เซ็กส์เสื่อมเพราะยา
 
 
เซ็กส์เสื่อมเพราะยา
น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์

เวลาที่คนเรานึกถึงเรื่องยากับเซ็กซ์นั้น มักจะนึกถึงแต่เพียงว่า มียาปลุกเซ็กซ์ ยาบำรุงพลังเพศ ยาปลุกนกเขา ฯลฯ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะที่เวลาคนเรา เกิดอาการเซ็กซ์เสื่อม มักจะนึกถึงว่ามียาดียาวิเศษอะไรบ้างไหม ที่จะมาช่วยซ่อมเซ็กซ์ที่เสื่อมให้ดีดังเดิมได้

หารู้ไม่ว่า ยาและสารเสพย์ติดหลายชนิดที่คิดกันว่า น่าจะช่วยกระตุ้นอารมณ์เพศ และความรู้สึก ความต้องการทางเพศให้ดีขึ้นนั้น นอกจากจะไม่ช่วยออกฤทธิ์ ดังที่ต้องการแล้ว บางชนิดยังไปกดอารมณ์เพศอีกด้วย แทนที่จะกระดี๊กระด๊าก็เลยห่อเหี่ยวไป

ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น แอลกอฮอล์ ที่อยู่ในเครื่องดื่ม ที่ออกฤทธิ์ทำให้มึนเมาทั้งหลายนั้น ตอนดื่มเข้าไปใหม่ๆ จริงอยู่จะทำให้คึกคักกระตุ้นประสาทและอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ช่วยลดความเป็นชาย ทำให้กล้าแสดงออกในเรื่องต่างๆ เป็นการลดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีลง สามารถกระทำอะไรบางอย่าง ที่ไม่กล้าทำขณะมีสติสัมปชัญญะได้โดยเฉพาะกิจกรรมทางเพศ หรือท่วงท่าและลีลาแห่งความรักที่แปลกใหม่และเร้าใจ

แต่เชื่อไหมครับถ้าดื่มมากขึ้นจนมึนเมาแล้ว แทนที่จะกระตุ้นให้คึกคัก แอลกอฮอล์กลับไปกดระบบประสาท ทำให้ซึมเซา ตอบสนองช้าแทน และคนที่ดื่มสุราไปนานเข้า จะมีผลร้ายต่อการทำงานของตับ ทำให้ตับเสื่อมไปก่อนวัย มีผลทำให้ระดับฮอร์โมนเพศซึ่งต้องมีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงที่ตับ มีปริมาณของฮอร์โมนเพศออกฤทธิ์ลดลงโดยปริยาย

เชื่อไหมครับว่า ยาต่างๆ ที่เรานำมารักษาโรคในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นยากรักษาโรคหวัด โรคกระเพาะอาหาร โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ที่มองดูแล้วไม่น่าจะมีอาการข้างเคียงอะไร ที่สลักสำคัญ แต่ผลการศึกษากลับพบว่า ยาเหล่านี้ อาจมีส่วนไปกดความรู้สึกและความต้องการทางเพศของคนเรา ทำให้เกิดปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือการตอบสนองทางเพศที่ผิดปกติได้

นอกจากนี้ สารพิษต่างๆ ในธรรมชาติก็ยังมีฤทธิ์ ไปกดหรือยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศลงได้ เช่น ดีดีที พีซีบี ในยาฆ่าแมลงนั้นพบว่า มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศหญิง ถ้าผู้ชายได้รับไปนานๆ เข้าจะไปลดการสร้างฮอร์โมนเพศชาย และตัวอสุจิลง ทำให้ผู้ชายในอนาคตอาจจะต้องไร้น้ำยา ถ้ายังขืนมีการใช้ยาฆ่าแมลงดังกล่าวอยู่ต่อไป

ผมมีโอกาสไปอ่านหนังสือ DRUG INDUCED INFERTILITY AND SEXUAL DYSFUNCTION โดยคณะแพทย์ จากโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงคือ GUY'S และ ST THOMAS แห่งลอนดอน มีเรื่องราวเกี่ยวกับผลของยาที่อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติ ของการตอบสนองทางเพศได้ จึงถือโอกาสนำมาถ่ายทอด ให้คุณผู้อ่านเป็นความรู้ จะได้เข้าใจ และหลีกเลี่ยงอาการอันไม่พึงประสงค์ เกี่ยวกับการตอบสนองทางเพศที่เป็นผลจากยาในกลุ่มต่างๆ ได้

