ไก่ชน2002    ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน  มองวิถีชีวิตคนผ่านการเลี้ยงไก่

ค้นหา:

วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2547

คุณเข้าเยี่ยมชมคนที่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เว็บไซท์ที่น่าสนใจ
ไก่ชนพม่า
ซุ้ม ป.โชคชั
ตรีเพชรฟาร์มไก่ชน
ไก่ชนชลดา
ไก่ชนสยาม

ซุ้มขุนแผน
ผู้ใหญ่แสน
บ้านไก่ชน

ไก่ชน.คอม
thai.net/สุ่มไก่ 
บ้านไก่ไทย
ไก่ชนไทย
geocities/สุ่มไก่
thaicockfight.com
kaichon.com 
ไก่ป่าก๋อย

ซุ้มอ่างแก้ว
เสียงไก่ชน
ประดู่.คอม

ซุ้มวัฒนาไก่ชน
กรมปศุสัตว์
บุญเลี้ยงไก่ชน
เว็ปนครใหญ่ฟาร์ม

                              
  ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)

        การคัดเลือกไข่

                  เมื่อแม่ไก่ได้รับการผสมพันธุ์และวางไข่ไว้ภายในรังที่  เตรียมเอาไว้แล้ว  จากการสัมภาษณ์นายสถิตย์  หลวงนันท์ ทำให้ทราบว่าชาวบ้านจะคัดไข่ที่เปลือกบาง  มีผิวขรุขระ  ฟองเล็กเกินไป  ฟองโตเกินไป (ไข่แฝด) และฟองที่มีรอยแตกร้าวออกไป  เพราะไข่เหล่านี้ถือว่าเป็นไข่ที่ผิดปกติอัตราการฟักออกเป็นตัวต่ำ  ถึงออกเป็นตัวก็เป็นลูกไก่ที่ไม่สมบูรณ์  ไข่ที่คัดออกนี้สามารถนำไปประกอบอาหารได้    การคัดเลือกไข่นี้แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านฟูมฟักและพิถีพิถันมากจึงได้คัดพันธุ์ตั้งแต่ยังอยู่ในไข่  เพราะมีความเชื่อว่า  ถ้าไข่มากเกินไปแม่ไก่จะกกได้ไม่ดี  ไข่จะล้นอกแม่ไก่ทำให้ไข่เน่าเสีย  ลูกที่เกิดมาจะไม่แข็งแรงและถ้าลูกไก่มีจำนวนมากเกินไปจะเกิดการแย่งอาหารกัน เวลานอนแม่ไก่จะกกได้ไม่ทั่วถึง  ทำให้ลูกไก่ไม่สมบูรณ์จึงคัดไข่ส่วนหนึ่งออก  เหลือไว้  5 - 10  ฟอง  โดยจะเหลือไข่ที่ฟองโตๆ  หัวท้ายเรียวเอาไว้  เพราะเชื่อว่าเป็นไข่ที่จะให้ไก่ออกมาเป็นตัวผู้ที่สมบูรณ์ที่สุด (สถิตย์  หลวงนันท์, สัมภาษณ์, 10 มีนาคม 2545)

