อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๒๔๕.เกราะป้องกันภัย

คุณปราณี จันดาวงษ์ อยู่ที่บ้านพักแขวงการทางปราจีนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ได้ประสบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ๒ เรื่องดังนี้

เรื่องที่ ๑ คุณแม่ของคุณปราณี อายุ ๗๖ ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง วันหนึ่ง คุณปราณีได้นำกะละมัง ใส่น้ำร้อน ให้คุณแม่แช่เท้า เพื่อให้เลือดหมุนเวียน เสร็จแล้ว ก็หันหลังเดินเข้าไปในบ้าน แต่เมื่อเดินออกมา อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า คุณแม่หกล้ม หัวฟาดพื้น หงายท้อง ตาเหลือกค้าง หน้าซีดเผือด อาการหนัก ไม่มีสติแล้ว

ด้วยความตกใจ นึกอะไรไม่ออก ก็รีบจับองค์พระมหาสิริราชธาตุ ที่แขวนคอไว้ และอธิษฐานขอบารมีให้ท่าน ช่วยให้คุณแม่ปลอดภัย อย่าเสียชีวิตเลย จากนั้นได้นำคุณแม่ไปโรงพยาบาล ขณะเดินทาง ก็ได้สวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ตลอดเวลา ขณะที่รถแล่นไปได้ สักพักหนึ่ง ปรากฏว่า คุณแม่ลืมตา และเริ่มมีสติ จากนั้น ก็หายเป็นปกติ เหมือนคนไม่เป็นอะไร

พอไปถึงที่โรงพยาบาล คุณหมอได้ทำการตรวจเช็ค เพื่อหาสาเหตุของโรค แต่ก็ไม่พบอะไร เพราะคุณแม่หาย เป็นอัศจรรย์ เหมือนคน ปกติ ไม่เป็นอะไรเลย ลูกสวดสรรเสริญช่วยแม่ได้ น่าอัศจรรย์จริงๆ คุณหมอจึงให้พักฟื้น และรอดูอาการที่โรงพยาบาลอีก ๒ วัน แล้วก็ให้กลับ บ้านได้ ขณะนี้ คุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรง หน้าตาสดชื่นเบิกบาน ด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ของพระมหาสิริราชธาตุ อย่างแน่นอน

เรื่องที่ ๒ พี่ชายของคุณปราณี ชื่อคุณเดชา โสมรักษ์ ได้ขับรถปิคอัพ พาครอบครัวไปธุระ ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุ ยางล้อหน้า และยาง ล้อหลังระเบิด ทำให้รถพลิกคว่ำ หลายตลบ แล้วพุ่งไปชนกับต้นไม้อย่างแรง สภาพรถพังยับเยิน จนซ่อมไม่ได้ ต้องขายเป็นเศษเหล็ก คนที่เห็น เหตุการณ์ ก็พากันพูดว่า ต้องตายกันหมดทั้งคัน ไม่มีใครรอดชีวิตแน่นอน 

แต่เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากก็คือ ครอบครัวของคุณเดชา ไม่มีใครบาดเจ็บเลย เพียงแต่มีรอยถลอกนิดหน่อย ทุกคนปลอดภัย ซึ่งก่อน หน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุนี้ คุณปราณี ได้นำรูปพระมหาสิริราชธาตุ วางไว้ที่หน้ารถ แม้เพียงรูปภาพ ยังศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนี้ ทำให้มีความมั่นใจ อย่าง เต็มเปี่ยมว่า ในยามคับขัน มีเพียงพระรัตนตรัยเท่านั้น ที่เป็นเกราะป้องกันภัย และเป็นที่พึ่งให้เราได้


[สารบัญ] [๒๓๗] [๒๓๘] [๒๓๙] [๒๔๐] [๒๔๑] [๒๔๒]
[๒๔๓] [๒๔๔] [๒๔๕] [๒๔๖] [๒๔๗] [๒๔๘] [๒๔๙] [๒๕๐] [๒๕๑]