|
|||
เว็บไซท์ที่น่าสนใจ |
![]() ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)
เมื่อแม่ไก่ได้รับการผสมพันธุ์และวางไข่ไว้ภายในรังที่ เตรียมเอาไว้แล้ว จากการสัมภาษณ์นายสถิตย์ หลวงนันท์ ทำให้ทราบว่าชาวบ้านจะคัดไข่ที่เปลือกบาง มีผิวขรุขระ ฟองเล็กเกินไป ฟองโตเกินไป (ไข่แฝด) และฟองที่มีรอยแตกร้าวออกไป เพราะไข่เหล่านี้ถือว่าเป็นไข่ที่ผิดปกติอัตราการฟักออกเป็นตัวต่ำ ถึงออกเป็นตัวก็เป็นลูกไก่ที่ไม่สมบูรณ์ ไข่ที่คัดออกนี้สามารถนำไปประกอบอาหารได้ การคัดเลือกไข่นี้แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านฟูมฟักและพิถีพิถันมากจึงได้คัดพันธุ์ตั้งแต่ยังอยู่ในไข่ เพราะมีความเชื่อว่า ถ้าไข่มากเกินไปแม่ไก่จะกกได้ไม่ดี ไข่จะล้นอกแม่ไก่ทำให้ไข่เน่าเสีย ลูกที่เกิดมาจะไม่แข็งแรงและถ้าลูกไก่มีจำนวนมากเกินไปจะเกิดการแย่งอาหารกัน เวลานอนแม่ไก่จะกกได้ไม่ทั่วถึง ทำให้ลูกไก่ไม่สมบูรณ์จึงคัดไข่ส่วนหนึ่งออก เหลือไว้ 5 - 10 ฟอง โดยจะเหลือไข่ที่ฟองโตๆ หัวท้ายเรียวเอาไว้ เพราะเชื่อว่าเป็นไข่ที่จะให้ไก่ออกมาเป็นตัวผู้ที่สมบูรณ์ที่สุด (สถิตย์ หลวงนันท์, สัมภาษณ์, 10 มีนาคม 2545) ในการคัดไข่นี้ถ้าพิจารณาตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว เพราะไข่ฟองโตนั้น จะมีสารอาหารมากกว่าไข่ฟองเล็ก ลูกไก่ที่เกิดจากไข่ฟองโตจึงได้รับสารอาหารเป็นจำนวนมากนั่นย่อมหมายถึงความสมบูรณ์ของลูกไก่ที่จะเกิดมาจากไข่ฟองนั้นด้วย ส่วนไข่ที่มีหัวท้ายเรียวเชื่อว่าจะให้ลูกออกมาเป็นตัวผู้นั้นนายสงกรานต์ อภัยชาซึ่งเป็นผู้เลี้ยงไก่ชนมานานกว่ายี่สิบปีและปัจจุบันเป็นผู้เลี้ยงไก่ชนที่ฟาร์มยูงทอง จังหวัดขอนแก่น ได้ทดลองมาแล้วหลายครั้งปรากฏว่าเมื่อฟักออกมาจะเป็นไก่ตัวผู้กับไก่ตัวเมียครึ่งต่อครึ่ง (สงกรานต์ อภัยชา, สัมภาษณ์, 10 มกราคม 2545) และจากการสัมภาษณ์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บัญญัติ เหล่าไพบูลย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ปีก คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับการคัดไข่เพื่อเลือกเพศไก่นี้ว่า มีโอกาสเป็นเพศผู้และเพศเมียอย่างละ เท่ากัน และโครโมโซมของไก่นั้นจะแตกต่างจากสัตว์อื่นโดยทั่วไป กล่าวคือ สัตว์อื่นๆ เช่น โค กระบือ สามารถเลือกเพศลูกสัตว์เหล่านี้ได้โดยคัดจากน้ำเชื้อของตัวผู้ เพราะโครโมโซมที่กำหนดเพศจะอยู่ที่ตัวผู้ แต่ไก่นั้นโครโมโซมกำหนดเพศจะอยู่กับตัวเมีย ดังนั้นการคัดเลือกเพศของลูกไก่จะต้องคัดที่ไข่ ไม่ขึ้นอยู่กับขนาดหรือลักษณะของไข่ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีวิธีใดที่เลือกเพศลูกไก่ได้ (บัญญัติ เหล่าไพบูลย์, สัมภาษณ์, 26 มกราคม 2545) จะเห็นว่าภูมิปัญญาในการคัดไข่เพื่อเลือกเพศลูกไก่ของชาวบ้านถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ คือ พิจารณาคัดจากไข่ และผลที่ได้จากภูมิปัญญาชาวบ้านก็สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ คือเป็นเพศผู้ครึ่งต่อครึ่ง จากภูมิปัญญาชาวบ้านข้อนี้แม้ไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่เป็นสิ่งที่น่าคิดที่ชาวบ้านธรรมดารู้หลักวิทยาศาสตร์ที่ลุ่มลึกนี้ได้อย่างไร ภูมิปัญญาการคัดไข่ได้ถูกกระทำมาหลายยุคหลายสมัย จนเป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมาจวบจนปัจจุบัน เรียกได้ว่าผ่านกระบวนการพิสูจน์ซ้ำมาแล้ว ซึ่งภูมิปัญญานี้ช่วยให้ผู้เลี้ยงได้ไก่ที่มีความสมบูรณ์ แข็งแรง เลี้ยงไก่น้อยตัวแต่ได้ไก่ที่ดี และการเลี้ยงไก่น้อยตัวนี้จะช่วย ประหยัดข้าวประหยัดพื้นที่และประหยัดเวลาในการดูแลจึงถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดแต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ลงทุนน้อยแต่ได้ไก่ชนที่ดีที่สุด 3.3.5 การฟักไข่ เมื่อแม่ไก่วางไข่จนฟองสุดท้ายแล้วก็จะเริ่มกกไข่เอง ใช้เวลา 18 21 วันก็จะออกเป็นตัว นับเป็นความฉลาดบรรพบุรุษของคนไทยที่พยายามคัดเลือกสายพันธุ์ไก่ที่ฟักไข่เองได้ ชาวบ้านมักนิยมให้แม่ไก่กกไข่เอง และในปัจจุบันหากเป็นการเพาะเลี้ยงเพื่อในเชิงธุรกิจก็จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่วนมากเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีอยู่แถวภาคกลาง ซึ่งวิธีกกไข่ที่นิยมในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นที่พบมี 2 วิธี คือ 3.3.5.1 วิธีธรรมชาติโดยใช้แม่ไก่กกเอง เป็นวิธีที่ประหยัดและชาวบ้านนิยมทำกันมากที่สุด ระยะนี้แม่ไก่จะใช้เวลาเกือบทั้งวันในการกกไข่และคอยกลับไข่ ในช่วงนี้ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้มีสิ่งมารบกวน ต้องคอยดูแลเติมน้ำและให้อาหารแก่แม่ไก่อย่างพอเพียง เพราะถ้าแม่ไก่เกิดความเครียดหรือหิวอาจจะจิกกินไข่ของตนเองได้ เมื่อแม่ไก่กกไข่ได้ประมาณ 10 วัน ให้ทำการส่องไข่ดูว่ามีเชื้อหรือผสมติดหรือไม่ จากนั้นคัดไข่ที่ผสมไม่ติดออกไปเหลือไว้แต่ไข่ที่ผสมติดให้แม่ไก่กกไข่ต่อไปอีก ประมาณ 21 วันก็จะฟักออกเป็นตัว จึงปล่อยให้แม่ไก่เลี้ยงลูกเองหรือจะแยกเลี้ยงก็ได้ 3.3.5.2 วิธีจัดการให้แม่ไก่ตัวอื่นฟักแทน เป็นวิธีของนายสำเรียน เทพไกรวัลย์ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาแม่ไก่บางตัวอาจจะจิกกินไข่ของตนเองหรือจิกกินลูกไก่ที่ฟักออกมา ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากความเครียดจากการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ดีหรืออาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของแม่ไก่ก็ได้ ปัญหานี้แก้ไขได้โดยเก็บไข่ไปฝากให้แม่ไก่ตัวอื่นกกไข่แทน ชาวบ้านมักเรียกวิธีนี้ ว่า ใช้มือปืน ซึ่งก็หมายความว่าให้แม่ไก่ตัวอื่นกกไข่แทนนั่นเอง (สำเรียน เทพไกรวัลย์, สัมภาษณ์,12 มีนาคม 2545) เมื่อแม่ไก่กกไข่ไปประมาณ 7 วัน ชาวบ้านจะสำรวจไข่ว่ามีเชื้อหรือไม่โดยการเขย่าไข่และฟังดูว่ามีเสียงคลอนหรือไม่ ถ้าคลอนให้เก็บออกเพราะเป็นไข่เสียฟักไม่ออกเป็นตัว เมื่อแม่ไก่กกไข่ไปประมาณ 21 วัน ซึ่งชาวบ้านมักบอกว่า 3 ศีล นั่นคือ ไก่ใช้เวลากกไข่อยู่นับวันพระไป 3 ครั้งจึงจะฟักออกมาเป็นตัวและเมื่อฟักออกมาเป็นตัวแล้วจึงทำการกกลูกไก่ต่อไป(สำเรียน เทพไกรวัลย์, สัมภาษณ์,12 มีนาคม 2545) การให้แม่ไก่กกไข่เองนั้นมีข้อดีอยู่หลายประการ เช่น เป็นการประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลาที่ต้องมาคอยประคบประหงม และที่สำคัญคือลูกไก่จะได้รับความอบอุ่นและเรียนรู้สัญชาตญานจากแม่ไก่ ดังนั้นไก่ชนจึงไม่สมควรที่จะนำเข้าตู้ฟักไข่และตู้ฟักน่าจะนำมาใช้กรณีที่เป็นไก่พันธุ์เท่านั้น (วีระ สุวรรณศร, สัมภาษณ์, 18 สิงหาคม 2545) 3.3.6 การกกลูกไก่ การกกลูกไก่นี้เป็นการอนุบาลลูกไก่ที่เกิดมาในระยะแรก ร่างกายยังไม่แข็งแรงหากดูแลลูกไก่ระยะนี้ไม่ดีจะทำให้ลูกไก่ตายได้ จากศึกษาภาคสนามทำให้ทราบว่าผู้เลี้ยงไก่ชนในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นิยมกกลูกไก่โดยวิธีต่อไปนี้ คือ 3.3.6.1 วิธีธรรมชาติ เป็นวิธีกกลูกไก่ตามธรรมชาติ จากการออกเก็บข้อมูลภาคสนามพบว่าเป็นวิธีที่ชาวบ้านในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นนิยมโดยทั่วไปโดยปล่อยให้แม่ไก่กกลูกเอง เลี้ยงลูกเองตามลานบ้าน ชาวบ้านนิยมใช้วิธีนี้กันมาก เนื่องจากสะดวกสบาย ประหยัด แต่การกกลูกไก่โดยวิธีนี้ทำให้อัตราการตายของลูกไก่ในระยะแรกสูงมาก 3.3.6.2 วิธีกกโดยใช้สุ่ม เป็นวิธีที่ให้แม่ไก่กกลูกเองแต่แยกไม่ไก่กับลูกไก่ขังไว้ในสุ่มเป็นการแก้ปัญหาที่ลูกไก่ตายในระยะแรก ผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนโดยเฉพาะตามซุ้มใหญ่ๆ ที่ลงทุนซื้อพ่อ-แม่ไก่มาในราคาแพง เช่น ฟาร์มยูงทองของนายสงกรานต์ อภัยชา ซุ้มหนุ่มเจ้าถิ่นของนายประยูร โพธิ์ชัย ซุ้มเจ้าปู่ทองคำของนายศุภกร ภูคำแสนจึงหันมาใช้สุ่มขังแม่ไก่ให้กกลูกไก่จนแข็งแรง คอยทำความสะอาดพื้นและให้อาหารและน้ำอย่างพอเพียง