บทในไฉไลไปรบ
เพราะความที่ฉันอยากทำละครประวัติศาสตร์ 
ฉันอยากมีข้อมูลจริง 
ฉันวางโครงเรื่องคร่าวๆไว้และหาคนมาช่วยเหลือมาทำข้อมูล
เอ๋ อดินันนท์ พรหมพันธ์ใจ อาสามาทำในส่วนนี้ 
และอาสาจะรับทำบทในร่างแรกให้
ฉันยินดี
เพราะเป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้ลองเล่นเดี่ยว
จากบทที่คนอื่นเขียนบ้าง
หลังจากอ่านและมองภาพจากบท
มันเป็นเรื่องยากที่ฉันจะเล่น
โดยการเล่าประวัติศาสตร์ด้วยคนคนเดียว
มันเครียด และข้อมูลจะผิดพลาดไม่ได้
เราแก้ไขอีกหลายรอบ 
โจ ชนานนท์ ฉิมมาวัลย์
และแจง สาวิตรี วงษ์เกตุใจ เข้ามาสมทบ
และฉันก็กระโจนเข้าไปสมทบจนได้
เพราะต้องคอยเช็คตลอดเวลาว่าเขียนอย่างนี้ฉันเล่นได้มั้ย
อย่างนี้อยากลองมั้ย 
เราถกเถียงพูดคุยกันไม่หยุดเมื่อมีโอกาส
ไม่ว่าจะร้านเหล้า ร้านอาหาร หน้าโรงหนัง
หรือสิบสามเหรียญที่เปิดทั้งคืนในตอนนั้น
ในร่างที่คิดว่าสุดท้ายแล้ว 
ฉันนำบทมาซ้อม และลองหาวิธีเล่น
ฉันงงอยู่กับมันเกือบสองอาทิตย์
( อะไร ทำไมฉันต้องมาอดทนกับเรื่องพวกนี้ )

ตัวละครทั้งหลายไม่สามารถจะตัดออกได้
เหตุเพราะต้องเล่าภูมิหลังของตัวละครว่าเป็นใครมาจากไหน
และสถานการณ์ต่างๆที่ทำให้เรื่องดำเนินไป
อีกทั้งฉันวางเงื่อนไขว่าอยากจะเล่นลักษณะตัวละครที่แตกต่างกันอีกต่างหาก
ตัวละครที่ฉันต้องสวมบทบาท
1 แม่ท้องแก่   ยายเคี้ยวหมาก 
   ดอกรักหนุ่มน้อยร่างกายกำยำสมชายชาตรี
2 ไฉไลสุดสวย
           
  ตัวละครที่ฉันต้องกล่าวถึง
1 ท่านเจ้าคุณ
2 พี่มังอิดอ
3  เชลยไทย
4 ทหารคนอื่นๆ

บทถูกแก้ไข
จัดวางให้เกิดช่องว่างให้ฉันมีโอกาสด้นสด
เพราะทีมงานทั้งหลายคิดว่านั่นเป็นเสน่ห์ในละครที่ฉันแสดง
เพราะมันสนุก ซึ่งความจริงก็คือฉันแทบสติแตก
  ( การด้นสด ฉันถือว่าไม่ใช่จู่ๆฉันก็ทำได้
               คงเป็นเพราะว่า ฉันผ่านสถานการณ์หลายๆอย่างมา
               และบางอย่างมันคล้ายคลึงฉันจึงปรับเปลี่ยน
               เรียบเรียงได้อย่างรวดเร็ว
               เพื่อควบคุมมันให้ไปในทิศทางที่ฉันต้องการ )
หน้าต่อไป
หน้าแรก
หัวข้อเรื่อง