าพรมสีน้ำเงิน ฝีเท้าเล็กก้าวเดินเบาๆ เดินไปตามห้องกว้างขวาง…ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องปิดบังเลยนี่นา แต่ก็ดูรกๆไปหน่อยนะ 
จัดให้ซักหน่อยดีกว่า โดยเฉพาะชั้นวางของนั่น….Hyde คิดพลางเดินสาวเท้าไปที่ชั้นวางของสีน้ำตาลไม้สูงประมาณตัวเขาได้ ก่อนจะจัดการลื้อเอกสารทั้งหมดภายในชั้นออกมา 
เอกสารแปลกๆมากมายถูกวางไว้กับพื้นในขณะที่มือเรียวเล็กจัดแจงเรียงเป็นอย่างดี

“นี่มันเอกสารอะไรกันเนี่ย…เอยะแยะไปหมด…เจ้านี่ทำงานอะไรกันแน่ฟะ เอ๊ะ! นี่จดหมายอะไรหว่า” เสียงทุ้มหวานที่บ่นพึมพำหยุดชะงักเมื่อเห็นบางสิ่งคล้ายกับจดหมายเขียนโต้ตอบกัน 
แต่ดูเหมือนว่าจดหมายฉบับที่มือเรียวของเขาถืออยู่จะดูคุ้นตาเหลือเกิน… ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นของส่วนตัวแต่เขาเองก็ต้องแพ้ความอยากรู้อยากเห็นในใจของเขาอยู่ดี 
สายตาจากดวงตากลมโตกราดมองตัวอักษรทีละตัว… เฮ้ย!!!… นี่มันจดหมายที่เขาเขียนถึง Boss!!!! ทำไมมาอยู่กะเจ้านี่ได้ล่ะ!!!!
เสียงแกรกกรากข้างหน้าต่างดังขึ้นทำให้ Hyde สะดุ้ง ร่างเล็กละสายตาจากจดหมายฉบับนั้นก่อนจะเก็บเอกสารใส่ชั้นอย่างลวกๆ 
พลันลุกเปิดหน้าต่างพรวดออกไปหาต้นเสียงที่หน้าต่างนั้น ดวงตากลมโตมองเห็นชายในชุดสีดำ ผมสีทองวิ่งออกจากบ้าน 
ร่างเล็กรีบเร่งเปิดประตูพรวดทันทีโดยไม่ทันระวังกระแทกใส่เจ้าสิงโตน้อยเต็มแรง แต่ก่อนที่เจ้าตัวที่ถูกประตูบานใหญ่กระแทกจะได้แยกเขี้ยวแง่งใส่ให้หายแค้น 
เสียงทุ้มหวานก็ตะโกนดังขึ้นมาซะก่อน

“ไอ้สิงโตน้อย!!!!!….วิ่งเร็ว!!….มีใครก็ไม่รู้ปีนขึ้นบ้านเจ้านายแก!!!” ประสาทรับรู้ถ้อยคำต่างๆชัดเจน ฝีเท้าทั้ง 4 ก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วดูท่าในแววนักล่าเต็มตัวโดยที่มี Hyde 
คอยวิ่งไล่ตามหลังไปด้วย

“อย่าหนีนะ!!!ไอ้โจรขโมยของ…ตะปบมันไว้อย่าเพิ่งกินซะล่ะเจ้าสิงโต!!!” คำบัญชาการทันทีที่เจ้าสิงโตน้อยโดยขึ้นสู่กลางอากาศ 
เจ้าคนแปลกหน้าคงไม่รอดเงื้อมมือมันแน่ๆ น้ำเหนักของเจ้าสัตว์ที่เกิน 60 กิโล กดทับลงบนหลังของบุคคลแปลกหน้าจนติดพื้นหญ้า 
ผู้นั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากน้ำหนักที่กดทับร่าง หลังจากนั้น Hyde จึงวิ่งตามมาในภายหลัง เจ้าสิงโตจึงเลื่อนกายออกเหลือแค่อุ้งมือที่ยังคงกดทับหลังอีกฝ่ายเท่านั้น

