อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๗๔.  ขาด 2 ท่อน

คุณสาโรจน์ บุญประสพโชค อยู่ที่หมู่บ้านพรไพลิน ถนนลาดพร้าว  เขตจตุจักร เล่าว่า

คุณสาโรจน์ (คนกลาง)เมื่อก่อนอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด เห็นพระแล้วก็รู้สึกเฉยๆ คุณแม่ให้ไหว้พระก็ไหว้ ไหว้เหมือนญาติผู้ใหญ่เท่านั้น จนกระทั่ง ได้มาเข้าวัด พระธรรมกาย ประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๔ เพื่อ เยี่ยมเพื่อน ที่บวชธรรมทายาท เมื่อเห็นพระอยู่ กุฏิหลังคาจาก บ้างก็ปักกลด รู้สึกศรัทธา หลังจาก นั้น ก็ได้ตามเพื่อน เข้าไปที่ ชมรมพุทธศาสตร์ เห็นการสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม รู้สึกเป็น สิ่งที่ดี ต่อจากนั้น ได้ไปปฏิบัติธรรม ที่ภูกระดึง ๑๐ วัน เห็น หมู่คณะ ที่งดงาม ยิ่งเห็นการ ปฏิบัติธรรม และความตั้งใจ ในการสั่งสอนของ พระอาจารย์ ที่ให้รู้จัก เป้าหมายชีวิต ในการเกิดมา และทำ ความเพียร เหมือนใน สมัยพุทธกาล และมีผู้ที่เข้าวัดมาก่อน ทำเป็นตัวอย่าง เป็นต้นแบบ เห็น ได้ชัด ในเรื่อง ความเคารพ ต่อครูบา อาจารย์ การรักษา หมู่คณะ ให้สามัคคีรักใคร่ เหมือนเป็น พี่น้องบิดา มารดาคนเดียวกัน รู้สึกประทับใจ อย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้รู้จัก ทางสายกลาง

หลังจากที่กลับมาแล้ว ก็ได้เข้าวัดมาตลอด ได้มากราบ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อและคุณยาย และได้มาวัด ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน จำได้ว่า เคยขาดไป แค่ครั้งเดียว เท่านั้น หลังจากนั้น ก็ได้อยู่ในเส้นทางบุญนี้ มาตลอด ได้ช่วยงานวัด ในส่วนที่ทำได้ ได้มางานบุญใหญ่ของวัด แทบทุกงาน ไม่เคยพลาด และยิ่งประทับใจ เมื่อเห็น มหาธรรมกายเจดีย์ เกิดขึ้น ได้สร้างองค์พระ ทั้งครอบครัว ได้หล่อองค์ หลวงพ่อ วัดปากน้ำทองคำ ได้เป็น ผู้นำบุญ ได้เข้าใจ ในคำสอนของ หลวงพ่อ ลึกซึ้ง ขึ้นจากการทำงาน จากการฝึกตัว ได้เห็นมโนปณิธาน ของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ได้เข้าใจ คำว่า เราเกิดมาสร้างบารมี ได้เห็นชีวิตของพระ ที่อุทิศชีวิต เพื่อพระพุทธศาสนา ที่แท้จริง ทำให้ชาตินี้ ไม่เสียทีที่เกิดมา และได้เล่าเรื่อง อานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุว่า

ตัวเครื่องที่กระเด็นออกมาวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๒ เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. ก่อนงานบวชอุบาสกแก้ว ๒ วัน วันนั้น ขับไปกับน้องชื่อ อรรถชาติ เดชดำรง นัดกันว่า จะไปบอกเรื่อง บวชอุบาสกแก้ว ที่วิทยาลัยเทคโนโลยี รัตนโกสินทร์ เส้นทางที่ไปเชียงราก ขณะกำลังขับรถอยู่ ถนนก็ว่าง พอผ่าน มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์รังสิต มาหน่อย ก็มี walker สำหรับคนแก่ ขวางอยู่บน กลางถนน รถคันหน้า ก็หักเลี้ยว หลบไปทางซ้าย คุณสาโรจน์ เห็น ก็จะหักหลบ ไปทางขวา นึกว่า ถ้าชนแล้ว ของอาจติดใต้ท้องรถ อาจทำให้รถเสียหาย หรือชนแล้ว อาจจะกระเด็น มาชนกระจก ซึ่งจะได้รับ บาดเจ็บ แต่ก็นึกไม่ถึงว่า เมื่อหักหลบแล้ว รถจะเสียหลัก ทำให้รถหมุน อย่างแรง ไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้า ที่ริมถนน ก่อนถึงที่ลาด กลางถนน

คุณสาโรจน์กล่าวว่า เร็วมาก แต่ก็ไม่กลัวอะไร มีสติตลอด นึกว่า เราต้องไม่เป็นอะไร บุญคุ้ม พอรถหยุด ก็ไม่นึกว่า มันจะชนแรงขนาดนี้ พอออกมาจากรถอีกที เห็นตัวเครื่อง หลุดออกไป ประมาณ ๑๐ เมตรได้ รถขาดไปเลย แต่ก็ไม่ได้ห่วงรถ ห่วงน้องมากกว่า น้องก็ออกมา บอกว่า ไม่เป็นอะไรมาก ส่วนผม ก็เจ็บที่หัวเข่า นิดหน่อย ก็ไม่รู้ว่าชนกับอะไร หลังจากนั้น คนที่ผ่านไปมา ก็มาดู เห็นแล้วก็บอก เป็นเสียงเดียวกันว่า ชนแรงอย่างนี้ ไม่น่าจะรอด โทรศัพท์ไปบอกคุณพ่อว่า รถชนช่วงหน้าขาด คุณพ่อก็นึกว่าธรรมดา ยังไม่เชื่อ จนได้เห็นสภาพรถ

สภาพรถหลังจากนั้น ก็มีอาจารย์และพี่ๆ น้องๆ มาช่วยเหลือ ประมาณ ๒ ทุ่มไปหาหมอ คุณหมอ เช็คแล้ว ก็บอกว่า ช้ำนิดหน่อย เท่านั้นเอง อย่างอื่น ไม่มีอะไร ผมมาคิดอีกทีว่า รถมันไม่น่า จะขาด แต่ถ้ารถไม่ขาด อาจจะเจ็บหนัก หรือไม่ก็เสียชีวิตก็ได้ เพราะว่า ที่กลางถนน เป็นแอ่งลาดลงไป พื้นไม่เสมอกัน ถ้ารถหมุนมาถึงตรงนี้ อีกนิดเดียว รถต้องพลิกคว่ำ หลายตลบแน่ และมั่นใจว่า เป็น เพราะ บุญ และอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ แน่ๆ ถึงได้รอดชีวิตมาอย่างนี้


[สารบัญ] [๑๖๕] [๑๖๖] [๑๖๗] [๑๖๘] [๑๖๙] [๑๗๐]

[๑๗๑] [๑๗๒] [๑๗๓] [๑๗๔] [๑๗๕] [๑๗๖] [๑๗๗] [๑๗๘] [๑๗๙] [๑๘๐] [๑๘๑]