อยากบอกเธอ..รักครั้งแรก" ต้นกำเนิด"แฟนฉัน"

Story@sTORY

EXTRA POEM

กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ

ชื่อนามสกุลแปลกๆ

นางเงือก

แบบทดสอบว่าเป็นคนชั่วไหม

ประวัติของเจี๊ยว

เพศศึกษาประสาเด็ก

เรื่องขำๆ

มองวงไหนวงนั้นจะหยุดหมุน

เรื่องหลอนๆ: เด็กน้อยกับช่องใส่ซีดี

อยากบอกเธอ..รักครั้งแรก ต้นกำเนิด"แฟนฉัน"

เรื่องขำขัน

นี่เป็นสาเหตุที่ผู้สูงอายุมักถูกทอดทิ้ง ให้อยู่อย่างเดียวดาย....

อ่านให้จบนะ...เพราะมันสำคัญมาก

" เพื่อน" คืออะไรเหรอ

มิตรภาพระหว่างเพื่อน

เพื่อนตั่งแต่A-Z

เพื่อนตั่งแต่ก-ฮ

เพื่อนสนิทของฉัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กลับขึ้นบน


เรื่องสั้นเรื่องนี้ คือต้นกำเนิดของหนังเรื่อง"แฟนฉัน" คุณวิทยา ทองอยู่ยง 1 ใน 6 ผู้กำกับ ได้เขียน เรื่องสั้นเรื่องนี้เอาไว้ ในเว็บไซต์www. nitade.net
ลองอ่านสิครับแล้วจะรู้ว่า ทำไมมันถึง“โดน”

" อยากบอกเธอ.......รักครั้งแรก
มันเป็นเรื่องที่อยู่ในลิ้นชักความทรงจำของผมมานานแล้วนานจนความทรงจำใหม่ๆเข้ามาทับ
เข้ามาซ้อน จนมันหลุดไปอยู่ลึกๆ จนหาไม่เจอ แล้วจู่ๆ
แม่ก็โทร.ทางไกลมาจากสระบุรีบ “น้อยเขาส่งการ์ดมาให้บอลน่ะ
เค้าจะแต่งงานวันเสาร์หน้าแล้วนะ”

“น้อย.......ไหนแม่” ผมงงน่ะ “ก้อ น้อย......หน่า ของเอ็งไง” แม่เฉลย

ภาพเก่าสมัยเด็กๆ ลอยขึ้นมาทันทีที่สิ้นคำว่า“ไง” ของแม่เด็กหญิงช่างพูด
อายุประมาน 6 ขวบ แก้ม แดง ตาแป๋ว ผมยาว ยาวจนต้องถักเปียทั้งสองข้าง
ตัวบางร่างเล็ก แต่มีของเยอะจนเด็กๆแถวบ้านชอบล้อเธอว่า“น้อยหน่านมใหญ่”

ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันใหญ่หรือไม่อย่างไร เพียงแต่เวลาเธอโดนล้อมากๆ
เธอจะร้องไห้กลับบ้าน
ทำให้ผมไม่มีเพื่อนเล่นผมจึงต้องไล่ตีไอ้คนล้อเธอทุกที(ไอ้สิ่งที่ผมทำไปเนี่ย
ถ้าผู้ใหญ่เค้าทำให้แก่กัน เค้าเรียกว่า ปกป้อง)

เราสองคนบ้านอยู่ติดกัน บ้านผมขายกาแฟและน้ำดื่ม
บ้านเธอขายข้าวราดคนกินข้าวร้านเธอ ก็จะสั่ง น้ำจากร้านผม คนมานั่งกินกาแฟ
พูดคุยสนทนาสภากาแฟ คุยกันเป็นวันๆที่ร้านผม พอหิวข้าว ก็สั่งข้าวร้านเธอ
ร้านของเรามีบริการdelivery โดยที่เราสองคนคือคนไปส่งของ และมักจะไปพร้อมๆกัน
เพราะคนสั่ง พร้อมกันเสมอๆ เธออายุมากกว่าผม 4 เดือน
และด้วยความที่แถวละแวกบ้านเรามีเด็กผู้หญิงเยอะกว่าเด็กชาย เวลาเล่นกัน
ถ้าไม่เล่นกระโดดยาง ก็จะเล่นขายของบ่อยๆ ผมก็ต้องยอม เพราะไม่งั้นก็ไม่
ได้เล่น ผมต้องเล่นเป็นพ่อ
น้อยหน่าเล่นเป็นแม่เพื่อนเธออีกคนเป็นลูกที่เหลือเป็นคนซื้อ
แม่ขายของอยู่บ้าน พอพ่อกลับบ้าน แม่ก็จะทำอาหารให้กิน
อาหารคือใบไม้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำเป๊บซี่ ที่ผม
แอบหยิบมาจากตู้แช่โดยไม่ให้แม่รู้ (ขโมย)
เอามาให้พวกเราเล่นกันส่วนกระโดดยางนั้น
เป็นเกมโปรดของน้อยหน่าเลยทีเดียวเพราะเธอเล่นเก่งมาก กระโดดได้สูง
ตั้งแต่อีตาตุ่ม ไล่ขึ้นไปอีเข่า อีตรง อีกระเป๋าล่าง อีกระเป๋าบน อีเอว อีพุง
อีอก อีคอ อีติ่ง อีหัว อีสูงสุด เธอโดดผ่านหมด
เธอเคยบอกว่าเธออยากเป็นนักกระโดดสูงไปแข่งโอลิมปิค ผมว่าเธอมีลุ้นทีเดียว
เราเล่นซนประสาเด็กๆ กันเกือบทุกวัน เช้าๆ
เธอตื่นเช้ากว่าผมก็จะขึ้นไปปลุกผมบนบ้าน
โดยใช้วิธีกระโดดทับตัวผมที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงจนผมตกใจสะดุ้งตื่นต้องรีบลุก
ไม่งั้นเธอกระโดดทับอีก ออกไปล้างหน้าแล้วลงไปเล่นกับเธอเที่ยงก็กลับมากินข้าว
จานใครจานมัน แต่กินน้ำ กระป๋องเดียวกัน ตกบ่ายก็เล่นกระโดดยาง
เย็นก็มานั่งดูโทรทัศน์ พวกไอ้มดแดง หน้ากากเสือ ด้วยกัน(ไอ้สิ่งเหล่านี้
ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าทำกัน เค้าเรียกว่าออกเดท)

