บทนำระบบ
ศึกษาปัญหา
ศึกษาระบบเดิม
ออกแบบระบบใหม่
การพัฒนาระบบ
การติดตั้ง
การบำรุงรักษา
2. การศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาระบบใหม่( Feasibility Study )....
	2. การศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาระบบ (Feasibility study
	2.1 การสัมภาษณ์  (Interview) หาสภาพความเป็นจริง
		การสัมภาษณ์ครั้งนี้เพื่อศึกษาปัญหา ความเข้าใจสภาพความเป็นจริงและความมั่นใจในการจะ
พัฒนาระบบ โดยผู้ที่จะถูกสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้มายังข้อมูลที่ถูกต้องคือ เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าคือ คุณนิรันดร์ 
(หรือคุณรัน)  และผู้ที่จะสัมภาษณ์ในครั้งนี้ก็คือตัวข้าพเจ้าเอง นางสาวนิรันดร  จำรัส(หรือคุณนิ)  ผู้ทำระบบซื้อขาย
อุปกรณ์ไฟฟ้า โดยการสัมภาษณ์นั้นเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เขียนระบบ และผู้ใช้ระบบ เช่น ปัญหา
ที่ผู้ใช้ประสบ ความต้องการที่ผู้ใช้ระบบอยากให้ระบบทำงานได้  สภาพความเป็นจริงของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า

	เริ่มสัมภาษณ์
	
	นิ   :  สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรันใช่หรือเปล่าค่ะ
	รัน :  ใช่ค่ะ ดิฉัน รันค่ะ
นิ  :	ดิฉันรันค่ะ ดิฉันอยากจะขอรบกวนเวลาของคุณรันสักนิด  เพื่อขอข้อมูลจากคุณรัน ไม่ทราบ   ว่าคุณรัน
	พอจะมีเวลาสักครึ่งชั่วโมง ได้ไหมค่ะ
รัน   : 	ได้สิค่ะ  เพื่อร้านดิฉันจะได้มีระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเบาแรงพวกเรา  และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
นิ    : 	ดิฉันต้องขอทำความเข้าใจก่อนนะค่ะ ว่าการขอข้อมูลครั้งนี้ เป็นเพียงการศึกษาหาสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่
	เท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าการวิเคราะห์ระบบของพวกเรามาเพื่อช่วยเหลือ มิได้มาคิดร้ายใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ
รัน  :  	ดิฉันเข้าใจดีค่ะ  ดิฉันยินดีและเต็มใจให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
นิ    :  	ดิฉันขอถามอย่างตรงไปตรงมาเลยนะค่ะ  คือคุณคิดว่าร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่คุณดูแลอยู่ เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
รัน :  	เราก็มีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลต่างๆ ภายในร้าน เช่น การซื้อและขายในแต่ละวัน  สินค้าคงเหลือในแต่ละ
	เดือน ระบบการเงินแต่ละเดือน  การตรวจสอบสินค้าที่อาจจะสูญหาย
นิ  :  	แล้วคุณรันพอจะบอกได้ไหมค่ะว่าปัญหาที่เห็นชัดๆ มีประเด็นอะไร
รัน :	 ก็อย่างที่คุณนิได้เห็นแหละค่ะ ร้านค้าของเรามีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล การเช็ค สต็อกสินค้าคงคลัง 
	การเก็บข้อมูลของสินค้าที่ซื้อมา และขายไปในแต่ละเดือน การเก็บรายละเอียดของสินค้าแต่ละชนิด 
	การทำบัญชีรายรับรายจ่ายหรือกำไรขาดทุนในแต่ละเดือน
