ปีที่ 2 ฉบับที่ 814 ประจำวันอังคารที่ 5 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

เจาะคน เจาะข่าว

เตือนสติ

คำเตือนด้วยความจริงใจ
แม้จะรุนแรงสุดขานไข
แต่ยังไงก็ควรเก็บไปคิด
แก้ไขสิ่งผิดแล้วจะไชโย

สำนักข่าวต่างดาว เปิดแถลงแจงสี่เบี้ยว่าด้วยเรื่อง อัยการสั่งฟ้องพระธัมมชโย งานนี้ เล่นแรง กะเอาพระเข้าคุกยาว 25 ปี ไม่โหดเลยนะพี่ คดีพันล้าน ฟ้องแค่ 6.8 ล้าน นี่ถ้าฟ้องครบทุกคดี ไม่ติดนานเป็นพันปีเหรอ? 

เมื่อวานนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อัยการเขาตัดสินออกมาแล้วว่า ให้สั่งฟ้องพระธัมมชโย และนายถาวร พรหมถาวร ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานาและผู้สนับสนุนยักยอกทรัพย์

ทั้งนี้ อัยการยืนยันว่า พระธัมมชโย จ่ายเช็คให้นายถาวร 5 ใบ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 6.8 ล้านบาท เพื่อให้ไปซื้อที่ดิน ประเด็นปัญหาทั้งมวล ก็เลยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่

ทีนี้ ก็ต้องมาตั้งคำถามว่า ทำไม? อัยการถึงฟ้องคดีแค่จิ๊บจ๊อย ในเมื่อตำรวจส่งสำนวนให้ หนากว่า 6 พันหน้า

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้ความเห็นว่า ที่อัยการฟ้องคดีเล็กๆ ก่อน ก็เพราะว่า สืบง่ายจบง่าย เอกสารหลักฐานก็ไม่ซับซ้อน

ข้อสำคัญก็คือ งานนี้ อัยการเล่นหนัก หลักฐานมัดแน่น เพระมีการโอนเงินจากวัดไปจริง โดยพระธัมมชโย จ่ายเงินของวัดไป ด้วยการออกเช็ค 5 ใบ และนายถาวรก็เอาเงินดังกล่าว ไปซื้อที่ดิน

อัยการยืนยันว่า หลักฐานที่มีอยู่มัดแน่น และครบองค์ประกอบของกฎหมายครบถ้วน

แต่นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญ ให้ความเห็นว่า หากทางพระธัมมชโยต่อสู้ว่า "ไม่มีเจตนาทุจริต" ล่ะ

แม้ว่า จะมีการโอนเงินของวัดไป ซื้อที่ดินจริงก็ตาม แต่ถ้าพระธัมมชโย ถือครองในนามตนเอง แทนวัด ทั้งนี้ เพื่อเอาที่ดินดังกล่าวไปสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม

ตรงนี้แหละครับ ที่จะเป็นข้อต่อสู้ เพราะเรื่องการพิสูจน์เจตนานั้น เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก ถ้าอัยการนำสืบไม่ดี ทำให้ศาลค้างคาใจ มีข้อสงสัย ศาลก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลยอยู่แล้ว

ดังนั้น คุณสนธยา โพธิ์แดง จะต้องหาพยานหลักฐาน มายันสู้ตรงนี้ให้ได้

ทว่า มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่สำนักข่าวต่างดาว อยากติติง ที่ปรึกษาวัดพระธรรมกาย ซักหน่อย โดยเฉพาะเรื่องการอ้างป่วย เพื่อไม่เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยของอัยการ

ที่ต้องติงก็เพราะว่า อัยการเขาไม่เชื่อ ก็เลยให้หมอจากโรงพยาบาลตำรวจ เดินทางไปตรวจถึงวัด และหมอโรงพยาบาลตำรวจ ลงความเห็นว่า ไม่ได้ป่วยจริง

ตรงนี้แหละครับ ที่เป็น "จุดอ่อน" พระธัมมชโย ท่านเป็นพระ มีศีลบริบูรณ์ แต่เมื่อภาพที่เผยแพร่สู่สาธารณชน กลายเป็นว่า ที่ปรึกษา "ยุให้พระโกหก" คนทั้งประเทศเขาจะลงมติ มีความเห็นเช่นใด?

ไม่เชื่อลองดูข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่า สำนักข่าวต่างดาวไม่เตือน

คดีวัดพระธรรมกาย เป็นคดีใหญ่ ผู้คนให้ความสนใจทั้งประเทศ งานนี้ ตำรวจเขาแพ้ไม่ได้

ดังนั้น ทางวัดพระธรรมกาย ควรจะปิดช่องว่างรอยโหว่ของตนเองให้ดี ไม่ใช่เปิดหน้าให้เพื่อนชก

แทนที่จะดึงเรื่องให้ยาวออกไปได้ แต่การณ์กลับเป็นว่า ถูกเพื่อนยำซะเละ ที่สำคัญจะทำให้เจ้าอาวาส ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะลองพระโกหกแล้ว ชาวบ้านก็จะถือว่า พระผิดศีล ข้อมุสา แล้วมันจะเหลืออะไร ให้ชาวบ้านศรัทธา

แน่นอน คำเตือนนี้ อาจจะดูรุนแรง แต่เราเห็นวิธีดำเนินการของวัดในระยะหลัง บิดๆ เบี้ยวๆ ยังไงพิกล

นอกจากเพิ่มศัตรู อย่างไม่จำกัดจำนวนแล้ว ยังไม่ค่อยทำอะไรตรงไปตรงมา ซึ่งเรื่องนี้ สร้างความเสียหายให้กับภาพพจน์ของวัดเป็นอย่างมาก

สำนักข่าวต่างดาว ที่เอาใจช่วยมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องที่วัด ถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือเขียนข่าวเกินจริง ก็เลยรู้สึกเหี่ยวตามไปด้วย

อยากบอกท่านผู้เจริญทั้งหลายว่า "ศาลตัดสินน่ะ ไม่เท่ากับประชาชนตัดสิน"

เมื่อประชาชนมองว่า "พระโกหก" จะแก้ตัวอย่างไร คนเขาก็ไม่มีวันฟังหรอก

จากสถานการณ์ที่กำลังดีวันดีคืน เลยต้องกลับมาเป็นรองอีกครั้ง อย่างไม่น่าพลาด

ครั้งนี้ อาจจะเขียนหนักเกินไปหน่อย แต่ก็อยากให้เหล่ากัลยาณมิตร ให้อภัยกัน เพราะเราเตือนมาด้วยความหวังดีจริงๆ

คำเตือนด้วยความจริงใจ แม้จะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่ก็ก็ดีกว่าที่พลาดแล้ว ไม่มีการแก้ไข

ส่วนกัลยาณมิตรท่านใด อยากด่าสำนักข่าวต่างดาว ก็เชิญด่าได้ตามสบาย ถ้าพูดความจริงแล้ว ถูกด่า เราก็ยอมรับ


[หน้าหลัก][หน้า1][เจาะคน][สหัสวรรษ][วิวาทะ]