คุณเบญจมาศ กฤษณะเดชา อยู่ที่ถนนสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เล่าว่า
ได้ยินชื่อวัดพระธรรมกายมานาน แต่ไม่เคยไป จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๔๐ มีนิสิตนักศึกษามาชวนทำบุญ จึงได้โอกาสไปวัดเป็น ครั้งแรก รู้สึกดีใจที่เห็นวัด มีระเบียบเรียบร้อย ห้องน้ำสะอาด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของวัด ก็มีระเบียบวินัย มารยาทกิริยาวาจา อ่อนน้อมงดงาม
จึงไปวัด อีกเป็นครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นงานทอดกฐิน ซึ่งมีคุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เป็นประธานกฐิน ได้ทำบุญสร้างองค์พระ โดยการสะสมบุญ จนครบหนึ่งหมื่นบาท ได้รับของขวัญ เป็นพระหยกและดวงแก้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ เธอนอนหลับฝันว่า ได้ไปบุญทอดผ้าป่าที่วัดไหน ก็ไม่ทราบ มีสาธุชนมาร่วมบุญกัน มากมาย ทางวัดประกาศ บอกว่า ให้ทุกคนที่มารับวัตถุมงคล ไปบูชาที่บ้าน คุณเบญจมาศ จึงเดินตามคนอื่นๆไป ครั้นผ่านโต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งมี วัตถุมงคล ใส่ไว้ในพานทอง มากมาย มีหลวงพ่อสูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่
คุณเบญจมาศมองดูวัตถุมงคลในพาน เห็นเป็นพระพุทธรูป องค์เล็กๆ เลี่ยมไว้เรียบร้อย เป็นพระนั่งสมาธิสีชมพู สวยงามมาก อยาก ได้ไว้คล้องคอ เพราะยังไม่เคยมีพระ คล้องคอเลย จึงพูดกับหลวงพ่อรูปนั้นว่าหลวงพ่อเจ้าขา ลูกยังไม่เคยมีพระคล้องคอเลย ขอองค์พระสีชมพู ที่เห็นอยู่นี้ให้ลูกนะคะ ลูกอยากได้ พูดขอ แล้วชี้มือไปที่องค์พระสีชมพูองค์เดียว ที่เห็นอยู่ในพานทอง
หลวงพ่อรูปนั้น ท่านมองหน้าคุณเบญจมาศ พร้อมกับกล่าวอนุญาตว่า เอาไปซิลูก เธอก็หยิบพระสีชมพูองค์นั้นมา แล้วก็ตื่นขึ้น
อีก ๒ วันต่อมา เป็นวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณศิริเพ็ญ เตชะวีรพงศ์ได้นำหนังสือ สวดสรรเสริญ สุวรรณนิธิ (โลหะสำหรับ หล่อองค์พระ) สวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ และหนังสือปาฏิหาริย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ มาให้ บอกข่าวเรื่องการทำบุญ สร้างองค์พระ บูชาธรรมหลวงพ่อ องค์ละหนึ่งหมื่นบาท จะได้รับพระของขวัญ มหาสิริราชธาตุ พร้อมทั้งเล่าเรื่องอัศจรรย์ตะวันแก้ว ที่เกิดเมื่อวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ให้ฟัง
เธอฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่มีเงิน จึงตอบไปว่า ถ้ามีโชคถูกหวยงวดนี้ จึงจะทำบุญ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง ๑๒ วัน จะปิดองค์พระ ภายนอกเจดีย์แล้ว จะหาเงินที่ไหน มาทำบุญทัน คุณศิริเพ็ญแนะนำให้อธิษฐานจิต ขอพร เธอก็ยังไม่เชื่อ
ต่อมาคืนวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คราวนี้เธอฝันว่า ไปขอพระจากผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แบบเดียวกับที่ขอจาก พระภิกษุชรารูปนั้น ตกใจตื่นขึ้น นอนไม่หลับ ลุกขึ้นไปหยิบหนังสือ ปาฏิหาริย์มาอ่าน ด้านหลังหนังสือมีภาพพระมหาสิริราชธาตุ พิจารณาดูเหมือน พระของขวัญ ที่ได้รับในฝัน พอพลิกดูปกหนังสือด้าน หน้าเป็นรูปหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็ถึงกับตกใจขนลุก เพราะเหมือนพระภิกษุชรา ที่เห็นในฝัน คืนวันที่ ๒๖-๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ไม่มีผิด จึงพนมมือขึ้น อธิษฐานว่า ถ้าลูกมีบุญเป็นเจ้าขององค์พระ ขอให้ลูกมีโชคดี ได้เงินมาทำบุญ สร้าง องค์พระ