ในการคัดไข่นี้ถ้าพิจารณาตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว  มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียว  เพราะไข่ฟองโตนั้น  จะมีสารอาหารมากกว่าไข่ฟองเล็ก  ลูกไก่ที่เกิดจากไข่ฟองโตจึงได้รับสารอาหารเป็นจำนวนมากนั่นย่อมหมายถึงความสมบูรณ์ของลูกไก่ที่จะเกิดมาจากไข่ฟองนั้นด้วย  ส่วนไข่ที่มีหัวท้ายเรียวเชื่อว่าจะให้ลูกออกมาเป็นตัวผู้นั้นนายสงกรานต์  อภัยชาซึ่งเป็นผู้เลี้ยงไก่ชนมานานกว่ายี่สิบปีและปัจจุบันเป็นผู้เลี้ยงไก่ชนที่ฟาร์มยูงทอง  จังหวัดขอนแก่น  ได้ทดลองมาแล้วหลายครั้งปรากฏว่าเมื่อฟักออกมาจะเป็นไก่ตัวผู้กับไก่ตัวเมียครึ่งต่อครึ่ง (สงกรานต์  อภัยชา, สัมภาษณ์, 10 มกราคม 2545)  และจากการสัมภาษณ์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บัญญัติ  เหล่าไพบูลย์  ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ปีก  คณะเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับการคัดไข่เพื่อเลือกเพศไก่นี้ว่า  มีโอกาสเป็นเพศผู้และเพศเมียอย่างละ  เท่ากัน  และโครโมโซมของไก่นั้นจะแตกต่างจากสัตว์อื่นโดยทั่วไป  กล่าวคือ  สัตว์อื่นๆ  เช่น  โค  กระบือ  สามารถเลือกเพศลูกสัตว์เหล่านี้ได้โดยคัดจากน้ำเชื้อของตัวผู้  เพราะโครโมโซมที่กำหนดเพศจะอยู่ที่ตัวผู้  แต่ไก่นั้นโครโมโซมกำหนดเพศจะอยู่กับตัวเมีย  ดังนั้นการคัดเลือกเพศของลูกไก่จะต้องคัดที่ไข่  ไม่ขึ้นอยู่กับขนาดหรือลักษณะของไข่  แต่ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีวิธีใดที่เลือกเพศลูกไก่ได้ (บัญญัติ  เหล่าไพบูลย์, สัมภาษณ์, 26  มกราคม  2545) จะเห็นว่าภูมิปัญญาในการคัดไข่เพื่อเลือกเพศลูกไก่ของชาวบ้านถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ คือ พิจารณาคัดจากไข่  และผลที่ได้จากภูมิปัญญาชาวบ้านก็สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ คือเป็นเพศผู้ครึ่งต่อครึ่ง จากภูมิปัญญาชาวบ้านข้อนี้แม้ไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่เป็นสิ่งที่น่าคิดที่ชาวบ้านธรรมดารู้หลักวิทยาศาสตร์ที่ลุ่มลึกนี้ได้อย่างไร

ภูมิปัญญาการคัดไข่ได้ถูกกระทำมาหลายยุคหลายสมัย  จนเป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมาจวบจนปัจจุบัน  เรียกได้ว่าผ่านกระบวนการพิสูจน์ซ้ำมาแล้ว ซึ่งภูมิปัญญานี้ช่วยให้ผู้เลี้ยงได้ไก่ที่มีความสมบูรณ์  แข็งแรง  เลี้ยงไก่น้อยตัวแต่ได้ไก่ที่ดี  และการเลี้ยงไก่น้อยตัวนี้จะช่วย ประหยัดข้าวประหยัดพื้นที่และประหยัดเวลาในการดูแลจึงถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดแต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ลงทุนน้อยแต่ได้ไก่ชนที่ดีที่สุด 

3.3.5  การฟักไข่

  เมื่อแม่ไก่วางไข่จนฟองสุดท้ายแล้วก็จะเริ่มกกไข่เอง  ใช้เวลา  18 – 21  วันก็จะออกเป็นตัว  นับเป็นความฉลาดบรรพบุรุษของคนไทยที่พยายามคัดเลือกสายพันธุ์ไก่ที่ฟักไข่เองได้  ชาวบ้านมักนิยมให้แม่ไก่กกไข่เอง  และในปัจจุบันหากเป็นการเพาะเลี้ยงเพื่อในเชิงธุรกิจก็จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่วนมากเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีอยู่แถวภาคกลาง  ซึ่งวิธีกกไข่ที่นิยมในอำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่นที่พบมี  วิธี คือ

  3.3.5.1 วิธีธรรมชาติโดยใช้แม่ไก่กกเอง  เป็นวิธีที่ประหยัดและชาวบ้านนิยมทำกันมากที่สุด ระยะนี้แม่ไก่จะใช้เวลาเกือบทั้งวันในการกกไข่และคอยกลับไข่ ในช่วงนี้ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้มีสิ่งมารบกวน ต้องคอยดูแลเติมน้ำและให้อาหารแก่แม่ไก่อย่างพอเพียง เพราะถ้าแม่ไก่เกิดความเครียดหรือหิวอาจจะจิกกินไข่ของตนเองได้ เมื่อแม่ไก่กกไข่ได้ประมาณ 10 วัน ให้ทำการส่องไข่ดูว่ามีเชื้อหรือผสมติดหรือไม่ จากนั้นคัดไข่ที่ผสมไม่ติดออกไปเหลือไว้แต่ไข่ที่ผสมติดให้แม่ไก่กกไข่ต่อไปอีก ประมาณ 21 วันก็จะฟักออกเป็นตัว จึงปล่อยให้แม่ไก่เลี้ยงลูกเองหรือจะแยกเลี้ยงก็ได้

