บทสัมภาษณ์ของกิ่งฉัตร |
สัมภาษณ์กิ่งฉัตรจากสกุลไทยฉบับที่ 2409/47 วันอังคาร ที่ 19 ธ.ค. 43 สัมภาษณ์โดย ประภัสสร เสวิกุล |
วันนี้ของกิ่งฉัตร... นักเขียนที่มาจากนักข่าว |
หากพูดถึงนักเขียนหญิงรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมจากนักอ่านเป็นอย่างสูง ก็คงต้องมีชื่อ "กิ่งฉัตร" อยู่ในลำดับต้นๆ ก่อนจะมาเป็นนักเขียน คุณกิ่งฉัตรเคยทำงานอะไรมาก่อนหรือเปล่าครับ กิ่งฉัตร เป็นนักข่าวอยู่ผู้จัดการปริทรรศน์ประมาณ 2 ปี จากนั้นก็มาเรียนหนังสือ แล้วจึงเริ่มต้นเขียนอย่างจริงจัง จริงๆแล้วมาเริ่มต้นเขียนหลังจากออกจากการเป็นผู้สื่อข่าวแล้ว ผู้หญิงกับการเป็นนักข่าวนี่ขัดกันหรือเปล่า กิ่งฉัตร ไม่นะคะ ในทีมกองบรรณาธิการส่วนมากผู้หญิงครอง และนักข่าวผู้หญิงก็ค่อนข้างมาก บางครั้งจะเห็นว่า ผู้หญิงทำข่าวอาจจะไม่สะดวก แต่ปัจจุบันมีความรู้สึกในส่วนตัวนะคะว่าจะง่าย เพราะแหล่งข่าวยินดีจะพูดกับนัก ข่าวผู้หญิงมากกว่า ในบางกรณีเราเข้าไปสัมภาษณ์ได้ลึกกว่า อย่างสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนหรือเข้าไปในซ่อง เพื่อที่จะไปพูดคุยกับผู้หญิงที่มีอาชีพพิเศษนี่ ถ้าส่งผู้ชายเข้าไปบางทีอาจจะไม่เต็มใจเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ เราเป็นผู้หญิงเข้าไปทุกอย่างอาจจะง่ายขึ้น ในบรรดาข่าวที่คุณกิ่งฉัตรทำมาในระหว่างที่เป็นนักข่าว มีข่าวไทนที่เด็ดๆ หรือว่าเป็นชิ้นเอกบ้าง กิ่งฉัตร จริงๆก็มีที่ประทับใจมากอยู่หลายชิ้น แต่ชิ้นที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุด ตอบรับจากผู้อ่านมากที่สุดคือ เรื่องนักเรียนที่ไปจมน้ำที่เขาตะเกียบ หัวหิน แล้วไม่พบศพ แต่มีข่าวว่าเห็นเด็กคนนี้ปรากฏตัวที่โน่นที่นี่ตลอด เวลา ก็ไปตามเส้นทางของที่มีคนรายงานว่ามีคนเห็นเด็กคนนี้ และสัมภาษณ์พ่อแม่เด็ก ก็ตามไป ซึ่งจะคลาด กันตลอดเวลา ตามตั้งแต่กรุงเทพฯจนถึงเขาสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ แล้วกลับมาที่หัวหิน และสุดท้ายเห็น เด็กอยู่แถวประตูน้ำ และก็เห็นเด็กอยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆกับหมู่บ้านจัดสรร แต่ไม่ได้รับการบืนบันนะคะว่าเด็กคน เดียวกัน เพียงแต่บอกว่าน่าจะใช่ เพราะเด็กคนนี้หน้าตาคุ้นๆ จึงเรียกพ่อแม่เด็กมาดู ระหว่างที่เรียก เด็ก ก็ไปแล้ว ก็จะเป็นอย่างนี้ตลอด คนอ่านก็จะโทรศัพท์เข้าไปบอกเราก็รีบไปดู ซึ่งตอนนั้นก็ยุ่งมากเลย ผลสุดท้ายได้เจอเด็กคนนั้นไหมครับ กิ่งฉัตร ไม่ทราบค่ะ รู้สึกว่าเด็กแต่ละคนที่เจอจะมีปัญหาทางจิตหรือทางความทรงจำ เริ่มจากร้องเพลงแล้วก็ เนื้อตัวมอมแมม เดินไปเดินมา จากการเป็นนักข่าว ส่งอานิสงส์มาถึงการเป็นนักเขียนอย่างไปบ้าง กิ่งฉัตร