ปีที่ 2 ฉบับที่ 786 ประจำวันอังคารที่ 7 เดือนกันยายน พ.ศ. 2542

สหัสวรรษที่ 3

พลังชาวธรรมกาย หนึ่งแสนชื่อ อานุภาพแห่งหัวใจรักยุติธรรม

เมื่อวานนี้ เป็นวันครบรองหนึ่งปีพอดี ของอัศจรรย์ตะวันแก้ว อัศจรรย์บนท้องฟ้าที่ไม่มีใครคาดันปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปีที่แล้ว ภาพแห่งดวงอาทิตย์ ที่งามวิจิตรใสเป็นดวงแก้ว และเปลี่ยนสีเป็นสีรุ้ง บางคนเห็นภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ และดวงแก้วครอบดวงอาทิตย์

เมหือนอย่างที่สมเด็จโตเคยพูดไว้ เหตุอัศจรรย์ ถ้าใครไม่เห็นด้วยตนเอง ก็คงไม่เชื่อ คนที่เห็น ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ จริงครับ ถึงแม้จะมีคนอย่างน้อย สองหมื่นคน ที่เห็นพร้อมกัน เอาตัวไปขึ้นศาลไหน จะเอามีดมาตัดหัว เขาก็ยันยันว่า เห็นจริง เห็นด้วยตาตนเอง

แต่คนไม่เห็นก็ไม่ยอมเชื่อ และเหตุการณ์ได้ถูกขยายให้ลุกลามบานปลายใหญ่โต กลายเป็นเรื่องอื่น วัดพระธรรมกาย เป็นเป้าถูกใส่ร้ายจับผิดมาตลอดเวลาหนึ่งปีเต็ม แต่มอง อีก มุมหนึ่งก็ดีเหมือนกัน จากวัดเล็กๆ ที่ไม่มีใครสนใจ กลายเป็นวัดใหญ่ ระดับประเทศ และวันนี้ดังระดับโลก ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน จะด้วยเจตนาดีหรือร้ายก็ตาม

วันนี้วัดพระธรรมกาย ดังที่สุดในประเทศไทย แม้แต่เด็กเล็กเด็กน้อย ก็รู้จัก ในระดับนานาชาติ สื่อมวลชนทั่วโลกให้ความสนใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับวัดพุทธศาสนาในเมืองไทย ประเทศไทยที่ไม่เคยอยู่ในสายตาชาวโลก ในเรื่องพุทธศาสนา คนทั่วโลกรู้จักแต่พระธิเบต พระเวียดนาม พระญี่ปุ่น พระจีน ไม่มีใครรู้ว่า ประเทศที่พุทธศาสนามั่นคงที่สุดในโลก คือประเทศไทย

ครับ ระฆังที่ดีจริง ยิ่งตีแรงเท่าไรก็ยิ่งดังเท่านั้น ถึงแม้จะมีคนพยายามแปรเปลี่ยนความดังให้เสียงแปร่งๆ แต่ผลสุดท้ายชาวโลกจะเป็นผู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ คนไทย จะเป็น ผู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ เพราะคนเราถ้าบริสุทธิ์จริงแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวอะไร คนเราถ้ามือไม่มีบาดแผล จะจุ่มในยาพิษก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร และวันนี้สถาบันที่จะเป็นผู้ตัดสินนั้นก็คือ สถาบันศาลไทย

วันนี้ข้อหาที่กล่าวหาต่อหลวงพ่อธัมมชโย กำลังจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ถูกต้องของบ้านเมืองเสียที เพราะกระบวนการที่น่ากลัวที่สุด เปราะบางที่สุดคือ กระบวนการ ก่อนนำเข้าสู่ศาล การออกหมายเรียก การออกหมายจับ การใช้กำลังตำรวจเข้าตรวจค้น เป็นกระบวนการที่ใช้ดุลยพินิจของผู้มีอำนาจ ที่สามารถกลั่นแกล้งกันได้ ทำลายชื่อเสียงได้ เฮ้อ…อนิจจา

เป็นกระบวนการที่ถูกแทรกแซงทางการเมืองได้ สั่งได้โดยผู้มีอำนาจ ทั้งๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช ท่านพยายามเอากระบวนการยุติธรรม ระดับนานาชาติ มาใช้ใน เมืองไทยเต็มรูปแบบ แต่ร้อยกว่าปีในเมืองไทย อำนาจดำกฤษณาก็ยังอยู่ อำนาจมืดก็ยังอยู่ แม้แต่ตำรวจที่ดี รักความยุติธรรม จะยังมีอยู่ แต่ก็ต้องระวังอำนาจมืดจากนักการเมืองบ้าง จากสื่อมวลชนบ้าง จากผู้ไม่หวังดีต่อประเทศไทยบ้าง ที่จะคอยแทรกแซงตลอด

ทั้งๆ ที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ล่าสุด ของประเทศไทยระบุชัดคือ

"ในคดีอาญาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด แสดงว่าบุคคลใดได้กรทำความผิดต่อบุคคลนั้น เสมือนเป็น ผู้กระทำ ความผิดมิได้" (รธน.มาตรา 33)