แต่ไม่ควรจะวิตกกังวลเกินกว่าเหตุไปนะครับ เพราะผลกระทบอันไม่พึงประสงค์เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วไม่ถาวร หยุดยาไปสักระยะหนึ่งก็มักจะกลับมาเป็นปกติ เพียงแต่ให้เข้าใจว่า ในระหว่างที่ได้ยาอยู่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับการสนองของทางเพศได้

ผมจะพยายามแยกให้ดูเป็นกลุ่มๆ ยาไปนะครับ จะได้ไม่สับสน

ยารักษาความดันโลหิตสูง เชื่อไหมครับว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น มีปัญหาเกี่ยวกับเซ็กซ์ ที่ไม่สุขสมหลายชนิด คือพบว่า มีความต้องการทางเพศลดลง ร้อยละ 33 หรือ 1ใน 3 คน หย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยเป็นมะเขือเผาเสียร้อยละ 22 และไม่สามารถบรรเลงเพลงรัก ได้ครบเพลงเพราะอวัยวะสำคัญไม่เป็นใจอีกร้อยละ 23
นอกจากนี้ร้อยละ 17 มีปัญหาเรื่องการหลั่งในเพศชาย ยาที่มีผลทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้แก่ยาในกลุ่มของ METHYLDOPA, CLONIDINE, RESERPINE, GUANETHIDINE, ALPHA และ BETABLOCKER รวมทั้งยาขับปัสสาวะจำพวก THIAZIDES และ SPIRONO LACTONE

ยาเกี่ยวกับจิตประสาท ยาที่ใช้รักษาผู้ที่มีปัญหาทางจิต ส่วนใหญ่จะมีผลของการออกฤทธิ์ที่สมองส่วนกลาง ทำให้การตอบสนองต่อสิ่งเร้าอารมณ์ลดลง เมื่อมีสิ่งกระตุ้นอารมณ์เพศเกิดขึ้น การตอบสนองจะลดลง มากกว่าคนธรรมดา โดยเฉพาะความต้องการทางเพศ จะลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่ได้รับยากลุ่มนี้ แต่ฝ่ายชายจะมีผลทำให้เป็นมะเขือเผา และไม่หลั่ง หรือหลั่งผิดปกติได้ด้วย
นอกจากนี้ การรับประทานยากล่อมประสาท และยาแก้เครียดในกลุ่ม BENZODIAZEPINE ซึ่งเป็นยาที่คนซื้อหามารับประทานนั้น เมื่อใช้ยาไปนานๆ อารมณ์เพศจะลดลง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ และไม่ถึงจุดสุดยอด

ยาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร คนเราในปัจจุบัน มันเครียดมากขึ้น มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารมากขึ้น โรคฮิตโรคหนึ่งของคนในยุคนี้คือโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอักเสบ ซึ่งมักจะได้รับการรักษาโดยยาลดกรดในกระเพาะอาหาร และยาเคลือบกระเพาะ ยาลดกรดจำพวก CIMETDINE และ RACITIDINE มีผลไปต่อต้านกับฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการเกิดอารมณ์เพศ
เมื่อฮอร์โมนเพศชายโดนต่อต้านด้วยยาดังกล่าว อารมณ์และความต้องการทางเพศจึงลดลงและเกิดขึ้นได้ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนะครับ เพราะอารมณ์เพศหญิงนั้น มาจากฮอร์โมนเพศชายจำนวนเล็กน้อยที่สร้างมาจากต่อมชนิดหนึ่ง เมื่อมีน้อยอยู่แล้วโดนต่อต้านอีกเลยไม่มีฤทธิ์กระตุ้นฮอร์โมนเพศ
คนที่รับประทานยาลดกรดนานๆ เข้าจึงห่อเหี่ยว ไร้อารมณ์เพศไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่ต้องกลัวครับ พวกอาการเหล่านี้เมื่อหยุดรับประทานยาไปสักระยะหนึ่งแล้ว อาการต่างๆ ก็จะดีขึ้นเอง