นิ   : 	แล้วคุณรันพอจะอธิบายรายละเอียดของปัญหาในแต่ละประเด็นเป็นอย่างไรบ้าง
รัน : 	ก่อนอื่นเริ่มจากประเด็นของการเก็บสินค้าคงคลัง  สินค้าคงคลังมีจำนวนมากจึงทำให้ใช้เวลาเช็คสินค้า 
	ในแต่ละครั้งต้องในเวลาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เสียเวลาในการทำงานและบางครั้งก็เกิดการผิดพลาดใน
	การเช็คสินค้าประเด็นที่สองการเก็บข้อมูลซื้อมาขายไปของ	สินค้า เราต้องมีการเก็บรายละเอียดสินค้าว่า 
	มีจำนวนเท่าใดและรูปร่างลักษณะอย่างไร  ควรซื้อเพิ่มอีกหรือไม่ ประเด็นที่สามการเก็บรายละเอียดของสินค้า 
	อุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำมาขายมีจำนวนมากและมีลักษณะแตกต่างกัน จึงอยากจะเก็บเป็นสัญลัษณ์เพื่อง่ายต่อการเรียก
	สินค้าและง่ายต่อความเข้าใจ ประเด็นที่สี่ การทำระบบบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน บางครั้งจ่ายเงินผิดบ้าง 
	ลงบัญชีผิดบ้างคำนวณผิดบ้าง
นิ  :	พอจะมีปัญหาอื่นอีกบ้างไหมค่ะ
รัน :  	มีค่ะ ปัญหาอีกอย่างก็คือการคำนวณสินเชื่อ ที่ทางร้านได้ให้กับลูกค้าที่ได้นำสินค้าไปก่อนแล้วจ่ายเงินทีหลัง
นิ  :  	แล้วพนักงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับร้านของคุณรัน เป็นอย่างไรบ้าง
รัน :  	เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ดิฉันหนักใจ แล้วก็เห็นสมควรจะนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในร้าน เนื่องจากความปลอดภัย
	ในสินค้าและเงินที่ขายสินค้าได้สูญหายไป โดยที่ไม่สามารถจะจับมือใครดมได้เลย ไม่ทราบว่าจะเป็นพนักงาน
	ขายที่เราจ้างมาทำงาน หรือว่าลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในแต่ละวันที่เป็นคนผิด  ในแต่ละเดือนการขายสินค้ากับ
	สินค้าคงเหลือไม่สมดุลกัน และเงินในการขายสินค้าได้ไม่เท่ากับจำนวนสินค้าที่ได้ขายไปในแต่ละเดือน ดังนั้น
	ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาที่หนักใจอีกอย่างหนึ่ง  ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับดิฉันมาก
นิ  :  	แล้วทำไมต้องให้พนักงานหรือลูกค้าจับจ่ายสินค้าเองด้วยละค่ะ
รัน :  	มันจำเป็นเพราะว่าถ้าพนักงานไม่เป็นคนจับจ่ายสินค้าและเงินทอนในบ้างครั้งนั้น มันอาจจะทำให้ล่าช้า ต่อการ
	บริการลูกค้าได้ และบ้างครั้งลูกค้าเข้าร้านหลายๆ คนพร้อมกัน ดิฉันก็ไม่สามารถจะทำการทอนเงิน เก็บเงิน  
	หยิบสินค้าขายให้กับลูกค้า หรือพูดคุยกับลูกค้าได้ทั่วทุกคน 	ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพนักงาน และพนักงาน
	ทุกคนก็คลุกคลีกับสินค้าตลอด
นิ  :  	สิ่งที่คุณรันต้องการในระบบมีบ้างไหมค่ะ
รัน :  	อยากให้ระบบง่ายต่อการใช้ ไม่จะสำหรับดิฉันเองหรือพนักงานที่มีความรู้ตั้งแต่ระดับ ป. 6 ขึ้นไปที่จะสามารถ
	ใช้ได้อย่างสะดวกง่ายต่อความเข้าใจ
นิ  :  	มีอะไรเพิ่มเติมไหมค่ะ
รัน :  	ดิฉันว่าคงไม่มีแล้วค่ะ เพราะเรื่องสำคัญดิฉันก็บอกคุณนิไปหมดแล้ว ดิฉันดีใจมากที่มีคุณนิมารับฟังปัญหาที่
