อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๗๕.  เหลืออยู่หลังเดียว

คุณลลิดา อินทร์สกุล อยู่ที่ตลาดขันนก ต.บ้านช่างหล่อ อ.บางกอกน้อย เล่าว่า

คุณลลิดาตนเองมีอาชีพขายเสื้อผ้า สำหรับเด็ก อยู่ที่ตลาดโบ๊เบ๊ ทุกๆ วัน จะออกจากบ้าน ไปขายผ้าแต่เช้า ประมาณเวลาตีสอง วันเกิดเหตุ ก็ออก จากบ้านไปร้าน ตามปกติ ปล่อยให้น้องสาว เฝ้าบ้านคนเดียว ประมาณตี ๔ มีคนโทรศัพท์มาบอก ที่ร้านข้างๆ ว่า ไฟไหม้บ้าน เพราะ บ้านพัก ของเจ้าของร้านนั้น ก็อยู่ติดกับบ้านคุณลลิดา

คุณลลิดาฟังแล้ว ตกใจมาก จึงรีบนั่ง รถสามล้อเครื่องรับจ้าง กลับบ้าน ขณะนั่งรถ ก็นึกถึงพระ ที่ตนเองทำบุญ สร้างไว้บนเจดีย์ และอธิษฐานต่อ พระมหาสิริราชธาตุว่า ขอให้ช่วยคุ้มครองบ้านด้วย

บ้านต้นเพลิงเหลือแต่เสาเมื่อไปถึงบ้านพบว่า บ้านที่อยู่ติดๆ กัน นั้น ไฟไหม้ไปถึงกว่า ๑๐ หลังแล้ว พอมาถึงบ้านคุณลลิดา ซึ่งอยู่ตรงกลาง ไฟไม่ไหม้ อยู่เพียงหลัง เดียว ไฟกลับอ้อมเป็นสองทาง เว้นบ้านของคุณลลิดาไว้ แล้ว ไปไหม้บ้านอื่นต่อ

มีชาวบ้านหลายคนออกมาบอกว่า ตอนไฟไหม้มาจะถึงอยู่นั้น เหมือนมีคนเอาผ้าขาว มาโบก สะบัดไฟ เอาไว้ อยู่บนหลังคาบ้าน บางคน บอกว่า เป็นเงาดำๆ มาสะกัดไฟไว้ ทุกคนต่างพากัน อัศจรรย์ใจ โจษขานถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น อย่างอัศจรรย์

บ้านคุณลลิดาที่รอดจากไฟไหม้คุณลลิดาเชื่อมั่นว่า เทพยดาที่รักษา องค์พระ มหาสิริราชธาตุ มาช่วยดับไฟ แน่นอน และยังเล่าว่า ก่อนที่จะเกิด เหตุไฟไหม้ ๒ วัน ฝันว่า มีตำรวจเข้ามา ในบ้าน บอกว่า คุณน่ะ ดวงไม่ดีนะ จะเกิดวินาศภัย แล้วหยิบพระขึ้นมา ๑ องค์ พูดว่า ให้พระนี่ไว้ ท่านศักดิ์สิทธิ์นัก จะปกป้องรักษา คุ้มครอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้นึกถึงพระองค์นี้ ท่านจะช่วยคุ้มครอง ให้ปลอดภัย คุณลลิดาตื่นขึ้น ไม่ได้สังหรณ์อะไร คิดว่า คงมาบอกหวยให้ ไม่นึกว่า จะเป็นความฝัน ชนิดเทวดาบอกเหตุ ให้รู้ล่วงหน้า

 


[สารบัญ] [๑๖๕] [๑๖๖] [๑๖๗] [๑๖๘] [๑๖๙] [๑๗๐]

[๑๗๑] [๑๗๒] [๑๗๓] [๑๗๔] [๑๗๕] [๑๗๖] [๑๗๗] [๑๗๘] [๑๗๙] [๑๘๐] [๑๘๑]