ภาพ Wall Paper  หลากหลายความงามบนภูกระดึง ภูกระดึง       ฃมภาพทุ่งหญ้าสีทองและป่าสนสองใบค่ะ ทุ่งหญ้า-ป่าสน      ดอกไม้นานาพรรณบนภูกระดึง ดอกไม้ป่า    ชมภาพดวงตะวันยามเช้าที่ผานกแอ่น และยามเย็นที่ผาหมากดูก เก็บตะวัน    

   บันทึกความทรงจำ
  
วันแรก  เริ่มเดินทาง+เดินขึ้นพิชิตภูกระดึง                                       รวมภาพบรรยากาศเส้นทางตั้งแต่ซำแฮกถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง
  
วันที่สาม เดินเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวระยะทาง 20 กว่ากิโลเมตร    รวมภาพบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวบนภูกระดึง
  
วันที่สี่   เดินทางกลับ                                                                                                                                                                     
............

กลเม็ดเคล็ดไม่ลับและสาระน่ารู้ในการเดินขึ้นภูกระดึง   สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการเดินทาง   ข้อมูลจากแผ่นพับแจกฟรีที่ทำการอุทยานศรีฐาน
    ตัวอย่างโปรแกรมเที่ยวภูกระดึง


บันทึกการเดินทาง
28-31 ธันวาคม 2545

จากตำนานการเดินทางที่บอกเล่ากันจนนาม “ภูกระดึง” คือที่สุดของการท่องเที่ยวชมธรรมชาติในเมืองไทย หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่ต้องการท้าพิสูจน์ความแกร่งของการเดินทางละก็ สักครั้งหนึ่งในชีวิตควรจะหาโอกาส “พิชิตภูกระดึง” จะได้รู้ซึ้งว่าหฤโหดตามคำบอกเล่าเพียงใด เมื่อคุณเตรียมร่างกายตัวเองให้แกร่งพอสำหรับการเดินด้วยกำลังขา มาพร้อมกำลังใจที่มุ่งมั่นจะฝ่าฟันเดินตามเส้นทางที่ลาดชันและก้อนหินตะปุ่มตะป่ำตลอดเส้นทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจนถึง “หลังแป” ระยะทาง 
9 กิโลเมตร และเดินทางราบตามแนวป่าสนที่ไม่มีร่มเงาอีก 3.5 กิโลเมตรถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง

วันแรก 28 ธันวาคม 2545

พวกเรารวมตัวกันที่หอพักจิ๊บแถวบางขุนนนท์ มุ่งหน้าสู่จุดนัดพบข้างศาลพระภิกฆเนตร หน้าเวิร์ดเทรด เซ็นเตอร์ตามเวลา
นัดหมายคือ 20.30 น. หน้าเวิร์ดเทรดเต็มไปด้วยแสงสีและผู้คนจำนวนมาก นั่งรอผู้ร่วมเดินทางอีกกลุ่ม หลังทุกคนมาพร้อมกัน ออกเดินทางเวลา 21.30 น. ด้วยรถตู้ 4 คัน รวมผู้ร่วมเดินทางทริปนี้ 30 กว่าชีวิต เนื่องจากพวกเราใช้บริการบริษัท 
ไทยโอเชียน ทัวร์ค่ะ จุดประสงค์เพื่อจะได้สะดวกในการเข้าพักในบ้านพักและการยกขนสัมภาระ แม้ว่าจะไม่ได้นอนเต๊นส์สัมผัสธรรมชาติบนยอดภูแต่ก็ประทับใจมิรู้ลืม

การจราจรช่วงจากกรุงเทพ ฯ เรื่อยมาจนถึงทางแยกสีคิ้วรถหนาแน่นมาก ผ่านบ้านกลางดงตอนตี 2 ลำตะคองตี 3 และหลังเลี้ยวซ้ายมาตามเส้นทางสู่ จ.ชัยภูมิการจราจรเริ่มสะดวกขึ้น ถึงตลาดด่านขุนทดตอนตี 4 หากเป็นช่วงวันปกติตามเส้นทางจาก กทม.ถึงด่านขุนทดใช้เวลาไม่เกิน  3 ชั่วโมง แวะพักเข้าห้องน้ำแถวปั้มน้ำมันด่านขุนทดเดินทางต่อใช้เส้นทาง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 
สู่ อ.ภูกระดึง

วันที่สอง 29 ธันวาคม 2545

ถึงที่ทำการประมาณ 7 โมงเช้า ทีมงานบริษัททัวร์จัดการด้านสัมภาระ ซื้อบัตรผ่านเข้าอุทยานและยืนยันการเข้าบ้านพักที่จองไว้ล่วงหน้า ส่วนพวกเราพากันเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน รับประทานอาหารเช้าที่ร้านอาหารปักษ์ใต้ใกล้ที่ทำการ หลังอิ่มท้องเริ่มเดินทางเวลาประมาณ 09.00 น. พิชิตเส้นทางที่กล่าวขานว่าตำนานมหาโหดคือ “ซำแฮก” อันที่จริงคำว่าซำแฮกภาษาอีสานมีความหมายว่าด่านแรกนั่นเอง แต่เหตุเพราะเส้นทางเดินขึ้นเป็นทางลาดชันเกือบแนวดิ่ง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเดินนักท่องเที่ยวต่างก็เข้าใจคำว่าซำแฮก หมายถึงหอบแฮก ๆ กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้

