ปีที่ 2 ฉบับที่ 603 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะ
วิวาทะ
วิวาทะเรื่องเศร้าของคนข่าว "นิพพาน คือ อัตตา-อนัตตา" สสาร-พลังงาน ไม่สูญหาย |
เป็นเรื่องเศร้าสลดใจยิ่งต่อการนำเสนอข่าว วัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะข่าวหน้า 1 "เดลินิวส์" ประจำวันที่ 16 ก.พ. พาดหัวว่า "สอบสีกาธรรมกาย มุ่งสนิทเจ้าอาวาส" มีเนื้อหา พล.ต.ต. สมใจ โพดาพล ผู้ช่วย ผบช. ภ.4 นิมนต์ พระอดิศักดิ์ วิริยสักโก อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย มาสอบปากคำ เพื่อหาข้อมูลสีกา มีความสัมพันธ์กับ พระไชยบูลย์ ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
พล.ต.ต.สมใจ เปิดเผยหลังการสอบพระอดิศักดิ์ว่า .. ตำรวจภาค 1 มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานเตรียมพร้อม ขณะนี้ ยังไม่มีผู้ใด แจ้งกล่าวหาวัด และทางตำรวจก็ยังไม่พบข้อมูลทางลบของวัดเช่นกัน
ขณะเดียวกัน "เดลินิวส์" อ้างรายงานข่าวว่า ทางตำรวจภาค 1 ต้องพบกับอุปสรรคหลายเรื่อง ในการตรวจสอบ กลุ่มสีกา "สามัคคีธรรม" ซึ่ง "สีกาอี๊ด" เป็นแม่งาน กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้เปลี่ยนชื่อและนามสกุล รวมทั้งได้ย้ายถิ่นฐาน ที่อยู่ใหม่ เมื่อป้อนข้อมูล คอมพิวเตอร์ จะไม่ทราบเลยว่า หายไปไหน ขณะเดียวกัน ตำรวจก็ยังได้รับการข่มขู่ จากคนกลุ่มนี้ด้วย
ผมอ่านข่าว ออกจะสับสนเอาการอยู่ ไม่ทราบว่า ผู้ให้ข่าวคือ พล.ต.ต.สมใจกับรายงานข่าวที่ "เดลินิวส์" อ้าง "ใครน่าเชื่อถือ" กว่ากัน
วิเคราะห์ได้ว่า หากการเปลี่ยนชื่อที่อยู่ นามสกุล แล้วทำให้ตำรวจติดตามตัวผู้ต้องหาไม่ได้ ก็นับเป็นเรื่องชวนหัว ของผู้ที่อยู่ในวงการ ข่าวสาร หรือความมั่นคง
ถ้าจะนั่งเทียนไขข่าว ก็ควรใช้สมองวิเคราะห์ตามหลักความน่าจะเป็น ไม่ผิดที่ นสพ. แต่ละฉบับ จะมีจุดยืนชูข่าว นโยบายช่วง 2-3 เดือนผมติดตามข่าววัดพระธรรมกายในเดลินิวส์อย่างใกล้ชิด
แต่ดูเหมือนว่า
ข่าวหน้า 1 กับ
สกู๊ปเดลินิวส์จะเสนอประเด็นไปคนละทิศทางกันแล้ว
ผิดกับช่วงแรกที่เป็นเอกภาพทั้งหน้า
1 และสกู๊ป
ที่บอกว่า ไม่มีเอกภาพ
มันอย่างนี้ครับ ช่วงต้นๆ
สกู๊ปเดลินิวส์ฉะแหลกวัดพระธรรมกาย
ตั้งประเด็นทั้งทางโลก
หมายเอาถึงคดีอาญาต่อ
พระธัมมชโย สอดรับกับข่าวหน้า 1
แต่ตอนหลังๆ กลับแผ่ว
สกู๊ปเดลินิวส์ฟังธง
ตัดเรื่องการดำเนินคดีทางโลกทิ้ง
เหลือเพียงแต่ประเด็นทางธรรม
ขยายประเด็นทางธรรมคือ วัดพระธรรมกาย มีการสั่งสอนพระนิพพานเป็นอัตตา มีสถานที่ตั้ง สัมผัสได้นั้น ผิดเพี้ยนไปจากคำสั่งสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่แหละครับ ไหวพริบของทีมสกู๊ปเดลินิวส์
ผมไม่ทราบว่าคนเขียนสกู๊ปเดลินิวส์ผู้นี้มีชื่อแซ่อะไร?