            3.3.5.2  วิธีจัดการให้แม่ไก่ตัวอื่นฟักแทน  เป็นวิธีของนายสำเรียน  เทพไกรวัลย์ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาแม่ไก่บางตัวอาจจะจิกกินไข่ของตนเองหรือจิกกินลูกไก่ที่ฟักออกมา ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากความเครียดจากการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ดีหรืออาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของแม่ไก่ก็ได้ ปัญหานี้แก้ไขได้โดยเก็บไข่ไปฝากให้แม่ไก่ตัวอื่นกกไข่แทน ชาวบ้านมักเรียกวิธีนี้ ว่า  “ใช้มือปืน”  ซึ่งก็หมายความว่าให้แม่ไก่ตัวอื่นกกไข่แทนนั่นเอง (สำเรียน  เทพไกรวัลย์, สัมภาษณ์,12 มีนาคม 2545)

เมื่อแม่ไก่กกไข่ไปประมาณ  7 วัน ชาวบ้านจะสำรวจไข่ว่ามีเชื้อหรือไม่โดยการเขย่าไข่และฟังดูว่ามีเสียงคลอนหรือไม่  ถ้าคลอนให้เก็บออกเพราะเป็นไข่เสียฟักไม่ออกเป็นตัว เมื่อแม่ไก่กกไข่ไปประมาณ  21  วัน  ซึ่งชาวบ้านมักบอกว่า “3  ศีล” นั่นคือ  ไก่ใช้เวลากกไข่อยู่นับวันพระไป 3 ครั้งจึงจะฟักออกมาเป็นตัวและเมื่อฟักออกมาเป็นตัวแล้วจึงทำการกกลูกไก่ต่อไป(สำเรียน เทพไกรวัลย์, สัมภาษณ์,12 มีนาคม 2545)  การให้แม่ไก่กกไข่เองนั้นมีข้อดีอยู่หลายประการ  เช่น  เป็นการประหยัดต้นทุน  ประหยัดเวลาที่ต้องมาคอยประคบประหงม  และที่สำคัญคือลูกไก่จะได้รับความอบอุ่นและเรียนรู้สัญชาตญานจากแม่ไก่  ดังนั้นไก่ชนจึงไม่สมควรที่จะนำเข้าตู้ฟักไข่และตู้ฟักน่าจะนำมาใช้กรณีที่เป็นไก่พันธุ์เท่านั้น (วีระ  สุวรรณศร, สัมภาษณ์, 18  สิงหาคม  2545) 

3.3.6  การกกลูกไก่

  การกกลูกไก่นี้เป็นการอนุบาลลูกไก่ที่เกิดมาในระยะแรก  ร่างกายยังไม่แข็งแรงหากดูแลลูกไก่ระยะนี้ไม่ดีจะทำให้ลูกไก่ตายได้ จากศึกษาภาคสนามทำให้ทราบว่าผู้เลี้ยงไก่ชนในเขตอำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น  นิยมกกลูกไก่โดยวิธีต่อไปนี้  คือ

  3.3.6.1 วิธีธรรมชาติ เป็นวิธีกกลูกไก่ตามธรรมชาติ  จากการออกเก็บข้อมูลภาคสนามพบว่าเป็นวิธีที่ชาวบ้านในอำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่นนิยมโดยทั่วไปโดยปล่อยให้แม่ไก่กกลูกเอง เลี้ยงลูกเองตามลานบ้าน ชาวบ้านนิยมใช้วิธีนี้กันมาก เนื่องจากสะดวกสบาย ประหยัด แต่การกกลูกไก่โดยวิธีนี้ทำให้อัตราการตายของลูกไก่ในระยะแรกสูงมาก

                     3.3.6.2 วิธีกกโดยใช้สุ่ม เป็นวิธีที่ให้แม่ไก่กกลูกเองแต่แยกไม่ไก่กับลูกไก่ขังไว้ในสุ่มเป็นการแก้ปัญหาที่ลูกไก่ตายในระยะแรก  ผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนโดยเฉพาะตามซุ้มใหญ่ๆ  ที่ลงทุนซื้อพ่อ-แม่ไก่มาในราคาแพง เช่น  ฟาร์มยูงทองของนายสงกรานต์  อภัยชา ซุ้มหนุ่มเจ้าถิ่นของนายประยูร  โพธิ์ชัย  ซุ้มเจ้าปู่ทองคำของนายศุภกร  ภูคำแสนจึงหันมาใช้สุ่มขังแม่ไก่ให้กกลูกไก่จนแข็งแรง  คอยทำความสะอาดพื้นและให้อาหารและน้ำอย่างพอเพียง เมื่อลูกไก่โตจนอายุได้  1-2  เดือนจึงปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติ  พบว่าการกกลูกไก่โดยวิธีนี้อัตราการตายของลูกไก่น้อยกว่าวิธีแรก   