“ไหนๆ…ขอดูหน้าหน่อยสิ…เจ้าหัวขโมย!!…….!!” ใบหน้าผู้นั้นปรากฏชัดแก่สายตา เรือนผมสีทองสั้น.. กับใบหน้าที่คุ้นเคยเมื่อหมวดที่ปิดยังนั้นหลุดออกจากศรีษะ 
…ร่างเล็กเบิกตากว้างก่อนจะร้องขึ้นมาอย่างไม่เชื่อสายตา

“นายมาทำอะไรที่นี่!!!ก….Kiyoharu!!!!!” Hyde พูดขึ้นก่อนจะถอยห่าง เรื่องราวในวันนั้นพลันผุดขึ้นมาในหัวทันที 
ผู้ถูกทักนั้นยิ้มให้ซักเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าใกล้ร่างบอบบางนั้นแล้วเอ่ยคำทักทายที่ดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรซักเท่าไรนัก

“ไง…Hyde…โชคไม่ดีเลยนะที่วันก่อนไอ้หมอนั่นมาช่วยนายไว้”
“นายพูดอะไร…ฉันไม่เข้าใจ แล้วงานที่บาร์ล่ะ ทำไม่ถึงรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่กับคนๆนั้นได้!!!!” คำถามและปัญหามากมายหลั่งไหลออกมาสู่สมองของดวงหน้าหวานที่มุ่นคิ้วเรียวสวยอย่างไม่เข้าใจเรื่องราว 
Kiyoharu เสิ่กคิ้วให้ก่อนจะเดินเข้าใกล้ยิ่งขึ้นไปอีกจน Hyde ต้องถอยร่นลงไป ยังดีที่มีเจ้าสิงโตขวางอยู่เขม่นเขี้ยวให้ราวกับจงเกลียดจงชังหรือรู้อะไรซักอย่างในนิสัยของบุคคลตรงหน้าที่มีเรือนผมสีทองนั้น… 
จึงทำให้บุคคลนั้นต้องชะงักลง นายเป็นอะไรของนาย Kiyoharu… จู่ๆก็ใช้ยาสลบกับฉัน…แล้วยังพูดเรื่องแปลกๆไม่เข้าใจอีก… ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานนายคนหนึ่งนะ… มีอะไรก็น่าจะบอกกันสิ” 
ดูเหมือนสีหน้าของหนุ่มผมทองจะดูเปลี่ยนไปทันตาเห็น เมื่อได้ยินประโยคของร่างบอบบางที่พูดออกมา ดวงตาที่แฝงไปด้วยแรงโทสะเด่นชัดขึ้นจนร่างเล็กกุมเสื้อตัวเองแน่น 
แต่คุมอาการไว้โดยให้ดวงหน้าสวยนิ่งเฉยกับสีหน้าของอีกฝ่าย

“แค่เพื่อน…เพื่อนร่วมงาน…นายคิดแค่นั้นใช่ไหม!!!!!!” หนุ่มผมทองตะโกนลั่นแฝงไว้ด้วยแรงโทสะที่เต็มเปี่ยมในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา Hyde 
ถอยร่นไปอีก…ทำไม…เพื่อนร่วมงานที่เคยแต่เฮฮาปาร์ตี้ถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้…เพราะคำพูดเมื่อกี้อย่างนั้นเหรอ… 
แต่แล้วเสียงทุ้มกังวาลที่คุ้นหูแก่ Hyde ก็ดังขึ้นแทรกก้องไปทั่วจนบุคคลอีกฝ่ายได้ยินถึงกับหันขวับ

“กะแล้วไม่มีผิด…Kiyoharu…ในที่สุดสิ่งที่ฉันคิดอยู่ก็แน่ใจได้ซะที” …

to be continous 
«back part 6   next part 8»

 

Copyright © 2001 Reincarnation. All rights reserved.