เวลามีงานปีใหม่ ผู้ใหญ่ก็จะจับเราเต้นประกอบเพลง
และต้องเต้นคู่กันจนได้สตางค์เอามากินขนมกันหลายวัน(ถ้าเป็นผู้ใหญ่ทำ
เค้าเรียกกันว่า ช่วยกันทำมาหากิน) เวลาผ่านไป พอเราเข้าโรงเรียน
ผมก็เริ่มมีเพื่อนผู้ชายเหมือนน้อยหน่าที่เริ่มมีเพื่อนผู้หญิงมากขึ้น
โลกของผมกว้างใหญ่ขึ้น เริ่มมีจักรยาน ลูกข่าง เป่ากบเข้ามาในชีวิต แต่ยังไงๆ
ผมก็ยังมีกระโดดยาง เล่นขายของ และน้อยหน่า อยู่เหมือนเดิม
เรายังคงเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ จนกระทั่ง

-ผ ม เ ป็ น เ ห า!........................................
แม่บอกว่าติดมาจากน้อยหน่า ก็ผมเปียยาวสลวยคู่นั้นแหละ
เราโดนเพื่อนล้อแซวต่างๆนานา เรียก น้อยหน่าว่า อีเหา เรียกผมว่า ไอ้เหา
จนแม่ผมต้องเอาใบน้อยหน่ามาคั้นน้ำ แล้วโปะหัวไว้ ถึงจะหาย
แต่เพื่อนๆก็ยังเรียกผมว่าไอ้เหาอยู่ดี ต่อมาเมื่อผมเรียนลูกเสือสำรอง
ต้องตัดผมเกรียนนั่นแหละที่พวกมันเลิกเรียกชื่อนี้น้อยหน่าเสียใจที่
เป็นต้นเหตุให้ผมต้องเป็นเหา ผมบอกเธอว่า
ติดเหาจากเธอแต่ใบของเธอก็ทำให้ผมหายจากเหานะ (ไอ้สิ่งที่ผมทำนี้
ถ้าเป็นผู้ใหญ่เค้าเรียกว่า เกี้ยว)

ต่อมาไม่นานน้อยหน่าก็ตัดผมสั้น โดยบอกเหตุผลว่าต้องเรียนยุวกาชาด
แต่ผมว่าเธอต้องกลัวว่าจะทำให้ผมติดเหาเธออีกแน่เธอถึงยอมตัดเปียทิ้ง
(สิ่งที่เธอทำผู้ใหญ่เค้าเรียกว่า เสียสละเพื่อคนที่ตนรัก)
แต่เพื่อนๆก็ยังคงแซวเราเรื่อยๆ ว่าผมชอบเล่นกับผู้หญิงบ้าง
เป็นเหาเหมือนผู้หญิงบ้าง สงสัยม*งจะเป็นกะเทย จนผมทนไม่ได้
ต้องพิสูจน์ให้เพื่อนๆเห็นว่า ผมเป็นผู้ชาย การจะเป็นผู้ชายได้นั้น
มันต้องเกเร แกล้งผู้หญิง และขี่จักรยานปล่อยมือ

เย็นนั้นผมขี่จักรยานแต่ปล่อยมือข้างเดียวนำแก๊งซิ่งของพวกเ
ราไปที่วงกระโดดยางที่น ้อยหน่าเล่นอยู่เธอพูดเหมือนทุกครั้งว่าธอ “ บอล
มาช้าอีกแล้ว ไปหาคู่มา แล้วเป่า ยิ้ง ฉุบ เลือกข้าง”

