วิวาทะ

รัฐมนตรีกระทรวงศึกษา เข้าใจกฎมหาเถรสมาคมดีเพียงใด?

วันนี้ เสียงโทรศัพท์ดังสนั่นหวั่นไหวทั้งกองบก.พิมพ์ไทย พุ่งตรงมาที่คอลัมน์ "สำนักข่าวต่างดาว" ที่เขียนถึงการทำงานของทีมที่ปรึกษา และทีมกฎหมายของวัดพระธรรมกาย

อ่านดูให้ดีๆ เถิดครับ ยาขมหม้อใหญ่ๆ รสชาติไม่หอมหวานเหมือนน้ำอัดลม แต่อาจใช้เป็นยาบำบัดอาการเจ็บไข้ได้

ผมก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ออกจะสับสนต่อการทำงานของทนายความวัด

และยังสับสนไปถึงท่านอัยการสูงสุดด้วยว่า เหตุใดจึงมีวินิจฉัยต้องนำตัวเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมรับฟังคำสั่งฟ้อง ถึงขั้นต้องให้แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ เดินทางไป ตรวจสอบอาการอาพาธของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ถึงวัด

งง! จริงๆ ครับ เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ระบุให้จำเลยมารับฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้น แท้จริงแล้วกฎหมายต้องการรักษาผลประโยชน์ให้กับจำเลย

ทางกลับกันในเมื่อจำเลยไม่มารับฟังด้วยตนเอง เพราะอาการป่วยไข้ ทนายความ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งชอบด้วยกฎหมาย สามารถทำหน้าที่รับฟังคำสั่งฟ้องจากอัยการ ได้ตามสิทธ ิ์โดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว

ทนายความต้องทำหน้าที่ให้เข้มแข็งกว่านี้

สรุปว่าต้องทำการบ้านให้หนักกว่านี้

ผมอดใจหายไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงแรกที่ สนธยา โพธิ์แดง ทนายความวัดพระธรรมกาย ออกมาพูดเป็นตุเป็นตะ อ้างถึงสิทธิ์ในการนับถือศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ จนถูกฝ่ายตรงข้ามตอบโต้กลับละเอียด

การออกมาพูดครั้งนั้นของท่านทนายความ เป็นการเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามที่จ้องจับผิด เก็บเอาไปเป็นเรื่องนินทาในวงเหล้าก็มี เอาไปพูดกันในกำแพงวัดก็มากโข อย่าลืมซิครับว่า พระที่วัดพระธรรมกาย ท่านอยู่ในเถรวาท จะคิดอะไรทำอะไร ต้องคำนึงถึงคำว่า เถรวาท

คำพูดของมนุษย์ โดยเฉพาะที่ว่า ภาษาไทยดิ้นได้ ผมอาจเข้าใจ สนธยา โพธิ์แดง ผิดๆ ก็เป็นได้ แต่คำพูดเมื่อครั้งนั้นมันทำให้ผมไม่สบายใจมาจนถึงทุกวันนี้ และยังเป็นปมประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามเขาถล่มโจมตี เป็นเรื่องไม่บังควรยิ่ง

ต้องทำการบ้านให้หนักกว่านี้ครับ ต้องเปิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคม ควบคู่ไปกับกฎหมายอาญา ทั้งสองอย่างต้องดำเนินไปด้วยกันครับ จะเอาส่วนหนึ่ง ละส่วนหนึ่งไม่ได้ครับ

นักกฎหมายจะเลือกตีความเข้าข้างตัวเองไม่ได้ ที่ย้ำว่าจะต้องทำการบ้านให้หนักๆ นั้น ต้องถอดหัวใจตัวเองมองกลับไปเป็นฝ่ายรุกบ้าง พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นอัยการนั่นแหละ ถ้าท่านทนายความเป็นอัยการจะงัดอะไรออกมาสู้