       3.3.6.3 วิธีกกโดยใช้ถังซีเมนต์ เป็นวิธีที่จัดการกกลูกไก่โดยนายอุทิศ  วงษ์พัฒน์  เป็นผู้เพาะเลี้ยงไก่ชนเพื่อเป็นงานอดิเรกและเพื่อขาย  มีประสบการณ์การเพาะเลี้ยงไก่ชนมามากกว่า  ปี  เป็นชาวบ้านดอนบม  อำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น    โดยกกในถังซีเมนต์ ที่ดัดแปลงมาจากถังส้วม หรืออาจเป็นโอ่งมังกรหรือตุ่มน้ำ  โดยจับเข้านอนในตอนเย็นแล้วหาภาชนะมาปิดกันยุงและปล่อยไก่ในตอนสายในวันรุ่งขึ้น  วิธีนี้ลูกไก่จะได้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ  กันลมโกรก  กันฝนและกันยุงได้เป็นอย่างดี  พบว่าการกกลูกไก่โดยวิธีนี้อัตราการตายของลูกไก่น้อยมาก (อุทิศ  วงษ์พัฒน์สัมภาษณ์, 20  มีนาคม 2545)

                     3.3.6.4 วิธีกกโดยใช้ตู้ไฟฟ้า เป็นวิธีที่จัดการกกลูกไก่ในตู้กกที่ปิดล้อมด้วย      ตาข่ายหรือมุ้งลวด เพราะตาข่ายจะช่วยป้องกันการรบกวนจากยุงและแมลงต่างๆ แล้วใช้ความอบอุ่นจากหลอดไฟขนาด 60-100 วัตต์ ชนิดกลม คอยดูแลให้น้ำและอาหารอย่างเพียงพอ วิธีนี้  ผู้วิจัยได้ทดลองทำด้วยตนเอง การกกลูกไก่โดยวิธีนี้ พบว่าอัตราการตายน้อยมาก

                    จากการกกลูกไก่ของชาวบ้านในอำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่นนี้ได้สอดคล้องกับรายงานการวิจัยของเทอดศักดิ์ คำเหม็ง  ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ได้ศึกษาวิจัยการจัดการเลี้ยงกกลูกไก่พื้นเมือโดยทำการทดลองในเขตมหาวิทยาลัยขอนแก่นและบ้านโนนม่วง  ตำบลศิลา  อำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น  พบว่าการกกลูกไก่ 3 วิธี คือ การกกโดยแม่ไก่ กกโดยใช้สุ่มและกกโดยถังซีเมนต์ นั้นการกกลูกไก่ด้วยถังซีเมนต์อัตราการตายน้อยที่สุด  แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังให้แม่ไก่กกเองเพราะเป็นการประหยัดและแม่ของไก่ชนสามารถกกลูกได้เอง  แม่ไก่บางตัวสามารถเลี้ยงลูกรอดได้ถึงร้อยเปอร์เซนต์  แต่การรอดตายของลูกไก่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง  เช่น  อาหาร-น้ำสะอาดและเพียงพอหรือไม่  การเกิดโรคระบาด  การจิกตีกันเองและแม่ไก่เลี้ยงลูกไม่เก่งแต่ปัญหาเหล่านี้สามารถโดยการบริหารและการจัดการที่ดี  และการให้แม่ไก่กกลูกเองมีข้อดีอย่างหนึ่ง  คือ ลูกไก่ที่เกิดมานั้นได้เรียนรู้สัญชาติญาณการดำรงชีพและการหลบภัยจากแม่  เมื่อโตขึ้นจึงจะเป็นไก่ชนที่ฉลาด  เอาตัวรอดเก่ง  และที่สำคัญยังเป็นการลดต้นทุนในการผลิตอีกด้วย

 อ่านต่อ
 ย้อนกลับ

กลับหน้าหลัก
กลับหน้าบทความวิชาการ

 

                                                           
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด
19/03/2547 23:03:36