แต่วันนี้ผมไม่ได้ช้า เพราะผมเดินไปถึงคนที่ถือหนังยางตั้งแต่เธอเรียกชื่อ บอล
แล้วพร้อมทั้งล้วงเอา กรรไกรออกมาตัดยางที่พวกเธอใช้กระโดดยาง
จนขาดเป็นเส้นเล็กเส้นน้อย เธอโมโห วิ่งมาตีผม
ผมผลักเธอล้มจนกระโปรงนักเรียนเธอเปิดเห็นกางเกงใน
แล้วก็วิ่งหนีขี่จักรยานจากไป(สิ่งที่ผมทำกับ เธอ ผู้ใหญ่ผู้หญิงเค้าเรียกว่า
งี่เง่า) คืนของเย็นนั้น ผมกลับเข้าบ้าน เจอแม่ของน้อยหน่า
ถามว่าทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า น้อยหน่ากลับ ถึงบ้าน ไม่พูดไม่จา ข้าวปลาไม่กิน
ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำตั้งนานออกมาก็เข้านอนเลย ผิดวิสัยที่เธอ ช่างพูด
ผมโกหกแกไปว่า วันนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย
สงสัยทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนมั้งครับ เช้าวัน ต่อมา น้อยหน่าหยุดเรียน
เธอไม่สบาย เป็นไข้หวัดต้องเข้าโรงพยาบาลหลายวัน ผมไม่กล้าไปเยี่ยมเธอ
เพราะรู้สึกผิดนิดๆ พอเธอกลับมาจากโรงพยาบาล
เธอก็ไม่พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นเลย และเปลี่ยนไป ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่
เล่นเหมือนเด็กผู้ชายอีกต่อไป ส่วนผมก็รู้ว่าเธอโกรธ แต่ก็ไม่กล้าง้อเธอ
เดี๋ยวเพื่อนมันจะหาว่าเป็นกะเทยอีก ก็เลยพลอยไม่กล้าไปเล่นบ้านเธอไปด้วย
เอาแต่เล่นลูกข่าง เป่ากบ ไปตามประสาเด็กผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง
เราเริ่มห่างกันเรื่อยๆ จนกระทั่งแม่เธอถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่สอง
จึงเลิกขายข้าวที่ร้านเดิม ไปเปิดห้องอาหารอยู่ข้างๆ โรงงานกระเบื้อง
ห่างไปประมาณ 4กิโล

วันสุดท้ายก่อนเธอจะย้ายบ้านผมรวบรวมวงยางที่ได้จากการเป่ากบที่เก็บไว้ในกระป๋องเยอะแยะ
มานั่งร้อยเป็นเส้นยาวๆ เอาไปให้เธอ แล้วบอกเธอว่า
“เราทำเส้นใหม่มาชดใช้ให้แล้ว” เธอหน้าบึ้งง “แล้วเล่นให้เก่งๆ
จนเป็นนักกีฬาทีมชาตินะ” เธอยังบึ้งอยู่แล้วค่อยๆยิ้มแก้มแดง ตาแป๋ว
(ไอ้แบบนี้ ถ้าผู้ใหญ่ทำกันเค้าเรียกว่า แง่งอน)
แล้วเราก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันบ่อยเหมือนแต่ก่อน ....
จนกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
................................................................

หลังจากที่แม่วางหูไปแล้ว ผมมาทบทวนเรื่องราวดูก็พบว่า
นั่นอาจเป็นรักแรกของผมก็ได้ รักแรบที่จบลงเพราะความงี่เง่าไม่เข้าท่า
กล้าผิดเรื่อง ไอ้เรื่องที่ควรกล้าก็ไม่กล้าว พ่อเคยบอกว่า
สำหรับเรื่องของความรู้สึกนั้น เราใช้อวัยวะสำคัญสองอย่างนี้แค่อันเดียวก็พอ
เพียงแต่ เรื่องความรักครั้งนี้ ผมดันเลือกปอด แทน หัวใจ......

ปล. น้อยหน่า ชื่อจริงชื่อ สุนิตา แต่งงานกับคุณมานพ
รองผู้จัดการโรงงานมินิแบร์ บางปะอิน อายุห่าง กัน 19 ปี ณ โรงแรมเกียวอัน จ.
สระบุรี เสาร์ที่ 28 ตุลาคมนี้18.00น. ถ้าว่างไปด้วยกันนะครับ
ผมคงจะไปบอกพี่มานพว่าฝากดูแลสุนิตาด้วย แล้วก็บอกน้อยหน่าว่า
ถ้าเธอมีน้องเมื่อไหร่ ตั้งชื่อว่า บอล นะ


 

 

|| H o m e ||
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ -:Friendship online :-ของชาวGreenGang 6'1 โรงเรียนชุมแสงชนูทิศ ..........