เมื่อลูกไก่โตจนอายุได้ 1-2 เดือนจึงปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติ พบว่าการกกลูกไก่โดยวิธีนี้อัตราการตายของลูกไก่น้อยกว่าวิธีแรก 3.3.6.3 วิธีกกโดยใช้ถังซีเมนต์ เป็นวิธีที่จัดการกกลูกไก่โดยนายอุทิศ วงษ์พัฒน์ เป็นผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนเพื่อเป็นงานอดิเรกและเพื่อขาย มีประสบการณ์การเพาะเลี้ยงไก่ชนมามากกว่า 5 ปี เป็นชาวบ้านดอนบม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยกกในถังซีเมนต์ ที่ดัดแปลงมาจากถังส้วม หรืออาจเป็นโอ่งมังกรหรือตุ่มน้ำ โดยจับเข้านอนในตอนเย็นแล้วหาภาชนะมาปิดกันยุงและปล่อยไก่ในตอนสายในวันรุ่งขึ้น วิธีนี้ลูกไก่จะได้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ กันลมโกรก กันฝนและกันยุงได้เป็นอย่างดี พบว่าการกกลูกไก่โดยวิธีนี้อัตราการตายของลูกไก่น้อยมาก (อุทิศ วงษ์พัฒน์, สัมภาษณ์, 20 มีนาคม 2545) 3.3.6.4 วิธีกกโดยใช้ตู้ไฟฟ้า เป็นวิธีที่จัดการกกลูกไก่ในตู้กกที่ปิดล้อมด้วย ตาข่ายหรือมุ้งลวด เพราะตาข่ายจะช่วยป้องกันการรบกวนจากยุงและแมลงต่างๆ แล้วใช้ความอบอุ่นจากหลอดไฟขนาด 60-100 วัตต์ ชนิดกลม คอยดูแลให้น้ำและอาหารอย่างเพียงพอ วิธีนี้ ผู้วิจัยได้ทดลองทำด้วยตนเอง การกกลูกไก่โดยวิธีนี้ พบว่าอัตราการตายน้อยมาก จากการกกลูกไก่ของชาวบ้านในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นนี้ได้สอดคล้องกับรายงานการวิจัยของเทอดศักดิ์ คำเหม็ง ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ได้ศึกษาวิจัยการจัดการเลี้ยงกกลูกไก่พื้นเมืองโดยทำการทดลองในเขตมหาวิทยาลัยขอนแก่นและบ้านโนนม่วง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พบว่าการกกลูกไก่ 3 วิธี คือ การกกโดยแม่ไก่ กกโดยใช้สุ่มและกกโดยถังซีเมนต์ นั้นการกกลูกไก่ด้วยถังซีเมนต์อัตราการตายน้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังให้แม่ไก่กกเองเพราะเป็นการประหยัดและแม่ของไก่ชนสามารถกกลูกได้เอง แม่ไก่บางตัวสามารถเลี้ยงลูกรอดได้ถึงร้อยเปอร์เซนต์ แต่การรอดตายของลูกไก่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหาร-น้ำสะอาดและเพียงพอหรือไม่ การเกิดโรคระบาด การจิกตีกันเองและแม่ไก่เลี้ยงลูกไม่เก่งแต่ปัญหาเหล่านี้สามารถโดยการบริหารและการจัดการที่ดี และการให้แม่ไก่กกลูกเองมีข้อดีอย่างหนึ่ง คือ ลูกไก่ที่เกิดมานั้นได้เรียนรู้สัญชาติญาณการดำรงชีพและการหลบภัยจากแม่ เมื่อโตขึ้นจึงจะเป็นไก่ชนที่ฉลาด เอาตัวรอดเก่ง และที่สำคัญยังเป็นการลดต้นทุนในการผลิตอีกด้วย |
||
|