ครับ วันนี้สื่อมวลชนไทย ได้ฉีกรัฐธรมนูญฉบับใหม่สุด ทิ้งอย่างไม่ใยดี ความเหี้ยมโหดอำมหิต ในการพาดหัวข่าวพิพากษา ถอดยศถอดบรรดาศักดิ์ เยาะเย้ยถากถาง เหมือน ผู้กระทำความผิดที่ถูกตัดสินแล้ว ทั้งกรมศาสนา ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ให้ข่าวสัมภาษณ์ "อัด" ตลอด

ทั้งที่ข้อหาก็ยังเป็นแค่เพียง "คำกล่าวหา"

ผมยังมีความเชื่อมั่นว่า บ้านเมืองนี้มีขื่อมีแป แม้สถาบันตำรวจจะมีสภาพเหมือนอย่างที่พวกเราเห็นในสองเดือนนี้ ภาษิตตำรวจที่ว่า เราอยู่ที่ไหน ประชาชนอุ่นใจ ตอนนี้ ประชาชนไม่อุ่นใจครับ

ตำรวจอยู่ที่ไหน ประชาชนหนาวสั่นจับใจ ตอนนี้คนดีกับคนร้าย แยกกันไม่ออก ตำรวจดีกับตำรวจร้าย ไม่รู้จะดูที่ตรงไหน ท่านประชาช่วยแยกแยะให้หน่อย เพราะประชาชน ตอนนี้คนดีกลายเป็นคนร้าย คนร้ายกลายเป็นคนดี

แต่ผมก็ยังเชื่อมั่น สถาบันยุติธรรมที่เหลือ คือสถาบันอัยการ และสถาบันศาล เพราะถ้าเปาบุ้นจิ้นก็ยังมีในเมืองจีนได้ ทำไมจะมีในเมืองไทยไม่ได้ ที่สำคัญคือมีข่าวออกมาว่า วันที่ 9 กันยายนนี้ ทางกรมตำรวจจะรีบสรุปสำนวนส่งกรมอัยการ ซึ่งผมว่าก็ดี เพราะผมก็มีความเชื่อมั่นในสถาบันอัยการและสถาบันศาลว่าเป็นที่พึ่งสุดท้ายของชาวบ้าน ผู้รักความ ยุติธรรมได้

ดีครับ วันที่ 9 เดือน 9 ปีฝรั่ง 999 ตัวเลขนี้ดีครับ ผมว่าส่งเรื่องไปให้กรมอัยการ ซึ่งเป็นโจทก์ก็ตัวจริงเถอะครับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ไปทำหน้าที่อื่นเสียที คดียา เสพติด คดีข่มขืน อาชญากรรม คดีโกงชาติเป็นหมื่นล้านบาท รออยู่เต็มกรมอยู่แล้ว การจับพระมันง่าย เพราะยิงนกในกรง ไม่ต้องใช้ฝีมือหรอกครับ ไม่ต้องใช้ตำรวจเป็นร้อย เพราะหลวงพ่อท่านก็เทศน์อยู่ที่วัด ไม่หนีไปไหนหรอกครับ ตำรวจไปกันคนสองคน พระกกลัวแทบจะแย่อยู่แล้ว

กราบเถอะ หยุดทำบาปเพิ่มเถอะครับ แค่นี้คนวัดก็แผ่เมตตากันไม่ไหวอยู่แล้ว

เมื่อวานซืนนี้ มีรายการสนุกมาก ตอนบ่ายหลวงเตี่ย พระธรรมราชานุวัตร ซึ่งโดนย่ำยีกลางทีวีไปเปิดใจให้พวกเราฟัง แถมยังมีรายการเสวนาเรื่อง "สิทธิตามรัฐธรรมนูญ" ของชาวธรรมกายา ที่เราจะขอความยุติธรรม ในฐานะคนไทย มิใช่เรื่องขอแยกนิกาย ที่บรรดาเปรตทั้งหลายพยายามเบี่ยงเบน ปั้นเรื่องขึ้นมาชี้นำให้คนเข้าใจผิด ตามนิสัยโจรเช่นเดิม

วันนี้รีบช่วยกันเซ็นให้ได้สักแสนชื่อ จะได้ถอดถอนนักการเมืองที่ทำผิดรัฐธรรมนูญ เป็นคดีประวัติศาสตร์ครั้งแรกในเมืองไทย ฉลองสิทธิตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อวานซืนนี้ มีคนส่งรายชื่อนักการเมืองที่สมควรถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เพราะทำผิดรัฐธรรมนูญอย่างแจ้งชัดมากมาย

แม้พุทธภาษิตจะบอกว่า "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" แต่ถ้าเราอดทนถึงที่สุดแล้ว เราพยายามอธิบายให้เข้าใจก็แล้ว พยายามทำดีก็แล้ว ให้อภัยก็แล้ว แต่ก็ยังร้ายไม่หยุด

คำว่า ยุติธรรม แปลว่า ธรรมที่ต้องยุติ ก็ต้องไปยุติกันที่ศาลสูงสุดทั้งคู่ ถือว่ามิได้จองเวรครับ แต่เป็นสิทธิในการป้องกันตัวตามกฎหมาย เป็นไปตามกฎแห่งกรรมต่างหาก

"กาขาว"

[หน้าหลัก] [หน้า1][สหัสวรรษ][ปุจฉา]