คุณสุปราณี พิมพาภรณ์ อายุ ๓๙ ปี ทำงานครัว อยู่บ้านคนไทยที่ฮ่องกง อยู่ย่านฝั่งเกาลูน เล่าว่า
ได้ไปทำงานที่บ้านนั้น ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๔๑ ต่อมา นายจ้างมาบอกเลิกจ้าง ให้กลับเมืองไทย เดือนธันวาคม ซึ่งเป็น เดือนสุดท้าย ของการใช้หนี้ ที่เธอยืมนายจ้าง ล่วงหน้า ส่งไปรักษา พยาบาลคุณแม่ ที่เมืองไทย เป็นเงิน ถึงแสนสองหมื่นบาท เมื่อพิจารณาตัวเองแล้ว เธอทำงาน ดี ขยันขันแข็ง มาตลอด ทำไมจึงถูกเลิกจ้าง
ภายหลังทราบว่า น้องสาวซึ่งอยู่ที่นั่น มาก่อนเธอ ถึง ๘ ปีแล้ว ต้องการแก้ปัญหาที่ คุณสุปราณีมีเรื่องขัดแย้ง กับน้องเขย ขณะทำงานที่นั่น คุณสุปราณี นอกจากส่งเงิน ให้คุณแม่แล้ว ยังแบ่งเงิน มาทำบุญ สร้างองค์พระ ที่มหาธรรมกายเจดีย์ จนได้รับ พระมหาสิริราชธาตุ ไปบูชา
เมื่อไม่ต้องการกลับเมืองไทย ในเวลานั้น จึงอธิษฐาน ขอพร พระมหาสิริราชธาตุ ขอให้ได้ทำงานต่อ และขอให้มารดา หายป่วย แต่การอยู่ ทำงานต่อ ที่ฮ่องกง ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องหาเจ้านายใหม่ ทดลองงาน คุณสุปราณีเอง ไม่เก่งทั้ง ภาษากวางตุ้ง และภาษาอังกฤษ งานใหม่ จึงเป็นเรื่อง ไม่มีความหวังเลย
แต่แล้วสิ่งอัศจรรย์ได้บังเกิดขึ้น พ้นเดือนธันวาคมแล้ว นายจ้าง ขอให้อยู่ทำงาน เดือนมกราคมต่อ เพราะมีงานจัดเลี้ยง หลายงาน ให้อยู่ช่วย ทำครัว จึงอยู่มาเรื่อยๆ จนถึง ๕ กุมภาพันธ์ นายจ้างจึงพูดให้อยู่ต่อ ไม่มีกำหนด และได้มีงานจัดเลี้ยง หลายครั้ง อยู่ต่อมาคืนหนึ่ง พี่สาวได้โทรศัพท์ แจ้งให้ทราบว่า คุณแม่ที่กำลังป่วยอยู่ มีอาการบวมทั้งตัว และไม่รู้สึกตัวแล้ว ตั้งแต่เวลา ๕ ทุ่ม พี่สาวอยากให้น้องๆ ที่อยู่ฮ่องกงทั้ง ๓ คน กลับมา ดูใจแม่
คุณสุปราณีรู้สึกกลุ้มใจมาก ถ้ากลับเมืองไทย ตอนนั้น ก็เสียดายงาน แต่ไม่กลับ ไม่สมควรยิ่ง คืนนั้น นั่งสมาธิ ตั้งแต่เวลา ๔ ทุ่ม สวด สรรเสริญ ด้วย ทำอธิษฐานจิต ด้วย ปฏิบัติด้วย ความตั้งใจ เต็มที่ ขอให้แม่ ได้บุญที่ลูกๆ ร่วมกัน สร้างองค์พระ จารึกชื่อแม่ และไม่ยอมนอน นั่งสมาธิ ตลอด
กระทั่งตี ๒ มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณสุปราณีไม่กล้ารับสาย เกรงเป็นข่าวร้าย ของมารดา น้องสาวเป็นผู้รับ บอกว่า แม่ต้องการคุย กับลูกๆ ที่อยู่ฮ่องกงทุกคน
คุณแม่พูดโทรศัพท์ ไต่ถามทุกข์สุข และเล่าว่า แม่ได้เห็น พระมหาสิริราชธาตุ มายืนเรียกอยู่ที่หัวนอน ท่านบอกว่า ให้ลุกขึ้นมา อนุโมทนา บุญ กับลูกๆ ที่ได้ร่วมกัน ทำบุญสร้างพระ ประจำตัว จารึกชื่อไว้ให้ แม่บอกลักษณะ ขององค์พระ ได้ถูกต้อง เหมือนในภาพถ่าย ที่แจกกันอยู่ทั่วไป และคุณสุปราณี มอบให้พี่สาว วางไว้ที่หัวนอนแม่ รูปหนึ่ง
คุณแม่บอกว่า ท่านได้อนุโมทนาบุญ เรียบร้อยแล้ว อยากจะไปที่ วัดพระธรรมกาย แต่จะขอรอให้ลูกๆ เป็นคนพาไป ตอนนี้ แม่ลุกขึ้นยืน เดินได้ อาการบวมก็ยุบลง แล้วเชื่อว่า จะหายในเร็ววันนี้
คุณสุปราณียืนยันว่า ต้องเป็นอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุแน่นอน ที่ทำให้พบเรื่องดีๆ
ที่ผู้เล่าประสบสิ่งดีๆ คงเป็นด้วยบุญกุศล ที่เป็นลูกกตัญญูอยู่ด้วย อุตส่าห์เป็นหนี้นายจ้าง นำเงินส่งให้พี่สาว รักษาพยาบาลคุณแม่ นับว่า เป็นลูกที่หาได้ยาก เป็นตัวอย่างดีที่ลูกๆ ของทุกครอบครัว ควรกระทำตาม ควรเป็น ู้ให้ ต่อบิดามารดาบ้าง ไม่ใช่คิดแต่ จะเป็น ผู้รับ อยู่ฝ่ายเดียว ท่านแก่เฒ่ากันมากขึ้น แต่บางคน กลับยังต้องให้ท่าน อุปถัมภ์ตน และลูกของตนเองอีก ดีไม่ดี เห็นพ่อแม่เป็น คนรับใช้ในบ้าน ทำอะไรไม่ถูกใจ เพราะคนแก่งกเงิ่น เส้นเอ็นแข็ง ทำข้าวของตกหล่น เสียหาย แทนที่จะหาเวลา คอยปรนนิบัติรับใช้ ตอบแทนคุณท่าน ลูกประเภทนี้ ก็ดุว่าบ่น ท่านไม่รู้จบ
[สารบัญ] [๑๖๕] [๑๖๖] [๑๖๗] [๑๖๘] [๑๖๙] [๑๗๐]
[๑๗๑] [๑๗๒] [๑๗๓] [๑๗๔] [๑๗๕] [๑๗๖] [๑๗๗] [๑๗๘] [๑๗๙] [๑๘๐] [๑๘๑]