เยอะมากค่ะ อย่างแรกต้องว่าจากการเริ่มเรียนการเขียนข่าวในมหาวิทยาลัย และมีเทคนิควิธีการ เขียน หนังสือสำหรับแนะนำสำหรับคนที่เริ่มต้นเขียนใหม่ๆ แล้วก็เริ่มฝึกปรือตลอด เขียนสารคดี ฝีกการทำข่าว ได้ข้อ มูลเยอะมากที่เก็บไว้สำหรับการเขียนหนังสือแต่ละเรื่องๆ อย่างหนังสือดาราดังที่ค่อยข้างจะมีคนผู้อ่านพูดถึงมาก ข้อมูลส่วนใหญ่ก็ได้เอกสารมาจากการทำข่าว ข้อมูลหลักๆ ข้อมูลในเรื่องที่นำมาเขียน นำมาเป็นองค์ประกอบต่างๆ รวมทั้งพล็อตด้วยก็มาจากการทำข่าวทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่เขียนง่ายมาก เพราะมีเอกสารข้อมูลวางไว้ และเราก็มีหน้าที่ เขียนตามเอกสารที่ได้มาเท่านั้นเอง และข้อมูลบางข้อมูลมีปัญหาที่ว่าจะเป็นข้อมูลปกปิด หรือกระทบกระเทือนกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ มีตัวตนอยู่จริงหรือ เปล่าครับ กิ่งฉัตร ส่วนมากไม่มีนะคะ เพราะเราไม่ได้บอกว่าเป็นใคร มาจากไหน เป็นคนที่ตั้งขึ้นเอง คุณกิ่งฉัตรเรียนมาโดยตรงทางด้านการทำหนังสือพิมพ์หรือครับ กิ่งฉัตร ใช่ค่ะ จบจากวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก็เรียกว่าตรงสายเลย แล้วมีเรื่องไหนนำบรรยากาศของความเป็นนักข่าวมาใช้ในง่ายเขียนบ้างครับ กิ่งฉัตร เรื่องที่เป็นนักข่าวโดยตรงจริงๆนะคะ จะเป็น 3 เรื่องพร้อมกัน เป็นเรื่องที่เหตุเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน หมด ตัวนางเอกคือ นักข่าวสามคน ซึ่งมีสามบุคลิก เนื้อหาส่วนใหญ่ที่นำมาเขียนก็เป็ฯเรื่องที่เราไปทำข่าวมา หรือว่าในช่วงระหว่างที่เราทำงานมีคนทำข่าวนี้ ก็มีข่าวที่น่าสนใจก็เอามาเขียน เช่นเรื่อง "มายาตวัน" "มนต์จันทรา" "ฟ้ากระจ่างดาว" ซึ่ง "มายาตวัน" นี่ ขอวงเล็บนิดหนึ่งเป็นภาคหนังสือนะคะไม่ใช่เป็นภาคละคร และในตัวละคร 3 ตัวจากในนิยายที่ว่าไว้ทั้ง 3 เรื่องนี้มีตัวจริงไหมครับ กิ่งฉัตร บุคลิกอาจจะดึงมาจากคนโน้น คนนี้ เป็นเรื่องที่ทำข่าวบ้าง แต่จะยืนพื้นบนจินตนาการเสียมากกว่า ดึง มาแค่ลักษณะนิสัยบางอย่าง คืออย่างนิสัยแปลกๆ ค่อนข้างจะดึงดันมาก เราก็ดึงมา ฟังดูเหมือนกับว่าคุณกิ่งฉัตรก็ชอบในความเป็นนักข่าวอยู่ กิ่งฉัตร ชอบค่ะ จะเรียกว่ารักก็ได้ แล้วทำไมถึงออกมาเขียนหนังสือ กิ่งฉัตร ช่วงนั้นอาจจะมีปัญหาส่วนตัวเล็กน้อย แล้วทางบ้านไม่ชอบที่จะให้เป็นนักข่าวเท่าไหร่ เพราะเป็นนักข่าว นี่ต้องทำงานทุกวัน นอกจากนั้น เวลาปิดต้นฉบับหรือปิดเรื่องเราจะต้องรอทุกอย่าง อ่าน ตรวจบรู๊ฟ กว่าจะเสร็จ สิ้นกระบวนการประมาณเที่ยงคืน และเที่ยงคืนสมัยก่อนประมาณ 10 ปีที่แล้ว ก็ค่อนข้างน่ากลัว แล้วบ้านก็อยู่ไกล รถเมล์ก็ไม่ผ่าน ค่อนข้างจะเปลี่ยว และที่บ้านจะห้ามไม่ให้นั่งแท็กซี่เด็ดขาด