ยาในกลุ่มลดการอักเสบ ยาจำพวกที่ช่วยลดการอักเสบ บวมของกล้ามเนื้อและข้อบางชนิด มีรายงานว่า มีผลกระทบต่อปฏิบัติทางเพศ เช่นยาในกลุ่ม NAPROXEN และ INDOMETHACIN นั้นอาจทำให้เกิดการหลั่งผิดปกติในผู้ชาย รวมทั้งลดความต้องการทางเพศและเกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ได้ด้วยในบางคน

ยารักษาโรคไซนัสบางชนิด ที่มีส่วนช่วยลด การคั่งของโลหิตในโพรงจมูกจำพวก PSEUDOEPHREDINE, PHENYLEPHRINE, PHENYLPROPANOLAMINE มีผลไปทำให้เส้นเลือดแดงมีการหดรัดตัว แต่ไม่ได้ออกฤทธิ์ที่โพรงจมูกอย่างเดียว การใช้เป็นเวลานานๆ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงยังส่วนนั้นลดลงด้วย ผู้ชายลงไม่มีเลือดไปคั่งบริเวณอวัยวะสำคัญแห่งความเป็นชายแล้ว อะไรจะมาเหลือจริงไหมครับ ย่อมเป็นมะเขือเผาไปเป็นธรรมดา ส่วนผู้หญิงถ้าเลือดไม่ไปคั่งยังส่วนนั้นเสียแล้ว ารมณ์เพศก็จะลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

เรื่องของเรื่องนี้จึงมีอยู่ว่า "การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" และแน่นอนว่าสุขภาพที่ดีย่อมนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และเซ็กซ์ที่สุขสมก็เป็นส่วนหนึ่งของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้าป่วยเป็นโรคและต้องรับประทานยารักษาโรคแล้ว ส่วนหนึ่งของอาการอันไม่พึงประสงค์ที่ไม่มีใครอยากจะบอกให้ทราบว่า ยาหลายชนิดมีผลต่อการประกอบกิจกรรมทางเพศ และเมื่อรับประทานไปนานๆ เข้าผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศ ทั้งชายและหญิงก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยไปทำให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

วิธีที่ดีคือ ควรจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่าง ๆ และส่งเสริมสุขภาพของร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง จะได้ไม่ต้องเจ็บป่วยเป็นโรคอะไร ให้ต้องไปรับประทานยากัน เราพูดกันถึงความรักกันอยู่เสมอๆ ทุกๆ คนก็อยากที่จะมีคนรัก อยากจะรักคนนั้นคนนี้ แต่เคยถามตัวเองกันไหมว่า ที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้น่ะ เราได้ทำอะไรที่เป็นการรักตัวเองบ้าง ถ้าเราจะรักตัวเอง ต้องเริ่มด้วยการรักษาสุขภาพของตัวเราเองก่อน

มีคนกล่าวว่า "อาหารเป็นยา" จริงๆ นะครับ ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่ถูกส่วน ครบหมวดหมู่ รับประทานอย่างถูกสุขลักษณะ เป็นเวลาและสม่ำเสมอ แล้วเราก็จะไม่เจ็บป่วยเป็นโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ ร้อนรน เคร่งเครียดเลย โรคภูมิแพ้ โรคทางเดินอาหาร โรคเครียด โรคความดันโลหิตสูง ล้วนแล้วแต่เป็น โรคของการดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกต้อง และไม่เข้าใจวิถีทางแห่งธรรมชาติ

ทำตาม "สุขบัญญัติแห่งชาติ" ที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำซิครับ แล้วทุกๆ คนก็จะไม่ต้องพึ่งยาและมีทั้งสุขภาพและสุขเพศที่ดี

ขอบคุณหนังสือเนชั่นสุดสัปดาห์ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่

Thanarat Hospital : Tel. 0 3262 2155 . 0 3262 1341 E-mail : hosreport@hotmail.com . thanarat@amed.go.th
webmaster : hosarmy@hotmail.com