ไม่ทราบอีกเหมือนกันว่า คุณคนนี้ศึกษาพระธรรมมาลึกซึ้งขนาดไหน จึงหาญกล้าหยิบยกของสูงส่งอย่าง "พระนิพพานเป็นอัตตา" เป็นคำสอนที่ผิดเพี้ยน
คนเราต่อให้เติบโตมาจากข้าวก้นบาตร ยกตัวอย่างเป็นเด็กวัด "อารามบอย" หากไม่มีจิตใฝ่ธรรม ไม่มีสัมมาทิฏฐิ เป็นทิศทาง ก็ยากที่จะเป็น คนดีของสังคมได้
ผมเขียนอย่างนี้ มิได้มีจิตลบหลู่เด็กวัดนะครับ เพราะเด็กวัดหลายคนเติบใหญ่ได้ดิบได้ดี เป็นถึง รมต. นายกรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง หลายคนแล้ว
แต่เด็กวัดเกเรนี่ซิ อาจพูดได้ว่า ใกล้เกลือกินด่าง แม้อยู่ใกล้ๆ หอพระไตรปิฎก ที่ปิดมุก ปิดทอง สวยสดงดงาม เพื่อเชิดชูพระธรรม ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่มีวันเข้าใจรสพระธรรมใดได้เลย
ต่อให้อ่านจนหูหนวก
ตาบอด จดจำถ้อยคำ
วรรคตอนบาลีจนแตกฉาน
ก็หาใช่ผู้รู้แจ้งเห็นจริงไม่
หากผู้นั้นไม่ลงมือปฎิบัติด้วยตนเอง
ผมขอแสดงความเศร้าสลดใจกับเด็กวัดกลุ่มนี้
จากใจจริงว่า
แม้แต่พุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าที่ตรัสว่า
"อย่าได้เชื่อโดยอ่านตำรา
แม้แต่ ตัวพระองค์เอง
ก็เชื่อไม่ได้
จะเชื่อต่อเมื่อท่านทั้งหลาย
ได้ปฏิบัติจนเห็นมรรค
เห็นผลด้วยตนเอง"
เห็นหรือยังครับ เรื่องพระนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา พระไตรปิฎกก็มิได้ชี้ชัดลงไปเสียด้วย ที่สำคัญวิทยาศาสตร์ ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้
เห็นทีเป็นหนังเรื่องยาวแน่ หากคิดจะเถียงเอาแพ้-ชนะ เพราะแท้จริงแล้ว อนัตตา-อัตตา ก็คือความไม่มีในมี ความมีในความไม่มี ล้วนเป็น อุปโลกน์สัญญาของสัตว์โลกที่กำหนดขึ้น จากตาเนื้อทั้งสิ้น
หยุดเถียงกันดีกว่าครับพระคุณเจ้า เพราะคนบาปหนา โดยเฉพาะพวกไม่รู้จริงอย่างผมและเพื่อนๆ สื่อมวลชนอีกมาก เดินใกล้ขุมนรก เข้าไปทุกวัน พูดกันไปไม่รู้กี่ร้อยชาติจะพ้นจากวังวนเวียนว่าย-ตาย-เกิด หรืออาจจะไม่ได้เกิด...
สรุปว่า ไม่ว่าจะวัดพระธรรมกายหรือวัดใดก็ตาม จะมีคำสอนเป็น "อนัตตา" หรือ "อัตตา" ในสายปฏิบัติกรรมฐาน ก็ขออย่าได้เอาตรงนี้ มาทำให้เกิด "สังฆเภท" เป็นดีที่สุด
เพราะกรรมทุกอย่างไม่มีสูญ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ฉันใด มนุษย์ที่ก่อกรรมทำชั่ว จะด้วยอวิชชา หรือ มิจฉาทิฏฐิ มิอาจพ้น บ่วงกรรมแห่งตนได้เลย
ตรงนี้เด่นชัดมากที่สุด ในหนังสือพุทธธรรมของพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก (ปยุต ปยุตฺโต) ท่านได้ลิขิตไว้ ถึงหลักธรรม ที่สามารถพิสูจน์ได้ สอดรับกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
ทั้งประเด็นวัฏสงสาร การเวียนว่าย ตาย เกิด น้อมลงที่ "กรรม" กุศลกรรมและอกุศลกรรม วัตถุ สสาร ธาตุ อากาศ ไม่สูญหายแน่ เพียงแต่ เปลี่ยนสถานะแห่งตน ผกผัน เป็นรูปใดรูปหนึ่งตามกรรม (ผมอ่านแล้วแปลเข้าใจได้อย่างนี้จริงๆ ครับ) พระเดชพระคุณ ควรมิควรอย่างไร สุดแท้ แต่จะโปรด
โซตัส