	ร้านของดิฉันได้ประสบ แล้วคุณนิก็เป็นคนนักฟังที่ดี ดิฉันหวังว่าสิ่งที่ดิฉันบอกคุณไปจะมีประโยชน์ในการ
	พัฒนาร้านค้าของดิฉันให้ดียิ่งขึ้นไป และอาจจะเป็นการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้กับทางร้านของดิฉันมากขึ้น
นิ :  	คุณรันเป็นคนดีมากซึ่งได้อำนวยความสะดวกในการให้ข้อมูลแก่ดิฉัน แล้วถ้ามีโอกาสดิฉันกับทีมงานจะมาขอ
	ข้อมูลคุณรัน โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่เราต้องพิจารณาก่อนว่าจะมีแนวทางพัฒนาต่อไปอย่างไร
รัน :   	ดิฉันยินดีเสมอ แล้วจะแจ้งให้กับพนักงานในร้านทุกคนทราบ ดิฉันรับรองว่าพวกเรายินดี และเต็มใจให้ข้อมูล
	ทุกอย่างที่ต้องการ  ขอ	ต้อนรับเสมอนะค่ะ
นิ  :  	ไม่ทราบว่าคุณรันมีอะไรจะเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า
รัน :  	ไม่มีแล้วค่ะ แต่คิดว่าข้อมูลที่ได้ให้ไปคงเป็นประโยชน์ต่อคุณนิ นะค่ะ
นิ  :  	ข้อมูลที่คุณรันให้มามีประโยชน์มากค่ะ  เราจะนำไปพิจารณา และศึกษาหาวิธีที่ดีที่สุด แล้วจะสรุปผลให้ทราบอีก
	ครั้งนะค่ะ แล้วถ้ามีโอกาสดิฉันจะมาขอข้อมูลคุณอีครั้งนะค่ะ

2.2 ศึกษาจากข้อมูล และรายงานเอกสาร ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร(Document study)
ข้อมูลลูกค้า
	ได้มาจากการที่ลูกค้ามาซื้อสินค้า ทั้งลูกค้าที่ซื้อประจำหรือลูกค้าที่มาซื้อสินค้าเป็น เงินเชื่อ 
	โดยเราจะกำหนดรหัสของลูกค้าให้เขา เมื่อลูกค้ามาซื้อก็ให้บอกรหัสของลูกค้า
ข้อมูลสินค้า
	*  การได้ของมูลของสินค้ามานั้นได้มาเมื่อมีการซื้อสินค้ามาจากผู้จำหน่ายแล้วจากนั้น 
	ก็กำหนดรหัสของสินค้าเมื่อจะขายสินค้าชิ้นใดก็ใช้รหัสสินค้าในการเรียกข้อมูลสินค้าชิ้นนั้น 
	ถ้าหากมีสินค้าตัวใหม่ก็กำหนดรหัสขึ้นมาใหม่
ข้อมูลพนักงาน
	* พนักงานที่สมัครเข้าทำงานต้องกรอกข้อมูลในใบสมัครของทางร้าน โดยมีการกรอกข้อมูล
	เกี่ยวกับประวัติของผู้สมัคร และราย	ละเอียดอื่นๆที่ทางร้านต้องการ
	* เมื่อเรารับพนักงานคนนั้นเข้าทำงานแล้ว เราก็ต้องนำประวัติไปบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ 
	และระบุรายละเอียดการเริ่มเข้าทำงาน เงินเดือนที่ได้ตกลงไว้ ข้อตกลงที่ควรปฏิบัติ 
	และการตกลงยอมรับกฎระเบียบที่ทางร้านได้กำหนดไว้
	* มอบเอกสารที่จะทำการอบรมและฝึกสอนพนักงานใหม่ เรื่องที่ควรทราบในการจะมาทำงานที่ร้าน 
	เช่น ราคาสินค้า การให้บริการ  การ	ขายสินค้า การเสนอสินค้าให้กับลูกค้า   การเก็บสินค้า การตรวจ
	สินค้าคงเหลือ
ข้อมูลการหักเงินเดือนอันเนื่องมาจาก ลา ขาด หรือมาสาย
	- การเข้าทำงานของพนักงานแต่ละคนจะต้องมาเซ็นการเข้างาน และการเลิกงานได้ที่สมุดลงชื่อการทำงาน
	- เมื่อถึงสิ้นเดือนก็นำจำนวนวัน ที่พนักงานได้ทำงานการลา ขาด  หรือมาสาย หรือทำงานล่วงเวลา 
	มาคำนวณเป็นเอกสารสรุปการทำงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
	- เมื่อได้เอกสารสรุปการทำงานของพนักงานแล้ว ก็นำมาคำนวณเงินเดือนว่าควรจะหักเงินเดือนเท่าไร 
