King Rama IX

ความรักความห่วงไยต่อประชาชนอย่างแท้จริงของพระองค์ ต่อราษฏรของพระองค์
ตอนหนึ่งของคำบรรยายพิเศษในหัวข้อ " พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการเสริมสร้างสุขภาพ "
ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา
ที่คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

ครั้งหนึ่งระหว่างทรงสั่งงานพวกเรา พระองค์ ทรงชี้ไปที่พระราชอาสน์พร้อมกับตรัสกล่าวว่า ทำไมพระเจ้าอยู่หัว ต้องเหนื่อยและแบกภาระหนักอย่างนี้
	ยอมรับว่าเมื่อได้ยินพวกเราถึงกับนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็ได้ตระหนักและสำนึกในพระราชดำรัส ของพระองค์อีก 2-3 ประโยคต่อมาว่า
ที่เราต้องเหนื่อยเช่นนี้เพราะประชาชนชาวไทย ยังยากจนอยู่ ความยากจนทำให้ขาดอิสรภาพ เสรีภาพ ถ้าประชาชนยังไม่มีอิสรเสรีภาพ สังคมไทยก็ยังไม่เป็นประชาธิปไตย....
	ดร.สุเมธกล่าวต่อท้ายว่า ผมจึงเข้าใจโดยถ่องแท้ว่า ทำไมเงิน ถึงชักจูงให้คนไปไหนหรือทำอะไรก็ได้

เป็นพระราชดำรัสอันเป็นสัจธรรมที่แสดงถึงพระปัญญาบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระองค์ทรงรู้แท้ตลอดถึงปัญหาของประเทศไทย จากการที่ทรงครองราชย์เป็นเวลานานและได้
เสด็จไปเยี่ยมเยือนประชาชนทุกหมู่เหล่า แม้แต่ในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ได้ทรงสัมผัส
และรับรู้ปัญหาของพสกนิกร โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ นั้นคือปัญหาความยากจน

ความยากจนทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีอิสรภาพและเสรีภาพอย่างแท้จริงในการเลือกตั้ง
ต้องถูกชักจูงด้วยอามิสสินจ้างด้วยอำนาจเงิน ความเกรงกลัวอิทธิพล หรือความเกรงใจในบุญคุณ
จึงทำให้ยังไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ความยากจนทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีอิสรภาพและเสรีภาพอย่างแท้จริงในการเลือกตั้ง
เนื่องจากความกลัวที่จะถูกกลั่นแกล้ง หรือเอารัดเอาเปรียบจากบรรดาผู้มีอำนาจในมือ
คนส่วนใหญ่ยังไม่มีอำนาจต่อรอง ยังไม่มีเสรีภาพจากความหิวโหย จึงยังไม่เป็นประชาธิปไตย

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปรียบประดุจดังดวงประทีปส่องทางสำหรับประชาชน
และนักประชาธิปไตยทั้งหลายว่า การพัฒนาประชาธิปไตยที่แท้จริงคือการช่วยกันมุ่งขจัดความยากจน
ของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อให้พวกเขามีอิสรภาพและเสรีภาพที่แท้จริง ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน
ไม่ใช้อำนาจรังแกกัน ยึดความถูกต้องไม่แบ่งพวกแบ่งพ้องกัน

เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขมั่นคงถาวรตลอดไป

จิตรกรรม พระราชพิธีวิถีไทย
The Thai Royal Ceremony

พระมหาชนก
พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
His Majesty King Bhumibol Adulyadej
"ขอจงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กำลังกายที่สมบูรณ์"
"May all readers be blessed with pure perseverance, sharp wisdom
and complete physical health."
เข้าใจว่าสภาพเรือเกิดอัปปางและพระมหาชนกต้องเพียรพยายามว่ายในมหาสมุทร พยายามเอาตัวให้รอดจนถึงฝั่งที่ซึ่งไม่สามารถเห็นจุดหมายปลายทางได้
เปรียบเสมือนท่านทั้งหลายที่ไม่สามารถกำหนดอนาคตได้ และเมื่อพบกับอุปสรรคต่างๆในชีวิต
ก็ไม่ย่อท้อใช้ความเพียรพยายาม มุ่งมั่น และสติปัญญาจนถึงที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคนั้นๆให้จงได้
ความสำเร็จจึงจะปรากฏให้เห็น
พระคาถาโต้ตอบกันในบางตอนระหว่างเทวดา และพระมหาชนก

นางมณีเมขลา : นี้ใคร เมื่อแลไม่เห็นฝั่งก็ อุตสาหพยายาม ว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร จึงพยายามว่าย อยู่อย่างนี้นักหนา	พระมหาชนก : ดูก่อนเทวดาเราไตร่ตรองเห็น ปฏิปทาแห่งโลก และอานิสงส์แห่งความเพียร เพราะฉะนั้น ถึงมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายาม ว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร
นางมณีเมขลา : ฝั่งมหาสมุทรลึกจนประมาณ มิได้ ย่อมไม่ปรากฏ แก่ท่าน ความพยายามอย่าง ลูกผู้ชายของท่านก็เปล่าประโยชน์ท่านไม่ทันถึง ฝั่งก็จักตาย	พระมหาชนก : ท่านพูดอะไรอย่างนั้น เราทำความ พยายาม แม้ตายก็จักพ้นครหา บุคคลเมื่อกระทำ ความเพียร แม้จะตายก็ชื่อว่า ไม่เป็นหนี้ในระหว่าง หมู่ญาติ เทวดา และบิดามารดา อนึ่งบุคคลเมื่อ ทำกิจอย่างลูกผู้ชาย ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง
เทวดากล่าวว่า : การงานอันใด ยังไม่ถึงที่สุด ด้วยความพยายามการงานอันนั้นก็ไร้ผล มี ความลำบากเกิดขึ้น การทำความพยายามใน ฐานะอันไม่สมควรใด จนความตายปรากฏขึ้น ความพยายามในฐานะอันไม่สมควรนั้น จะมี ประโยชน์อันใด	พระมหาชนก : ดูก่อนเทวดาผู้ใดรู้แจ้งว่าการงาน ที่ทำจะไม่ลุล่วงไปได้จริงๆชื่อว่าไม่รักษาชีวิตของตน ถ้าผู้นั้นละความเพียร ในฐานะเช่นนั้นเสีย ก็จะพึงรู้ ผลแห่งการเกียจคร้าน ดูก่อนเทวดาคนบางพวกใน โลกนี้เห็นผลแห่งความประสงค์ของตน จึงประกอบ การงานทั้งหลาย การงานเหล่านั้นจะสำเร็จหรือไม่ ก็ตาม ดูก่อนเทวดา ท่านก็เห็นผลแห่งกรรมประจักษ์ แก่ตนแล้วมิใช่หรือ คนอื่นๆ จมในมหาสมุทรหมด เราคนเดียวยังว่ายข้ามอยู่ และได้เห็น ท่านมาสถิต อยู่ใกล้เรา เรานั้นจักพยายามตามสติกำลัง จักทำ ความเพียรที่บุรุษควรทำ ไปให้ถึงฝั่งแห่งมหาสมุทร
หลังจากได้สดับพระวาจาอันมั่นคงของ มหาชนกกล่าว จึงเทวดากล่าวว่า : ท่านใดถึงพร้อมด้วยความพยายามโดยธรรม ไม่จมลงในห้วงมหรรณพ ซึ่งประมาณมิได้ เห็น ปานนี้ ด้วยกิจคือความเพียรของบุรุษท่านนั้นจง ไปในสถานที่ที่ใจท่านยินดีนั้นเถิด