ครั้นแล้วปรากฏว่า ได้ลาภพิเศษ มีเงินมาทำบุญสร้างองค์พระทัน ในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ และยังมีบุญได้เห็น อัศจรรย์ตะวัน แก้ว พร้อมลูกชาย ทั้งแม่ ทั้งลูกดีใจจนน้ำตาไหล คิดว่า ตัวเองคงมีบุญอยู่บ้าง หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านยังอุตส่าห์ไปตาม ในความฝัน ให้ได้เห็น พระมหาสิริราชธาตุล่วงหน้า คุณเบญจมาศ จึงตั้งใจปฏิบัติธรรมและไปวัดทุกวันอาทิตย์
เวลานี้แม้ยังไม่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุองค์จริง แต่ได้สวดสรรเสริญอยู่เป็นประจำ ในบางครั้ง ก็ได้พบอานุภาพ ของท่าน อย่างเช่น
เรื่องทำตุ้มหูทองคำหาย รู้สึกเสียดายมาก เพราะเป็นของที่สามีให้ไว้ แต่เมื่อหาเท่าใดก็ไม่พบ จึงต้องทำใจ ระยะนั้น แม้ยังไม่ได้รับ พระมหาสิริราชธาตุ แต่คุณเบญจมาศ ก็หมั่นสวดมนต์ สวดสรรเสริญ พระมหาสิริราธาตุ โดยนำใบอนุโมทนาบัตร และรูปภาพมาบูชาแทน
คืนวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ ขณะสวดมนต์ สวดสรรเสริญ ทำสมาธิเสร็จแล้ว จึงเข้านอนใกล้จะหลับ ได้ยินเสียงผู้ชาย พูดว่า ตุ้มหู ไม่หายไปไหนหรอก อีกไม่นาน จะได้คืน ความจริง คุณเบญจมาศลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ได้ยินเสียงบอกจึงตกใจตื่น สงสัยว่า เสียงใครพูด แต่ไม่ได้ นึกอะไร
วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ เป็นวันเสาร์ เธอบอกให้ลูกชายว่าช่วยล้างถังน้ำในห้องน้ำพอลูกชายล้างเสร็จ บอกคุณแม่ว่า คุณแม่ครับ เจอตุ้มหูคุณแม่แล้ว อยู่ในถังน้ำนี่เอง
คุณเบญจมาศขนลุกทั้งตัว นึกถึงเสียงพูดของผู้ชายที่ได้ยิน พร้อมทั้งนึกถึง อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของ พระมหาสิริราชธาตุ ขนาดสวด สรรเสริญ แต่เพียงภาพถ่าย ยังช่วยเหลือได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นพระของขวัญองค์จริง จะมีอานุภาพขนาดไหน ท่านไม่ใช่มีอานุภาพ แค่ดูดทรัพย์ เท่านั้น ยังช่วยดูแลรักษาทรัพย์สิน ที่มีอยู่ให้ด้วย ทั้งที่ไม่ได้ขอร้องอะไร คุณเบญจมาศ ได้กล่าวไว้ตอนท้ายว่า
้ข้าพเจ้าอยากจะบอกกับยอดกัลยาณมิตรทุกท่านว่า อย่าลังเลเลยค่ะ มาสร้างพระธรรมกาย ประจำตัว ภายใน มหาธรรมกายเจดีย์ และรับพระของขวัญ มหาสิริราชธาตุกันทุกท่าน เพื่อให้ท่านคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และครอบครัว ต่อไป ในวันข้างหน้า ทั้งมีส่วนช่วยสร้าง มหาธรรมกายเจดีย์ ให้เสร็จเร็วๆ เพื่อสันติสุขของมวลมนุษยชาติ
ความฝันของผู้เล่าเรื่องนี้เป็นชนิด เทพยดาบันดาล แสดงว่าคุณเบญจมาศ เป็นคนมีบุญเก่า และเคยเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ เคยทำบุญ ร่วมกับหมู่คณะไว้ เทพยดาที่มีหน้าที่ดูแลรักษา จึงสร้างภาพนิมิตในฝัน ให้เห็นล่วงหน้า ทั้งพระมหาสิริราชธาตุ และหลวงพ่อ วัดปากน้ำ เมื่อมาเห็นภาพในหนังสือ ตรงกับความฝัน จึงสะดุดใจได้คิด ปรารถนาอยากทำบุญ พอดีมีบุญเคยทำทานไว้ในอดีต บุญบันดาล ให้มีโชคลาภเกิดขึ้น ได้ทำบุญสมใจ
ส่วนเสียงผู้ชายที่พูดด้วยในเวลาใกล้หลับ อาจเป็นเทพยดาที่ดูแลองค์พระมหาสิริราชธาตุ เมื่อคุณเบญจมาศทำบุญไปแล้ว มีสิทธิ์ได้รับ พระของขวัญ แม้ยังไม่ได้รับพระของจริง จากทางวัด แต่เทพยดาที่ดูแล พระของขวัญองค์จริง ท่านย่อมทราบว่า ใครเป็นเจ้าของ ท่านก็ทำ หน้าที่ ของท่านทันที ผู้คนทั้งหลาย ที่อธิษฐานกับภาพถ่ายแล้ว ประสพผลสำเร็จ ก็ทำนองเดียวกัน คือส่วนใหญ่ สามารถหาทางทำบุญ เป็น เจ้าขององค์พระ ได้ทุกราย
[สารบัญ] [๒๓๗] [๒๓๘] [๒๓๙] [๒๔๐] [๒๔๑] [๒๔๒]
[๒๔๓] [๒๔๔] [๒๔๕] [๒๔๖] [๒๔๗] [๒๔๘] [๒๔๙] [๒๕๐] [๒๕๑]