	หรือเพิ่ม Bonus เท่าไร
	- เอกสารสรุปการทำงานของพนักงาน จะต้องทำเป็น 2  ชุด เพื่อแจกให้กับพนักงาน 1 ชุด  
	อีกชุดหนึ่งต้องเก็บเป็นหลักฐานเข้าแฟ้มพนักงาน
รายงานสรุปการขายสินค้า
	- โดยการเช็คสินค้าที่เหลือจากวันนี้ แล้วนำมาหักออกยอดคงเหลือจากการเช็คเมื่อวานนี้แล้วบันทึก
	เก็บไว้ในแต่ละวัน
	- จากนั้นก็นำรายการที่ได้ทำบันทึกไว้นั้นมาคำนวณหารายได้ ซึ่งเป็นการยุ่งยากและเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
	- รายงานสรุปการซื้อสินค้า * เมื่อสินสินค้าที่มีใกล้หมดทางร้านต้องทำการบันทึกรายการสั่งสินค้า แล้วสั่ง
			      สินค้าไปยังร้านที่เรารับสินค้ามา
			    * จากนั้นก็จะได้รับบิลรายการสินค้า แล้วนำบิลเหล่านั้นมาเก็บบันทึกเป็นรายการ
			      ซื้อสินค้าในแต่ละเดือนเพื่อเช็คความถูกต้อง
 ข้อมูลการรับสินค้า
	ข้อมูลการรับสินค้าจะได้มาเมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าแล้วผู้จำหน่ายได้นำสินค้ามาส่งให้ จากนั้นก็ทำการ
	บันทึกการรับสินค้า
รายงานการสั่งซื้อสินค้า
	- พนักงานเช็คยอดสินค้าที่จะสั่งซื้อ จากนวนสินค้าที่เหลือ นำข้อมูลเหล่านั้นมาทำเป็นข้อมูลการสั่งซื้อ 
	เก็บไว้ในเอกสาร
	- เมื่อพนักงานบันทึกข้อมูลสั่งซื้อสินค้า
	- พนักงานพิมพ์เอกสารการสั่งซื้อสินค้า เพื่อส่งให้ผู้ขาย
รายงานสินค้า
	- พนักงานทำรายงานเกี่ยวกับสินค้าจากการเช็คสินค้าคงคลัง

2.3   ศึกษาขั้นตอนการดำเนินงานของระบบ (Process study)
อธิบายขั้นตอนดำเนินงานในรูปตาราง
โดยตารางถูกแบ่งเป็น 2  ส่วนคือ
1. ส่วนอธิบายกระบวนการที่มีการทำงานเกิดขึ้น
2. ขั้นตอน โดยละเอียดของงานในกระบวนการนั้น

ตารางแสดงกระบวนการ


การรับข้อมูลลูกค้า			-ลูกค้าเข้ามาในร้าน แจ้งความต้องการซื้อสินค้า
				-พนักงานขายรับข้อมูลลูกค้า 
การสั่งซื้อสินค้า			-เช็คยอดคงเหลือของสินค้าในร้าน
				-เก็บรายการที่บันทึกมากรอกใบสั่งซื้อสินค้า
				-สั่งซื้อสินค้าไปยังบริษัทที่ทางร้านรับสินค้ามาขาย
การขายสินค้า			- ลูกค้ามาซื้อสินค้าที่ร้านด้วยตนเองหรือโทรมาสั่งซื้อ
				-พนักงานขายสินค้าให้กับลูกค้าไป
				-ถ้าเป็นลูกค้าที่โทรสั่งสินค้า พนักงานต้องนำสินค้าไปส่งลูกค้า
				-รับเงินจากลูกค้ามาให้พนักงานเก็บเงิน
การรับสินค้า			-พนักงานจากบริษัทนำสินค้ามาส่งที่ร้าน
				-ให้พนักงานทางร้านของเราสำรวจสินค้าที่ส่งมาว่าจำนวนถูก     
				ต้อง หรือเกิดการเสียหาย
การตรวจสต๊อก			-นำสินค้าแต่ละชนิดออกมานับดูจำนวนว่ามีจำนวนเท่าใด และ            
				ดูว่าสินค้ามีมากหรือน้อยพอที่จะทำการสั่งซื้อเพิ่มอีกหรือไม่
				-บันทึกยอดคงเหลือของสินค้าเก็บไว้เพื่อนำไปศึกษาต่อ
การรับชำระหนี้			-ลูกค้าได้นำสินค้าจากทางร้านไปก่อนเราถือว่าเป็นลูกหนี้
				-ลูกหนี้นำเงินมาชำระ
				-นำเงินที่ได้ไปหักออกจากบัญชีลูกหนี้
การจ่ายชำระหนี้			-ทางร้านได้นำสินค้ามาจากผู้จำหน่ายก่อน
				-ทางร้านนำเงินไปชำระให้กับผู้จำหน่าย
				-ทำการหักเงินในแฟ้มเจ้าหนี้ออก