อย่ามองเป็นเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก

เพราะผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย หรือเป็นอัศวินม้าขาว ขันอาสามาช่วยวัดสะสางปัญหา โดยไม่หวังอามิสสินจ้างใดๆ ก็ตามที

แต่อย่าลืมว่า อาการเคลื่อนไหวทุกลมหายใจเข้าออก สังคมเขาจะเข้าใจทันทีว่า เป็นอาการเคลื่อนไหวของพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกายทั้งวัด

ไม่ว่าจะเป็น คุณ ดร.เบญจ์ บาระกุล หรือใครก็ตามที แม้แต่ นสพ.พิมพ์ไทย ก็ยังถูกสังคมมองเหมารวมเป็นกระบอกเสียงของวัดพระธรรมกายไปเสียฉิบ

อาจมีคำถามตามมาว่า ทำไมสังคมต้องมองอย่างนั้นกับหลวงพ่อ หรือกับธรรมกาย ก็เพราะความด่วนสรุปของคนในสังคมนั่นเอง

ผมเขียนไปอย่างนี้ จะมีใครตำหนิว่าผมก็เชิญครับ เพราะผมพูดจากใจจริง ไม่อยากเห็นวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีศักยภาพในการเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้า ต้องมีอันเป็นไป

ศรัทธาหาหมายถึงความเชื่อแล้ว ขอพุทธบริษัทจงเชื่อแบบมีปัญญาเป็นเครื่องเตือนสติ ติดตาม ไตร่ตรอง นำเหตุไปหาผล

สำคัญที่สุดทุกอาการเคลื่อนไหว ผู้ที่ตกเป็นจำเลยในศาล ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน 

ใจเย็นๆ เถิดครับ เรื่องของพระพุทธศาสนา ทุกอย่างจะยุติกันที่ศาลยุติธรรมเท่านั้น

กระทรวงศึกษาธิการ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เร่งรีบทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ให้พิจารณาปลด หรือพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

หากบ้านเมืองเราปราบโจรผู้ร้าย โดยเฉพาะนักการเมืองขี้ฉ้อ โกงบ้าน กินเมือง ได้รวดเร็วเหมือนกรณีนักการเมืองไล่ล่าพระภิกษุในพุทธศาสนา

ประเทศไทยคงไม่ตกต่ำถึงเพียงนี้ ประชาชนคงไม่มีหนี้สินล้นพ้นท่วมหัว

การเสนอหน้าทำหนังสือสอนเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ให้พิจารณากฎมส. เท่ากับเป็นการก้าวก่าย แทรกแซงการทำหน้าที่ของคณะสงฆ์

เพราะในกฎมส. ไม่ได้ระบุให้รมต. หรือกระทรวงศึกษาธิการ เสนอหน้า "เสือก" พระผู้พิจารณากรณีนี้ คือ พระสุเมธาภรณ์ ท่านมีภูมิปัญญาสามารถตัดสินใจตามหน้าที่ สิทธิ์ อำนาจของท่าน

หากเห็นว่า พระผู้ต้องคดีความอาญา อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วจะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย ท่านก็พิจารณาสั่งพักตำแหน่งไว้ชั่วคราว จนกว่าคดีทางโลกจะถึงที่สุด

กลับกัน ถ้าหกท่านเห็นว่า พระธัมมชโยอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อไป ไม่ทำความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา ก็ไม่มีเหตุผลใดจะต้องสั่งพัก

นี่คือหลักการ และเจตนารมณ์ของกฎมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นกฎหมายปกครองหมู่สงฆ์ เสี่ยตือคงไม่งี่เง่าปัญญาอ่อนเสนอหน้าฉกลิ้นไปเลียหัวพระ

ใจเย็นๆ หน่อยเถิดคุณโยม กฎหมาย พ.ร.บ.สงฆ์ ฉบับหัวดำปกครองสงฆ์ ยังไม่ผ่าน อย่าลืมซิเจ้าหนูน้อยเอ๋ย

โซตัส