ให้นั่งตุ๊กตุ๊กพอได้ คือมันโล่งๆ ยัง พอจะโดดลงมาได้ทัน ไปๆมาๆก็ลาออกดีกว่า เพราะคุณแม่เป็นห่วงที่ต้องกลับดึก แสดงว่าคุณพ่อ-คุณแม่ก็ยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่กับการเป็นนักข่าว กิ่งฉัตร ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คุณแม่จะติดภาพอาชีพที่ดีที่สุดคือเป็นอาจารย์ สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ซึ่งคุณกิ่งฉัตรไม่ชอบ กิ่งฉัตร ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ จริงๆแล้วเพื่อนชอบล้อนะคะว่าน่าจะเป็นครูเป็นอาจารย์ ซึ่งจริงๆแล้วอาจเป็นนิสัย คนที่ชอบอ่านมาก และก็มักจะบอกเพื่อนว่าเวลาที่เขาทำอะไรไม่ถูกว่า จริงๆแล้วควรจะต้องทำอย่างนี้ จริงๆแล้วจะ ต้องเรียกอย่างนี้ อย่างนั้น เขาก็เลยคิดว่า เราเป็นคุณป้า เป็นครู เป็นอาจารย์ไป โดยส่วนตัว แล้วคิดว่าไม่ มีความสามารถพอที่จะสอนใครได้ ในระหว่างการเป็นนักเขียนกับนักข่าว คุณพ่อ-คุณแม่ชอบอย่างไหนมากกว่า กิ่งฉัตร ตอนแรกๆ ก็ไม่ชอบทั้งคู่ เพราะว่ายังติดว่าเป็นนักเขียนน่าจะไส้แห้งเอาตัวไม่รอดนะคะ และอีกอย่าง คุณแม่อยากจะให้เป็นอาจารย์มากกว่า ก็จะพูดว่า นักเขียนเป็นเมื่อไหร่ก็ได้ 40-50 ค่อยมาเขียนก็ได้ เรื่องอะไร จะต้องมานั่งจับเจ่าเขียนหนังสือตั้งแต่ตอนนี้ อันนี้ก็เลยต้องไปสมัครเป็นอาจารย์ก่อน ทราบว่าหลังจากที่ออกจากหนังสือพิมพ์แล้วก็ไปเรียนต่อที่อเมริการะยะหนึ่ง แต่ก็ทนเสียงเรียกร้องจาก มนต์เสน่ห์ของตัวหนังสือไม่ได้ กิ่งฉัตร จริงๆแล้วเป็นคนที่ภาษาอังกฤษอ่อนมาก และเป็นวิชาที่เกลียดมากและไม่ได้มีใจรักทางด้านนี้ด้วย ทำให้ พอไปเรียนแล้วพูดไม่รู้เรื่องทำให้อึดอัดใจมาก ทำอะไรก็ไม่ได้ ขับรถก็ไม่ได้ คนไปอยู่อเมริกาถ้าขับรถไม่ได้จะ อึกอัดใจมาก เพราะว่าจะไปไหนก็ไม่ได้ ต้องพึ่งพารถเมล์ตลอด จะออกต่างเมืองก็ลำบาก จึงมีความรู้สึกว่าเราก็ อยู่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ การมีชีวิตความเป็นอยู่ก็ค่อนข้างลำบากมากนะคะช่วงนั้น เลยตัดสินใจว่าถ้าเรียน จนจบและพยายามค่อโทหรืออะไรก็จะเสียเวลา เสียความรูสึกของตัวเองด้วย ก็เลยกลับมาเพราะคิดว่าอย่างไร กลับมาก็เขียนหนังสือ จึงกลับเลยดีกว่า จึงขอคุณพ่อ คุณแม่กลับ |
[ หน้าบ้าน ] [ ประวัติ ] [ ผลงาน ] [ เรื่องย่อ ] [ สัมภาษณ์ ] [ สมุดเยี่ยม ] [ หลังบ้าน ]
"บ้านกิ่งฉัตร" เป็นโฮมเพจกิ่งฉัตรอย่างไม่เป็นทางการ มิได้จัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ใดๆแก่ผู้จัดทำ "กิ่งฉัตร" และผลงานที่อ้างอิงบนโฮมเพจนี้ ยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้เขียนและผู้พิมพ์ทุกประการ
"บ้านกิ่งฉัตร" จัดทำโดย กมลวรรณ อ่อนละมัย 7 ก.พ. 2544