พวกเราใช้เวลาพักผ่อนที่ซำแฮกเพียงเล็กน้อยเพราะได้รับคำแนะนำจากพี่ ๆ ที่เคยพิชิตภูกระดึงมาก่อนว่าอย่าได้นั่งพักนานเป็นอันขาดจะทำให้เมื่อยขามากเดินต่อไม่ไหว ซึ่งก็น่าจะเป็นจริงดั่งที่บอก พวกเราแวะพักตามซำต่าง ๆ ไม่นานนักเพียงแต่ต้องทายาที่พกพาไปด้วยเมื่อเมื่อยขาสุด ๆ จนเดินไม่ไหว เส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นทางเดินขึ้นไม่ลำบากมาก แต่เดินยากที่สุดก็เห็นจะเป็นซำแฮกนั่นเองคิดว่าเดินยากกว่าซำแคร่ (สุดท้าย) เราแวะทานอาหารกลางวัน (ข้าวหมูทอดกระเทียม) กันที่ซำกกโตน เพราะมีห้องน้ำไว้บริการสะดวกสบายพอสมควร หลังอิ่มท้องเริ่มลุยกันต่อ พักอีกครั้งที่ซำแคร่ ก่อนที่จะต้องปีนป่ายไปตามก้อนหินสู่หลังแป ซึ่งเป็นซำสุดท้ายที่มีเส้นทางแนวดิ่ง แต่ก็มีบันไดให้ปีนป่ายอย่างสบาย จากบันไดขั้นแรก ๆ ถึงขั้นสุดท้ายที่สูงชันมาก ต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ คอยกำกับการใช้เส้นทางเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการแย่งกันขึ้นลงบันได    
          หลังปีนป่ายถึงพื้นที่ราบหลังแปพวกเราบางคนหมดแรงนั่งพักกันนานพอโข แต่ก็ไม่ยอมให้โอกาสหลุดลอย หลังพิชิตเส้นทางหฤโหดก็ต้องเก็บภาพที่ระลึกตรงป้าย “ เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” เป็นหลักฐาน ว่าเราทำได้ …………………. ปลื้มซะ !!!!!!!!

จากหลังแปเดินทางราบอีก 3.5 กม. ครานี้เราเดินได้ช้าและปวดขามากจนถึงตะคิวจับ อาจจะเป็นเพราะเท้าเคยชินกับการเดินขึ้นเขามาหลายชั่วโมงยังปรับตัวไม่ทัน ต้องหยุดพักระหว่างทางหลายหน ยาทาแก้ปวดเมื่อยสารพัดที่พกพาถูกนำมาใช้บรรเทาความปวดเมื่อย ถึงศูนย์วังกวางแทบก้าวขาไม่ไหวแต่ก็ยังมีกำลังใจแวะไปให้เจ้าหน้าที่ประทับพาสปอร์ตท่องเที่ยวที่ติดตัวมาด้วย เพื่อเป็นหลักฐานว่าเรามาถึงแล้ว “ภูกระดึง” มีเต็นส์นักท่องเที่ยวเต็มไปหมดมากจนไม่สามารถจะนับจำนวนได้ เดินทางถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง 15.10 น. รวมเวลาเดินทางขาขึ้นทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง 10 นาที รวมระยะทาง 12.5 กิโลเมตร (จากที่ทำการถึงหลังแประยะทางขึ้นเขา  9 กิโลเมตร จากหลังแปทางราบ 3.5 กิโลเมตร)

จากที่ทำการเดินไปบ้านพัก “นาคราช” ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กม. ที่พักเป็นบ้านเดี่ยวกลางดงต้นสนเส้นทางเดินผ่านลำธารเล็ก ๆ หน้าบ้านมีต้นดอกกุหลาบขาวกำลังผลิดอกตูมอยู่หลายต้น น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นดอกกุหลาบขาวที่บานสะพรั่งเต็มต้นคาดว่าคงจะสวยมาก บ้านพักมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พักห้องละ 5 คนราคา 3,500.- บาท/หลัง/คืน ซึ่งจะต้องจองกันล่วงหน้าเป็นเวลานาน หลังแยกย้ายเข้าห้องพักรอคิวอาบน้ำที่เย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง ร่างกายเริ่มสดชื่นคลายอ่อนล้า พักผ่อนจนเกือบ 
6 โมงเย็น เดินไปยังร้านอาหารปักษ์ใต้จุดนัดพบทานอาหารเย็นที่ทางบริษัททัวร์จัดไว้ ทานข้าวท่ามกลางความหนาวเย็นแม้น้ำดื่มก็เย็นฉ่ำดุจน้ำจากตู้เย็น ทานอาหารเย็นเสร็จยังไม่ดึกเดินเลือกซื้อของฝากที่มีทั้งภาพโปสการ์ด ปฏิทินตั้งโต๊ะ พวงกุญแจ เสื้อและอื่น ๆ อีกมากมาย

>>>>>>>>>>>>>>
อ่านต่อ 

พบกับบันทึกเรื่องเที่ยวของพวกเรา    ตามน้องนกไปเลยค่ะเที่ยวที่อื่นต่อกับพวกเรา      คุยกับพวกเรา........ยินดีต้อนรับค่ะ รู้จัก+ทักทายคนบ้านนี้  
~~~~~~~~~~~
Published 5-01-46
Web Master @ Pit_Phangnga