Image Loading...
4. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา....อุทยานมรดกโลก (หน้าที่ 3)
AYUTAYA HISTORICAL PARK & WORLD HERITAGE (Page 3)
ยูเนสโก้ โดยคณะกรรมการมรดกโลกได้มีมติรับนครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งใจกลางกรุงศรีอยุธยา ที่ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ไว้ในบัญชีมรดกโลก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ณ กรุงคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย

| บทนำ | ประวัติความเป็นมา | จุดเด่นและสถานที่เที่ยวชม | แผนผังอุทยาน | การเดินทาง | สถานที่พัก |
| สถานที่เที่ยวชมอื่นๆ | บันทึกจากประสบการณ์ |
สถานที่เที่ยวชมอื่นๆ
  • พระที่นั่งพะเนียด สร้างเป็นที่ประทับทอดพระเนตรการคล้องช้าง ตั้งอยู่ในตำบลสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา ลักษณะเป็นคอกล้อมด้วยซุงทั้งต้น มีปีกกาแยกเป็นรั้วไปสองข้าง รอบคอกพระเนียดเป็นกำแพงดินประกอบอิฐ สูงเสมอยอดเขา ด้านหลังคอกตรงข้ามแนวปีกกาเป็นพลับพลาที่ประทับ บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2500
  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นใหม่ ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย ปลายถนนขุนเมืองใจ ใกล้ศาลากลางจังหวัด เป็นที่รวมโบราณวัตถุของกรุงศรีอยุธยานานาชนิดที่น่าสนใจมาก เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์ วันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 - 16.00 น.
  • ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา ประกอบด้วยอาคารหลัก ตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ติดกับวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา ในเกาะตัวเมือง และอาคารผนวกตั้งอยู่ ณ บริเวณซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น ต.เกาะเรียน ศูนย์นี้เป็นสถาบันวิจัยแห่งชาติ ด้านอยุธยาศึกษา โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ไทยสมัยที่พระนครศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อยุธยาซึ่งแสดงสิ่งจำลองที่ได้จากการค้นคว้าวิจัยโดยใช้วิธีการและเทคโนโลยี ของการจัดพิพิธภัณฑ์และการจัดแสดงนิทรรศการสมัยใหม่ รวมทั้งเป็นศูนย์ข้อมูลและห้องสมุดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อยุธยาด้วย เปิดทำการทุกวัน เว้นวันจันทร์และอังคาร ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. วันหยุดปิดเวลา 17.00 น. ค่าเข้าชม คนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
  • ตำหนักพระนครหลวง อยู่ริมแม่น้ำป่าสักฝั่งทิศตะวันออก ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง เป็นที่ประทับในระหว่างเสด็จไปพระพุทธบาท และประทับแรมในระหว่างเสด็จสพบุรี สันนิษฐานว่าสร้างในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม แต่มาสร้างเป็นที่ประทับก่ออิฐถือปูนในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
โบราณสถานในเกาะบางปะอิน
เกาะบางปะอินอยู่ห่างจากเกาะเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกไป 40 กิโลเมตร คือจากตัวจังหวัดไปตามถนนพหลโยธินเลี้ยวขวาเข้าทางแยกตรง กม.ที่ 35 เข้าไป 7 กิโลเมตร อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก-นิสิตนักศึกษา-ภิกษุ-สามเณร 20 บาท นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 50 บาท ภายในพระราชวังบางปะอินมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้

  • พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ เป็นปราสาทอยู่กลางสระ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เดิมสร้างด้วยเครื่องไม้ทั้งองค์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้เปลี่ยนเสาและพื้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด
  • พระที่นั่งวโรภาษพิมาน เป็นท้องพระโรงอยู่ทางเหนือของ "สะพานเสด็จ" ซึ่งเป็นท่าน้ำสำหรับเสด็จพระราชดำเนินขึ้นลง เดิมเป็นเรือนไม้สองชั้นเป็นที่ตั้งที่ประทับและท้องพระโรงร่วมกัน ต่อมารัชกาลที่ 5 โปรดให้รื้อสร้างใหม่เป็นอาคารแบบฝรั่ง ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกขุนนางในงานพระราชพิธี สิ่งสำคัญในพระที่นั่งเป็นภาพชุดพระราชพงศาวดาร กับภาพเรื่องอิเหนา พระอภัยมณี และรามเกียรติ์
  • พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร อยู่ทางทิศตะวันออกตรงข้ามกับสระน้ำ เป็นพระที่นั่งสร้างด้วยไม้ น่าเสียดายที่ไฟไหม้หมดไม่มีสิ่งใดเหลือ นอกจากหอสูงก่ออิฐปูนรูปหกเหลี่ยมซึ่งเรียกว่า "หอพระ" เท่านั้น
  • พระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ อยู่ตอนเหนือของพระราชวัง พระที่นั่งองค์นี้พระยาโชฏึก ราชเศรษฐี(ฟัก) สร้างถวายตามแบบพระราชวังจีน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯมักเสด็จประทับในฤดูหนาว
  • พระที่นั่งวิฑูรทัศนา เป็นหอสูง สร้างบนเกาะน้อย ระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรกับพระที่นั่งเวหาสน์จำรูญ เป็นพระที่นั่ง 3 ชั้น มีบันไดเวียน ทรงใช้เป็นที่ทอดพระเนตรสภาพบ้านเมืองโดยรอบ
  • โรงละคร รัชกาลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นบริเวณที่ประทับฝ่ายในเป็นพลับพลาไม้หลักเล็กๆ สร้างในสวนริมสระต่อจากพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรไปทางทิศตะวันตก
  • อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม) เป็นอนุสาวรีย์หินอ่อนบรรจุพระสริรังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทาฯ
  • อนุสาวรีย์พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์และเจ้าฟ้าสามพระองค์ อยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม
  • สภาคารราชประยูร เป็นตึก 2 ชั้น อยู่ริมแม่น้ำนอกกำแพงพระราชวังตั้งอยู่หน้าพระที่นั่งวโรภาสพิมานด้านทิศใต้ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้สร้างเป็นที่ประทับของเจ้านายฝ่ายหน้า
  • เหมมณเฑียรเทวราช เป็นศาลประดิษฐานเทวรูป รัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างขึ้นตรงศาลเดิมที่ชาวบ้านสร้างอุทิศถวายสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
  • วัดชุมพลนิกายาราม อยู่บริเวณหัวเกาะตรงสะพานข้ามไปยังสถานีรถไฟ สมเด็จพระเจ้าปราสาททองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2175
  • วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ อยู่นอกเกาะทางด้านทิศใต้คนละฝั่งกับพระราชวัง รัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างให้มีรูปทรงต่างจากวัดอื่นๆ เป็นศิลปะแบบกอธิก สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2421 โปรดให้เป็นพระอารามสำหรับพระสงฆ์ฝ่ายนิกายธรรมยุติ

การเดินทาง

  • ทางรถยนต์
    • ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    • ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) ข้ามสะพานนนทบุรี หรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานี ต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา(ทางหลวงหมายเลข 3111) แล้วแยกขวาที่อำเภอเสนาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3263 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    • ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี ทางหลวงหมายเลข 306 ถึงทางแยกสะพานปทุมธานี เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3309 ผ่านศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางปะอิน เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • ทางรถโดยสารประจำทาง
    รถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-อยุธยา มีทั้งรถธรรมดาและปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2(หมอชิต 2) ทุกวันๆละหลายเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 936-1972
  • ทางรถไฟ
    สามารถใช้ขบวนรถที่มีปลายทางสู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเขตอำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอภาชี ทางรถไฟจะแยกไปสายเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สถานีชุมทางบ้านภาชี ในแต่ละวันจะมีรถไฟบริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารขึ้นล่องวันละหลายเที่ยว
    นอกจากนี้การรถไฟ ยังจัดขบวนรถจักรไอน้ำเดินระหว่างกรุงเทพฯ-อยุธยา-กรุงเทพฯ ในโอกาสพิเศษปีละ 4 ขบวน คือ
    • วันที่ 26 มีนาคม(วันสถาปนาการรถไฟและวันที่ระลึกถึงการเปิดทางรถไฟสายแรกที่เดินรถระหว่างกรุงเทพฯ- นครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2433)
    • วันที่ 12 สิงหาคม(วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ)
    • วันที่ 23 ตุลาคม(วันปิยมหาราช เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงให้กำเนิดกิจการรถไฟไทย)
    • วันที่ 5 ธันวาคม(วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)

    รายละเอียดสอบถาม หน่วยบริการเดินทางสถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร. 223-7010 , 223-7020
  • ทางเรือ บริการเรือนำเที่ยวไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีดังนี้
    • บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัดจัดรายการนำเที่ยวสู่พระราชวังบางปะอิน ผ่านวัดไผ่ล้อม และแวะเที่ยวชมศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ทุกวันอาทิตย์ เริ่มออกเดินทางเวลา 08.00 น. และกลับถึงกรุงเทพฯ เวลา 17.30 น. อัตราค่าบริการคนละ 280 บาท ติดต่อได้ที่ โทร. 222-5330 , 225-3002-3
    • เรือโอเรียนเต็ลควีนจัดรายการนำเที่ยวพร้อมอาหารบุฟเฟ่และเครื่องดื่ม นำเที่ยวสู่พระราชวังบางปะอิน และพระนครศรีอยุธยาเป็นประจำทุกวัน โดยเรือจะออกจากท่าโรงแรมโอเรียนเต็ล บางรัก เวลาประมาณ 08.00-17.00 น. อัตราค่าบริการคนละ 1,800 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 236-0400-9
    • เรือรีเวอร์ซันครุ้ยส์บริการเดินเรือพร้อมอาหารเครื่องดื่มสู่พระราชวังบางปะอิน และนำเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเรือออกจากท่าเรือศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ เป็นประจำทุกวัน เวลา 08.00 น. อัตราค่าบริการคนละ 900-1,200 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. 226-9125 , 266-9316
    • เรือฮอริซันครุ้ยส์บริการนำเที่ยวอยุธยา พระราชวังบางปะอิน เดินทางโดยรถและกลับทางเรือ รถออกจากลานจอดรถใกล้โรงแรมแชงกลีล่าทุกวัน เวลา 08.00 น. อัตราค่าบริการพร้อมอาหารบนเรือ คนละ 1,490 บาท โทร. 236-7777 ต่อ 1204-5 , 236-9952
    • เรือเมฆขลามีบริการนำเที่ยวสู่พระราชวังบางปะอิน และนำเที่ยวพระนครศรีอยุธยา แบบ 2 วัน 1 คืน โดยเรือจะออกจากท่าโรงแรมแม่น้ำ เวลา 15.00 น. อัตราค่าบริการพร้อมอาหารเครื่องดื่มคนละ 3,500-4,500 บาท รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 256-7168-9
    • บริษัท อยุธยา ริเวอร์ ครุ้ยส์ จำกัดมีบริการนำเที่ยวชมเมืองอยุธยาและพระราชวังบางปะอิน โดยเรือเบญจรงค์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ทุกวัน อัตราค่าบริการล่องชมเมืองอยุธยา ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (035)234-153-4 , (01)928-8831

      นอกจากนี้การท่องเที่ยวทางน้ำเลียบชายฝั่งรอบเกาะเมืองทำได้โดยการเช่าเหมาเรือหางยาวได้ที่ท่าน้ำพระราชวังจันทรเกษม อัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและเส้นทาง
บันทึกจากประสบการณ์
ขอเชิญท่านที่เคยท่องเที่ยวหรือมีความทรงจำถึงอดีตต่ออุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา บันทึกเรื่องราวของท่าน เพื่อเป็นการระลึกถึง
บันทึกเรื่องราวของท่านได้ที่นี่